หากนับในแง่ความสำเร็จในการเป็นนักกีฬาอาชีพ เขาอาจจะไม่ใช่นักกีฬาชาวไทยที่ประสบความสำเร็จที่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบกับ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ที่เขย่าวงการกอล์ฟหญิงของโลกได้อย่างน่าทึ่ง
หากเทียบกับนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ สิ่งที่เขาทำได้ ยังดูด้อยกว่าสิ่งที่ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เคยทำไว้กับ สโมสรลัคกี้ โกล สตาร์ (เอฟซี โซล ในปัจจุบัน) และแน่นอน ยังเทียบไม่ได้กับการตะลุย บุนเดสลีกา เยอรมันของ วิทยา เลาหกุล
แต่หากถามถึง นักกีฬาอาชีพที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีที่สุดในรอบขวบปีที่ผ่านมา และหากจะพูดถึงใครสักคนที่สามารถเป็น “ต้นแบบชีวิต” ให้กับทั้งคนรุ่นเดียวกัน, คนรุ่นหลัง และแม้แต่คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนได้อย่างดี ถึงความมุมานะ อดทน พยายาม และตอบทุกข้อสงสัยด้วยผลงาน ในวันที่โลกใบนี้ ตัดสินค่าของคนที่ผลของงาน
คงต้องยกให้เขาคนนี้ ใช่ครับ… ผมกำลังหมายถึงผู้ชายที่ชื่อว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์
“เจ้า CS18” ที่บันดาลปฏิทินชีวิตแห่งปี 2018 ของตนเองได้น่าอัศจรรย์….
เปิดฉากอย่างเร้าใจ
ชนาธิป ย้ายไปอยู่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัวจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อกลางปี 2017 และเป็นนักกีฬาฟุตบอลไทยคนแรกที่ได้ลงสนามในลีกสูงสุดของญี่ปุ่น ในวันที่เป็นลีกอาชีพเต็มตัว
เขาแบกรับความกดดัน แบกรับการปรับตัวที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟุตบอล เรื่องนอกสนาม เรื่องภาษา และยังมีความเกรงใจเพื่อนร่วมทีม
เขาจบครึ่งซีซั่นแรกได้ไม่ดีนัก ด้วยการยิงไม่ได้เลยสักลูกจาก 16 เกมที่ได้ลงเล่นในศึก เจ ลีก 2017 แต่ยังดีที่ทีมของเขา รอดพ้นจากการตกชั้น และนั่นทำให้เขายังคงอยู่ในสัญญายืมตัวในอีก 12 เดือนสุดท้าย ในฐานะนักเตะ เจ ลีก ไม่ใช่ เจทู
ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากได้ในครึ่งปีหลังของปี 2017 นั่นคือ “ความรัก”
ความรักระหว่างเขา และนักแสดงสาวคนสวยวัยห่างกันนับ 10 ปี อย่าง “เมย์” พิชญ์นาฏ สาขากร
ความรักของเขา และเธอ กลายเป็นเรื่องส่วนรวม เพราะความดังของทั้งคู่
และต้นปี 2018 ความรักก็พังสลายหายวับชั่วพริบตา ท่ามกลางความช็อคของแฟนคลับของทั้งคู่
เมื่อความห่างไกลแค่ไหนก็กลายเป็นใกล้อย่างที่เคย กลายเป็นความห่างกันไกลแม้เพียงชิดใกล้
“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน และเวลา
บางครั้งเราก็รักผิดคนในเวลาที่พอดี
และบางครั้งเราก็เลือกรักถูกคน เพียงแค่มันผิดเวลาไปหน่อย”
ความรักของทั้งคู่จบลง เรื่องราวมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในช่วงที่เขากำลังอยู่ในระหว่างปรีซีซั่นกับสโมสร
อกหัก / ซ้อมบอล / อยู่ไกลบ้านเกิด / เป็นห่วงพ่อแม่ / ถูกด่าและดูถูกต่างๆ นาๆ ในไอจี และเฟสบุ๊คส่วนตัว
เขาจะผ่านมันไปอย่างไร….
ภาพยนตร์ชีวิตมันต้องเริ่มต้นแบบนี้
ให้หลังเพียงไม่กี่สัปดาห์ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องลงสนามในเกม เจ ลีก 2018 แมตช์แรกของฤดูกาล ด้วยการพา คอนซาโดเล่ ซัปโปโร บุกไปเยือน ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ที่มี “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกชาวไทยอีกราย ลงสนาม และเหมือนบทละครชีวิตได้เขียนเอาไว้ ชีวิตของ CS18 กระท่อนกระแท่นอีกครั้ง เมื่อประตูโทนลูกเดียวในเกมนี้ เกิดขึ้นจากปลายสตั๊ดของ “พี่มุ้ย”
เป็นเกมที่ดูอึดอัดของ ชนาธิป เขาลงสนามในแบบที่เต็มไปด้วยความกังวล การเล่นของเขาไม่ผ่อนคลาย ไม่เป็นตัวเอง และดูเหมือนว่า อะไรบางอย่างในใจ กำลังบดบังศักยภาพในสนามของเขา
เมื่อ 2-1=0 ก็เริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วยตัวเอง
หลังจากก้มหน้าก้มตาเล่นอีกราวๆ เกือบเดือน….
7 เดือนเศษๆ หลังจากที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ โยกย้ายสถานที่ทำมาหากิน ในที่สุดเขาก็แหวกม่านกำแพงบางอย่างลงได้ เมื่อซัดประตูแรกได้สำเร็จในเกมกับ เซเรโซ่ โอซาก้า ในวันที่ 2 มีนาคม 2018
“CS18 นับหนึ่งได้แล้ว”
ชนาธิป เริ่มเล่นได้อย่างมั่นใจ เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม ที่มีอิทธิพลในเกมรุกบนหมากของ มิไฮโล เปโตรวิช อย่างสูง จนกระทั่ง เดือนกรกฎาคม 2018 เขาก็สร้างประวัติศาสตร์ชนิดที่ใครก็ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ประกาศคว้าตัว “เมสซี่เจ” ไปร่วมทีมแบบถาวร ทันทีที่สัญญายืมตัว 18 เดือนสิ้นสุดลงในท้ายปี 2018
“สัญญาแห่งประวัติศาสตร์ที่ตอบทุกคำดูถูก ทุกคำถามในตัว และทุกๆ ประโยคจากคนที่ไม่ชอบเขา ที่เคยพรั่งพรูไหลเป็นสายน้ำด้วยอารมณ์ที่อ่อนไหวไปตามกระแสโลกร่อแร่กระแสรักเมื่อช่วงต้นปี”
ล้มแล้วก็ลุก ลุกแล้วก็เดิน
“ไม่สู้ก็อายหมาสิ” นี่คือคำพูดหนึ่งของ ชนาธิป ที่เคยกล่าวเอาไว้ให้ผมฟัง ในช่วงที่เขาบาดเจ็บเมื่อหลายปีก่อน และในปีนี้ เขาก็แสดงออกว่า ยังไม่ลืมคำพูดของตนเอง
ชนาธิป สลัดเวอร์ชั่นล้มตึงออกไปซะหมด และลุกขึ้นเดินอย่างรวดเร็ว แถมยังแข็งแกร่งกว่าเดิม
ชนาธิป จบซีซั่น เจ ลีก 2018 ด้วยสถิติที่น่าทึ่ง เขาลงเล่น 30 นัด เป็นตัวจริงทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 2,641 นาที ซึ่งเขามีส่วนร่วมทั้งหมด 11 ประตู แบ่งเป็นยิง 8 ประตู และแอสซิสต์อีก 3 ครั้ง
ชนาธิป จบซีซั่นเต็มครั้งแรกกับ คอนซาโดเล่ ในฐานะผู้เล่นทรงคุณค่าของสโมสร จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีม และได้รางวัล เอ็มวีพี แห่งซัปโปโร โดม (สนามเหย้าของทีม) ประจำปี 2018 อีกด้วย
ชนาธิป กลับสู่บ้านเกิด ที่ผู้คนต่างรอต้อนรับเขาด้วยความรัก และเขาก็สร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเนรมิตสนามฟุตบอล และคลับเฮาส์ ที่จังหวัดนครปฐม ด้วยทุนส่วนตัวกว่า 40 ล้านบาท จากการเล่นฟุตบอล และรับงานโฆษณา โดยไม่กู้เงินจากธนาคารเลยแม้แต่บาทเดียว
และท้ายที่สุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชนาธิปปิดท้ายปีที่ยิ่งใหญ่จนผู้คนลืมว่า เขาลำบากแค่ไหนเมื่อช่วงต้นปี ด้วยการปรากฏกายที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในรอบ 2 วัน เพื่อรับรางวัลนักเตะในทีมยอดเยี่ยมของศึก เจ ลีก ญี่ปุ่น ประจำซีซั่น 2018
…. ชีวิตของทุกคน คือ ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่เกิดขึ้นบนโลก
บางครั้งมันอาจจะเริ่มต้นด้วยสุข
บางครั้งมันอาจจะจบลงด้วยความเศร้า
บางครั้งมันอาจจะแปรเปลี่ยนด้วยพลังแห่งรัก
บางครั้งกำแพงและอุปสรรคก็ถูกความพยายามกัดเซาะซะหมดสิ้น
แต่ไม่ว่ามันจะเริ่มต้นอย่างไร และจบลงแบบไหน
ที่แน่ๆ เลยนะ คือ ทุกๆ ประวัติศาสตร์ชีวิต
“เราเป็นคนกำหนดมันเองได้ โดยไม่ต้องรอใครที่ไหนมากำหนดให้
อนาคตอยู่ที่ตัวของเรา..…”
“จอน”
RECOMMENDED CONTENT
อาดิดาส ออริจินอลส์ ประกาศพันธมิตร ดึงตัวเจ้าพ่อเกมส์สตรีมเมอร์ระดับซุปเปอร์สตาร์อย่าง Ninja ! ผ่านการเปิดตัวด้วยคลิปวิดิโอ สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ติดตามนับล้านคนผ่านทางชาแนลของเขา