ถ้าดูจากสถิติคนไทยที่ตีตั๋วบินไปประเทศญี่ปุ่นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี คงพอเดาได้ไม่ยากว่าแดนปลาดิบยังเป็นจุดหมายในดวงใจนักเดินทางอยู่วันยังค่ำ และไม่ว่าคุณจะไปญี่ปุ่นด้วยเหตุผลอะไร ถ่ายรูปกับดอกซากุระ ตะลุยกินย่านดัง ช้อปปิ้ง ปั่นจักรยาน เที่ยววัด ตามรอยการ์ตูน แช่ออนเซ็น จิบกาแฟในคาเฟ่มุ้งมิ้ง หรือจะแค่ไปเปลี่ยนบรรยากาศยามเช้าของคุณให้พิเศษกว่าวันอื่น เอาเป็นว่าฤดูร้อนนี้ เราขอเชียร์ขาดใจให้รีบเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วมุ่งหน้าสู่เมืองเล็กๆ แสนน่ารักที่มีชื่อว่า Kamakura ในเขตปกครอง Kanakawa ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว จึงใช้เวลาเดินทางจากกรุงโตเกียวแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าใกล้มากๆ จนเมืองคามาคุระแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางขึ้นชื่อสำหรับการท่องเที่ยวแบบ One-day trip สั้นๆ ประมาณว่ามีเวลาแค่วันเดียวก็สามารถเที่ยวได้ครบหมด
ใครที่ชอบความสงบของบ้านเมือง หลงรักเรื่องราวของวัฒนธรรมตะวันออก คามาคุระน่าจะ ตอบโจทย์ได้ดีเชียวละ เพราะเมืองนี้ไม่เพียงเป็นเมืองประวัติศาสตร์ยาวนานเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น ยังเป็นดินแดนแห่งตำนานนักรบซามูไร วัดวาอารามเก่าแก่ ถนนหนทางห่างไกลจากคำว่าพลุกพล่านวุ่นวาย มีตรอกเล็กตรอกน้อยให้เดินทอดน่องชิลล์ๆ ชมวิถีชีวิตชาวเมืองได้ตลอดทั้งวันในอุณหภูมิเย็นสบายกำลังดี นั่นยังไม่รวมวิวทะเลปากอ่าว Sagami สีน้ำเงินสวยสดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติแสนสงบ ซึ่งถึงแม้ว่าคามาคุระจะเป็นเมืองแสนคลาสสิก แต่กลับแฝงไปด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์สุดเก๋ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เราเลยอยากแนะนำ 5 สถานที่และกิจกรรม ‘The Must’ ของเมืองคามาคุระที่ไม่ควรพลาดเป็นอันขาดหากได้มาเยือน บอกเลยว่าอาจทำเอาคุณหลงรักเมืองเล็กๆ แห่งนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นก็เป็นได้
1. Kawakita Film Museum
เทคโนโลยีถูกจับมาผสมผสานกับกลิ่นอายคลาสสิกของวันวานอันหอมหวาน ณ พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์แห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองคามาคุระ ห่างจากกรุงโตเกียวเพียง 50 กิโลเมตร เปิดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะด้านภาพยนตร์ ก่อตั้งโดย 2 สามี-ภรรยาคาวากิตะ ผู้มีบทบาทสำคัญในการพาหนังแดนอาทิตย์อุทัยไปสู่วงการภาพยนตร์โลก ภายในแบ่งเป็นห้องฉายภาพยนตร์ประจำวันขนาดย่อม และนิทรรศการพาย้อนอดีตกลับไปในช่วงยุคทองของภาพยนตร์ญี่ปุ่น แสดงอุปกรณ์การถ่ายทำในสมัยก่อน โปสเตอร์สุดวินเทจ และยังมีห้องสมุดที่รวบรวมนิตยสารและหนังสือภาพยนตร์หายากชนิดที่แฟนหนังญี่ปุ่นเห็นแล้วคงปลื้มปริ่ม ไม่ใช่แค่ความขลังของโลกภาพยนตร์ที่อาจทำคุณร้องว้าว แค่ดีไซน์ของพิพิธภัณฑ์ที่จำลองแบบมาจากบ้านญี่ปุ่นโบราณแสนเรียบง่าย สมดุลกับบรรยากาศเก่าแก่เงียบสงบของเมืองก็เดินเล่นได้เพลินๆ แล้ว
2. Magokoro Restaurant
เมืองริมทะเลอย่างคามาคุระ มีร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งเต็มไปหมด ถ้าเลือกไม่ถูกจริงๆ ว่าจะเข้าร้านไหนก่อนดี ลองไปร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศเริ่ดชื่อ Magokoro บอกเลยว่าคุณจะฟินกับวิวทะเลสีฟ้าใสปิ๊งดีงาม นั่งมองผู้คนเดินเล่นบนชายหาดท่ามกลางแดดอ่อนๆ ยามเช้า เรื่องอาหารที่นี่ก็ไม่ธรรมดา นอกจากราคาไม่แรง และมีเมนูเป็นภาษาอังกฤษสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราแล้ว ยังเอาใจคนรักสุขภาพ เสิร์ฟอาหารและขนมออร์แกนิกน่าตาน่ากิน หรือจะเป็นอาหารมังสวิรัติสำหรับคอกินผักทั้งหลายก็มียังมี พอดวงอาทิตย์โบกมือลา หากอยากนั่งยาวๆ ไม่อยากกลับ ถึงเวลาเย็นย่ำที่นี่เขาก็จะเปลี่ยนเป็นบาร์นั่งชิลล์คลอเสียงเพลงเพราะๆ จากนักดนตรีที่สลับสับเปลี่ยนมาเล่นให้ฟังตั้งแต่หัวค่ำไปจนถึงดึกดื่นได้ด้วย
3. Hydrangeas Temples
อย่างที่บอกไปว่าคามาคุระเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่อายุเป็นร้อยๆ ปี การเดินเล่นสบายๆ ไม่เร่งรีบ แวะเที่ยวชมวัดของที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม The Must เพราะนอกจากจะได้เสพความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมแล้วยังได้ศึกษาอารยะธรรมตะวันออกไปในตัวด้วย แล้วถ้าได้ฟินกับวิวทะเลท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้บานสะพรั่งด้วยล่ะ? ใช่แล้ว จุดหมายที่ ‘ต้องไป’ ให้ได้คือวัดโจจุอิน (Jojuin) นอกจากจะมีจุดชมวิวสวยๆ บริเวณเวิ้งของอ่าวคามาคุระแบบไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ระหว่างไต่บันไดทางขึ้นของวัดยังอิ่มตาอิ่มใจไปด้วยดอกไฮเดรนเยีย หรือ Ajisai (อาจิไซ) ในภาษาญี่ปุ่น ที่จะออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงฤดูฝนเดือนมิถุนายน แต่ถ้ายังไม่จุใจกับความบานฉ่ำ ขอแนะนำให้ไปต่อกันที่วัดฮาเสะเดระ (Hasedera) หรือที่รู้จักในชื่อวัดเจ้าแม่กวนอิม และวัดเมเกซึอิน (Meigetsu-in) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยสดของหมู่มวลดอกไฮเดรนเยียไม่แพ้กัน น่าจะทำเอาคนรักดอกไม้ฟินกันไปข้างหนึ่ง
4. Studio Ghibli Store
ความน่ารักของเจ้าแมวอ้วนโตโตโร่พาเราเดินหลงมา Studio Ghibli Store ย่านถนนคนเดิน Komachi-dori ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟคามาคุระอย่างไม่มีเหตุผล ก็นี่มันสวรรค์ของคนรักการ์ตูน Studio Ghibli ชัดๆ เพราะภายในบรรจุความมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวสารพัดของกุ๊กกิ๊กจากการ์ตูนค่าย Ghibli ที่แฟนๆ เห็นแล้วอาจเผลอเหมาหมดร้าน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเขียน ของใช้ในบ้าน ตุ๊กตา ยันต้นไม้ก็ยังมี เราไม่ว่าอะไรหากวิญญาณเด็กในตัวคุณจะออกมาวิ่งเล่นระหว่างเดินเลือกของชิ้นนั้นชิ้นนี้อยู่ในร้านนี้ บอกตรงๆ ว่าแค่เห็นทางเข้าหน้าร้านที่มีแมวอ้วนโตโตโร่ยืนประจำที่อยู่ก็กรี้ดแล้ว!
5. Kamakura Street Food
แต่ละเมืองล้วนมีของดีของเด็ด ที่คามาคุระก็เช่นกัน ไหนๆ ก็มาเดินเล่นแถวถนนคนเดินแล้ว ถ้าพลาดของอร่อยของคามาคุระไปคงน่าเสียดายแย่ หากยังไม่ลองชิมขนมอร่อยของที่นี่เริ่มจากเซ็มเบ้ (Sembei) ขนมที่ทำจากแป้งข้าวญี่ปุ่น ของโปรดปรานของใครหลายคนซึ่งรู้ไหมว่าคนญี่ปุ่นกินเจ้าขนมเซ็มเบ้นี้มานานกว่า 1,400 ปีแล้ว มีทั้งแบบรสดั้งเดิม รสเผ็ด แบบหวาน อบร้อนๆ ห่อด้วยแผ่นสาหร่ายกรุบกรอบ อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือซอฟต์ครีมมันหวานญี่ปุ่นสีม่วงพาสเทลน่ารัก (Beni-imo) ของหวานสุดคลาสสิกแบบฉบับญี่ปุ่นในราคาประมาณ 300 เยน จะมีอะไรดีกว่าการเดินเล่น หาไอศกรีมนุ่มๆ กิน แล้วเดินทอดน่องในเมืองเปี่ยมมนต์เสน่ห์ชื่อ ‘คามาคุระ’ แห่งนี้อีกล่ะ!
แต่ก่อนจะออกเดินทาง ลองเช็คกระกระเป๋าเดินทางของคุณกันก่อนว่าพร้อมสำหรับทริปนี้หรือยัง กระเป๋าเดินทางดีๆ อาจไม่ได้หมายความว่าต้องมีราคาแพงเสมอไป แต่ควรดูว่าวัสดุแข็งแรงทนทานมากน้อยแค่ไหน อย่าง POLO WORLD KAMAKURA กระเป๋าเดินทางสุดคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองคามาคุระ เมืองเล็กๆ ในประเทศญี่ปุ่นที่มีความอบอุ่นแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร สะท้อนออกมาเป็นกระเป๋าเดินทางใบนี้ที่จะช่วยให้คุณเดินทางไปได้ทุกที่
ถ้ามองในเรื่องของวัสดุก็ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทางด้วย Hard Case ที่ทำจาก Polycarbonate 100% ซึ่งคอนเฟิร์มว่าทนทานต่อแรงกระแทกแม้จะเดินทางไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางเข้าไปอีกด้วยระบบล้อที่หมุนได้รอบทิศทางถึง 360 องศา ที่ได้มาตรฐานคุณภาพการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมฟังก์ชั่น Soft Grip Closure ด้ามจับที่ใช้งานง่ายและไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวน แถมอุ่นใจไม่ต้องกลัวของหายเพราะมั่นใจได้กับระบบล็อคแบบรหัส TSA Combination Lock มาตรฐานระดับสากล ส่วนโครงสร้างภายในแบบ Flat Packing ของ KAMAKURA ใบนี้ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการจัดเก็บของและที่สำคัญเสื้อผ้าไม่ยับง่ายอีกด้วย คราวนี้จะซื้อของฝากแบบเอ็กซ์ตรีมแค่ไหนก็ไม่ต้องปวดหัวกับการแพ็คของอีกต่อไป เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ผสานรวมกับความคลาสสิกได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ยังมีให้เลือกด้วยกันถึง 5 สี เงิน ดำ ทอง ม่วง และน้ำตาล ขนาด 20 นิ้ว 26 นิ้ว และ29 นิ้ว KAMAKURA จะพาคุณตะลุยญี่ปุ่นแบบไม่หวั่นหาซื้อได้แล้ววันนี้ร้าน THE TRAVEL STORE ทุกสาขา และเคาน์เตอร์ POLO WORLD ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ The Travel Store Online: www.facebook/TheTravelStoreThailand โทร. 02-280-0065-6
RECOMMENDED CONTENT
พาเที่ยวในโตเกียว ซื้อรองเท้า ให้'สายวิ่ง' เก็บตก ที่เที่ยว ช้อปปิ้ง หลังจากงานวิ่ง Tokyo Marathon . INSIDER JOURNY EP5 : เมื่อ 'สายวิ่ง' เก็บตก Shopping หลัง วิ่งในงาน Tokyo Marathon . Dooddot x Running Insider x Runner’s journey