KAWS หรือ Brian Donnelly นับเป็น Street Artist ซึ่งทรงอิทธิพลคนหนึ่งแห่งยุค KAWS มีผลงานที่หลากหลายทั้ง Painting, Graphic design,Sculpture, Graffiti เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้านศิลปะด้วยการเป็น Graffiti Artist ที่บ้านเกิดในนิวเจอร์ซีย์ ก่อนที่จะย้ายมาลงหลักปักฐานและร่ำเรียนด้านศิลปะจนจบ Bachelor of Fine Arts in illustration จาก School of Visual Arts ในปี 1996 จากนั้นจึงยึดอาชีพ Freelance animator ให้กับดิสนีย์โดยทำหน้าที่วาดฉากให้กับการ์ตูนดังหลายเรื่องทั้ง 101 Dalmatians และ Daria and Doug การทำงานกับดิสนีย์ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาในเวลาต่อมา

ช่วงที่ทำงานกับดิสนีย์ KAWS ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง โดยการนำป้ายโฆษณาต่างๆ ที่ติดตามบิลบอร์ด, ป้ายรถเมล์ หรือตู้โทรศัพท์ มาดัดแปลงใส่สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาลงในชิ้นงานนั้น ก่อนที่จะนำไปติดตั้ง

ไว้ที่เดิม ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและเป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมงานศิลปะทั่วโลก โดยเฉพาะนักสะสมชาวเอเชียซึ่งถือได้ว่าเป็นแฟนผลงานของ KAWS กลุ่มใหญ่ที่สุด ว่ากันว่าผลงานออริจินอลในช่วงแรกของเขานั้น มี

มูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ ในปลายยุค 90S KAWSได้ออกแบบสินค้าของตัวเองเป็นไวนิล ทอยส์ตุ๊กตาของเล่นที่ใช้วัสดุเดียวกับการทำฟิกเกอร์ และทำ Street Ware ร่วมกับเพื่อนศิลปินชาวญี่ปุ่นในนาม Original Fake และออกแบบสินค้า Limited Edition ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่ทำขายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หมุนเวียนไปแต่ละสัปดาห์ วางขายในช็อปที่อาโอยาม่า/ชินจูกุ โตเกียว และอุเมดะ ในโอซาก้า

ปัจจุบัน KAWS ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ผลงานส่วนตัวและผลงานที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ แรงบันดาลใจส่วนใหญ่ของเขาได้รับมาจากช่วงที่ทำงานกับดิสนีย์ หลายชิ้นงานเป็นการนำคาเรคเตอร์ตัวการ์ตูนชื่อดังมาดัดแปลงใส่สไตล์ของตัวเองลงไป ทั้ง The Simpsons, Mickey Mouse, the Michelin Man,the Smurfs, หรือ SpongeBob SquarePants นอกจากนี้ KAWS ยังมีผลงานสร้างสรรค์ร่วมกับศิลปินชื่อดังมากมายทั้ง Nigo แห่ง A Bathing Ape , Jun “Jonio” Takahashi จาก Undercover และ Michael “Mic” Neumann แห่ง Kung Faux รวมถึงยังมีโปรเจกต์ที่น่าสนใจอย่าง Snowboard Projects กับ Burton snowboard และผลงานออกแบบของเขายังไปปรากฏบนแบรนด์ดังอย่าง Comme des Garçons สุดยอดสตรีทแวร์ของญี่ปุ่น, Dos Equis เบียร์ดังจากแม็กซิโก แล้วก็ยังมี Nike และ Vans อีกด้วย

สำหรับ Solo exhibition นั้น KAWS ได้จัดแสดงผลงานมาแล้วหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยนิทรรศการที่มือชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือ OriginalFake จัดขึ้นที่ The Bape Gallery Tokyo ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2003 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากถึงขนาดที่ผลงานชุด “Wonderful World” ของเขาถูกซื้อไปในราคาถึง $400,000 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว และชิ้นงานที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ KAWS ก็คือ Companion ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมิกกี้ เมาส์ ซึ่งมีการออกแบบมาหลายเวอร์ชั่น แต่ที่โด่งดังที่สุดก็คือ Companion : Passing through (Grayscale) ขนาด 16 ฟุต เป็นประติมากรรมรูปมิกกี้เมาส์ในสไตล์ KAWS ในท่าทางที่กำลังนั่งแล้วเอามือปิดหน้าอยู่ และในปี 2012 Companion : Passing through ถูกนำไปดัดแปลงให้เป็นบอลลูนเพื่อใช้ในขบวนพาเหรด Macy’s Thanksgiving Day อีกด้วย นอกจากนี้ Companion ก็ถือเป็นโมเดลยอดนิยม ที่เป็นชื่นชอบของนักสะสมทั่วโลก ที่ต้องติดตามเก็บให้ครบทุกคอลเลคชั่นที่ออกมาอย่างพลาดไม่ได้

Follow ติดตามผลงานและข่าวสารใหม่ๆ ของ KAWS ได้ที่ Instagram :@kawsstudio หรือที่ www.original-fake.com และหากมีโอกาสแวะเวียนไปยังยุโรปก่อนวันที่ 26 ส.ค.56 ก็สามารถชมนิทรรศการครั้งใหม่ของเขาได้ที่ More Gallery Unteraastrasse 42 CH-6074 Giswil, Switzerland. / Website:www.moregallery.ch