fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

“KOANS EXHIBITION Tawan Wattuya & SI-LA-GI” เมื่อสองศิลปินต่างสัญชาติร่วมสรรสร้างผลงานศิลปะบนผ้าใบผืนเดียวกัน [English translation]
date : 10.กุมภาพันธ์.2014 tag :

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (12)

เมื่อวันพุธกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา (5 กุมภาพันธ์ 2557) มีงานเปิดนิทรรศการศิลปะ “KOANS Exhibition” จัดที่แกลอรี่ Tang Contemporary Arts บนตึก Silom Galleria ชั้น 5 ตามรายละเอียดของงานที่ทาง Dooddot เราเคยแจ้งรายละเอียดกันไปครั้งหนึ่งแล้ว https://www.dooddot.com/koans-exhibition/ งานนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นการจัดแสดงผลงานศิลปะที่ทำร่วมกันระหว่างสองศิลปิน สองสัญชาติ (ไทย-ฮังการี) ซึ่งในงานนี้เราได้พูดคุยกับพวกเขาถึงที่มาที่ไป วิธีการทำงานและความรู้สึกของทั้งคู่ที่ได้ทำงานโปรเจคต์นี้ร่วมกัน

ตะวัน วัตุยา (ไทย)

รู้จักกับ Artist อีกคน (SI-LA-GI) ได้อย่างไร:
“ย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ผมรู้จักกับเขาผ่านทาง Tang Contemporary Art โดยปกติเขามาเมืองไทยบ่อย เขาชอบเมืองไทย แล้วโปรเจคต์ผลงานที่วาดลงบน Canvas ผืนเดียวทำกับ Artist คนอื่นแบบนี้ เขาทำมาก่อนนานแล้ว คือเขาจะเลือกคนที่เขาชอบ เขาเคยทำกับศิลปินที่ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น หลายที่เลย ทีนี้เขารู้สึกอยากวาดกับ Artist คนไทยบ้าง บวกกับว่าเขาชอบงานของแกลอรี่นี้ ทาง Tang ก็เลยแนะนำผม เราก็ได้รู้จักกัน เขาลองไปดูงานที่สตูดิโอผม ก็ตกลงทำงานร่วมกันขึ้นมา ตอนนั้นทั้งหมดสองชิ้น เราแบ่งกันเก็บไว้กันคนละชิ้น หลังจากนั้นก็มีทำงานด้วยกันมาเรื่อยๆครับ”

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (11)

ที่มาของผลงานงานชุดนี้:
“ล่าสุดปีที่แล้วเขามาไทย ก็ได้ทำงานร่วมกันที่สตูดิโอ คราวนี้มันก็เกิดงานขึ้นมาหลายชิ้น ทาง Director ของ Tang เขาไปเยี่ยมที่บ้าน เห็นแล้วเขาก็เลยเชิญให้มาโชว์ที่นี่ ซึ่งจริงๆตามแพลนเดิมคือแสดงกันปลายปี แต่เห็นทาง Tang เห็นว่า SI-LA-GI เขามาไทยพอดีและกำลังจะกลับพรุ่งนี้แล้ว ก็เลยเลื่อนมาจัดกันก่อนเลย”

ระยะเวลาและขั้นตอนการทำงาน:
“ระยะเวลาที่ทำทั้งหมดราวๆ 2 เดือนครับ คือมันไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การทำงานชุดนี้เรานั่งดูมากกว่าทำ พอใครเริ่มทีนี้ก็มาดูกันว่าใครจะต่อ ซึ่งถ้าบางครั้งไม่เกิดความรู้สึกนั้นขึ้น เราก็จะไม่ทำอะไร ทิ้งไว้ 2-3 วันกลับมาดูใหม่ มันจะเป็นแบบนี้ บางชิ้นเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว บางชิ้นกินเวลากว่า 2 อาทิตย์ก็มี เหมือนเราทำหลายชิ้นไปพร้อมๆกัน บางทีมีช่วงที่พักแล้วแยกย้ายกันไปคิดแล้วก็กลับมาทำกันต่อ จริงๆเสร็จออกมาทั้งหมดมีงานเยอะกว่านี้ แต่อันนี้เป็นชิ้นที่ทาง Tang เลือกขึ้นมาจัดแสดง”

ความรู้สึกที่ได้จากการทำงานร่วมกันครั้งนี้:
“มันเหมือนเราได้ผจญภัยไปกับการทำงาน โดยที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีบางทีที่เราทั้งคู่คุยกันว่าจะทำออกมายังไง บางทีเราก็ไม่ได้สนใจว่าต้องคิดเหมือนกัน  ผมคิดว่าการที่ใครคนใดคนหนึ่งเลือกใส่อะไรลงไปในงานมันมีความหมายในตัวของมันเอง ผมรู้สึกสนุกที่ได้ทำอะไรแบบนี้ด้วยกัน เราทั้งคู่ทำโดยไม่ได้คิดถึงว่าจะต้องโชว์หรือจัดแสดงเลยนะ เพราะส่วนตัวเขาเองก็มีโชว์ของเขาเป็นปกติอยู่แล้ว แต่แค่มันเป็นโปรเจคต์ที่เราทำร่วมกันแล้วรู้สึกชอบ ทำแล้วมีความสุข”

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (0)

SI-LA-GI (ฮังการี)

ความรู้สึกที่ได้ทำงานร่วมกันกับตะวันครั้งนี้:
“ผมคิดว่าการร่วมงานกับตะวัน เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเวลาทำงานเราจะไม่เคยพูดหรือตกลงกันก่อนว่าเราจะ Paint อะไรลงไป เราโต้ตอบแสดงความรู้สึกต่อกันผ่านทางผลงานเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับที่ผมเคยทำงานลักษณะแบบนี้ร่วมกันกับ Artist คนอื่น ครั้งนี้ถือว่าแปลกทั้งขั้นตอนการทำและจำนวนผลงานที่ทำออกมา ปกติผมจะทำร่วมกับคนอื่นประมาณ 1-2 ชิ้น แต่กับเขาครั้งนี้รวมเบ็ดเสร็จน่าจะมีผลงานทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 30 ชิ้น เพราะฉะนั้นการร่วมงานกับเขาเป็นอะไรที่เข้มข้นและเป็นการสื่อสารแลกเปลี่ยนกันอย่างลึกซึ้งโดยปราศจากคำพูดใดๆทั้งสิ้น”

ขั้นตอนการทำงาน:
“มันแตกต่างกันออกไปในแต่ละชิ้น บางทีเขาเป็นคนเริ่มก่อนบ้าง บางทีผมก็เป็นคนเริ่มก่อน บางครั้งเราแค่คุยกันครั้งเดียวแล้วรู้สึกว่าใช่ แต่บางครั้งเราทั้งคู่ต่างก็พยายามอย่างหนักเพื่อจะหาจุดที่พอดีที่สุดสำหรับชิ้นงาน  ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากมากๆ แต่ด้วยความยากเหล่านี้นี่ล่ะช่วยสอนผมให้รู้จักความพอดีในการทำงาน ชิ้นไหนควรหยุดเมื่องานบางงานมันไม่ควรไปต่อ จนสุดท้ายออกมาเป็นผลงานที่เราทั้งคู่ต่างก็พอใจ”

สิ่งที่อยากให้คนดูงานได้รับ:
“ผมหวังว่าทุกคนจะดูมันอย่างอิสระ… คือไม่จำเป็นต้องดูด้วยพื้นฐานความรู้ทางศิลปะที่มีมากหรือน้อยกว่ากัน ไม่จำเป็นต้องเอาทฤษฎีใดๆมาจับ ไม่จำเป็นต้องบอกว่านี่คืองาน Conceptual หรืองาน Expressionism ไม่… ผมไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้นเลย แน่นอนล่ะว่าผมอยากรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบงานของผม แต่ในศิลปะแขนงนี้มันแตกต่างจาก… ยกตัวอย่างเช่นศาสตร์การละครหรือการแสดง ที่ถ้าจบแล้วคนดูรู้สึกชอบก็มีการปรบมือให้ แต่กับงานนี้มันไม่มีอะไรแบบนั้น ผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไรกับงานของผม ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมและตะวัน เราทั้งคู่มีเหมือนกันคือเราเป็นคนที่เปิดอิสระทางความคิดกันมากๆ เราไม่มีกรอบใดๆมาปิดกั้นทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นกับคนดูงานก็เช่นกัน ผมแค่หวังอยากให้คนดูงานเปิดรับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าอย่างจริงใจและเป็นอิสระกับมัน”

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (10)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (8) koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (7)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (6)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (5)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (4)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (3)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (2)

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (1)

______________________________________________________________________________

On Wednesday the 5th of February 2014, “KOANS Exhibition” was held at Tang Contemporary Art Gallery in Silom Galleria building, as Dooddot had previously mentioned in the following link https://www.dooddot.com/koans-exhibition/ . What’s special about this contemporary art exhibition is that it showcases the collaborative art series from two renowned artists from Thailand and Hungary; Tawan Wattuya and Szabolcs Szilagyi aka SI-LA-GI. We are privileged to have talked to the two artists about their collaboration, their  work process, and how they feel about working together on this special project.

Tawan Wattuya (Thai)

How did you first get to know SI-LA-GI?
Around 8 years ago, I got to know him through Tang Contemporary Art Gallery. He would come to Thailand quite often, as he really likes Thailand.  SI-LA-GI has worked on this sort of project before, where he would work with other artists on the same canvas. He would invite the artists he likes; from French, Japanese, to Chinese. Later on, he wanted to collaborate with Thai artists, plus he likes the artworks in this gallery, so the Tang Contemporary Art Gallery introduced me to him. He went to my studio, and so we agreed to work together. There were two art pieces at the time, where we both kept one of each. Our collaboration has continued since then.

Tell us a bit about this exhibition’s background
We worked together at my studio on his last visit to Thailand sometime last year, where we produced a number of artworks. The Director of Tang’s Gallery came to visit my house and saw our work, so he invited us to open an exhibition.  Actually according to the plan, this show is supposed to be held at the end of this year. But since SI-LA-GI is already here in Thailand, we therefore decided to move the show up.

What was the time frame and working process for the artworks?
We spent around 2 months to complete the whole thing. We didn’t really know what was going to happen, we spent more time looking at the paintings than working on them. Whoever started to paint, later we would decide who will continue with the painting. On some days we wouldn’t have that sort of feeling, so we would just leave the paintings for 2-3 days, and come back to look at them again. We would complete some paintings within a very short period of time, but for some, we could spend more than 2 weeks to complete. We also had a bit of a break to go back and come up with ideas. There are actually more paintings that we did, but these are the ones that Tang gallery chose to exhibit.

What did you get from this collaboration?
It’s like we get to go on an adventure, not knowing what will happen next. Sometimes we would discuss how we want our work to turn out, and sometimes we didn’t really care that we both have to think the same way. I think what each person chooses to put into his or her work has its own meaning.  I had fun doing this sort of work with other artists. SI-LA-GI and I didn’t even think of having our work being showcased, because personally he already has his own shows. But we both really like working on this project, as it made us feel happy.

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (9)

SI-LA-GI (Hungary)

How did you feel working with Tawan?
I find it very interesting to work with him, because when we work together, we never really talk what we were going to paint. We interact and communicate through our work, which compared to the same sort of work I’ve done with other artists, this time is considered to be quite unique in terms of the working process and the amount of work we produced. Normally I would produce about 1-2 art pieces with other artists, but with Tawan, we produced around 30 art pieces altogether. Therefore, working with him was very intense and deep.

koans coorperate art exhibition tawan wattuya si-la-gi dooddot (8)

Tell us a bit about this exhibition’s background
It’s different for each paintings. Sometimes I started the artwork, sometimes it was Tawan. Sometimes we would talk only once and felt that it is right, but sometimes we also needed to find the right balance for each art pieces. I have to say it was very difficult, but because of these difficulties, it taught me to find the right balance when working, and what to do when some artwork didn’t function. But in the end, the result came out to be very satisfying for the both of us.

What will the audience get from this exhibition?
I hope the audience will look at the artwork with their own freedom. They don’t have to look at the artwork with the knowledge in the arts and say, “this is conceptual art”, “that is expressionism”…no. I don’t need anything like that. Of course I’d like to know whether people like my work or not, but in this field of art, it is different from theaters or acting, where people who like the performance would clap at the end of a show. But with this show it is nothing like that, therefore I cannot guess how the audience feel about my work. What I believe Tawan and I are alike is that we are both very free and open minded when it comes to our art. This also applies to the audience in our show. I just hope that the audience are also open minded with what’s in front of them, and view these artworks with sincerity.

Photographer: Pakkawat Tanghom
Translation: Thip S. Selley