แน่นอนเมื่อพูดถึง Korean Wave แล้วเราคงเลี่ยงที่จะพูดถึงไอดอลเกาหลีไม่ได้ ในบรรดาไอดอลสาวแห่งวงการ K–Pop เป็นร้อยเป็นพันคน (หรือบางทีอาจจะหมื่น?) มีนักร้องสาวเพียงไม่กี่คนที่สามารถสร้างตัวตนและยืนหยัดที่จะแตกต่างจนถูกขนานนามว่า Queen ได้เหมือน CL

CL คือใคร ?

เธอคือหัวหน้าวงและอดีตสมาชิกของ 2NE1 เกิร์ลกรุ๊ปที่สั่นสะเทือนวงการ K-Pop ด้วยภาพลักษณ์แบบ Strong Women ที่เราไม่ค่อยจะเห็นในวงการไอดอล ยิ่งเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว ในยุคที่ภาพจำเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีมีอยู่ 2 แนวใหญ่ๆ คือไม่น่ารักสุดๆ ก็เซ็กซี่บาดใจ การเเหวกกระแสความนิยมด้วยลุค swag แบบ tomboy เพลงจังหวะ Hip-Hop/Reggae พร้อมกับเนื้อเพลงแนว empower women ที่พูดถึงอิสระ การปลดปล่อยตัวตนและเล่นสนุกแบบ Fire ถือว่าเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ของ YG ค่ายต้นสังกัดของเธอ

และการเสี่ยงดูจะคุ้มค่าเพราะพวกเธอดังเป็นพลุแตก ซึ่งสำหรับเราเเล้วความสำเร็จของ 2NE1 เป็นอะไรที่มากกว่าการมีเพลงฮิตติดหู เป็นเกิร์ลกรุ๊ปอีกวงหนึ่งที่สร้างสีสันใหม่ๆ ให้วงการเพลงเกาหลีได้ แต่มันคือการทำลายภาพจำ stereotype เก่าๆ ที่คนมักนึกถึงสาวๆ ศิลปินเกาหลี พวกเธอสร้างนิยามใหม่ของไอดอลผู้หญิงจนกลายเป็นพิมพ์เขียวของไอดอลสไตล์ girl crush ที่เราเห็นภาพมากมายในปัจจุบัน

2NE1 คือบทบาทและจุดเริ่มต้นที่ทำให้ CL เป็นที่จับตา แต่ผลงานที่ทำให้เรารู้จักตัวตนจริงๆ ของเธอคงจะเป็นงานเพลงเดี่ยวชิ้นแรก The Baddest Female

“ฉันต้องการเป็นนำเสนอภาพของผู้หญิงเจ๋งๆ ในเอเชีย ฉันอยากทำเพลงที่เป็นตัวเเทนของผู้หญิงแกร่ง ฉันต้องการให้คนดูรับรู้ว่ามีผู้หญิงแบบฉันและมีผู้หญิงคนอื่นที่เหมือนฉัน ขณะเดียวกันฉันก็อยากให้สาวๆ ที่ฟังเพลงนี้รู้สึกอยากเเข็งแกร่งและมีความมั่นใจมากขึ้น”

ไม่มีใครแข็งแกร่งมาตั้งแต่เกิด CL ก็เช่นกัน การใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ต้องย้ายโรงเรียนไปในหลากหลายประเทศทั้งญี่ปุ่นและฝรั่งเศส เป็นส่วนสำคัญในการกดดันและผลักดันให้เธอต้องเชื่อมั่นในตนเอง

“การต้องย้ายโรงเรียนไปเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉันในวัยเด็ก ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเอเลี่ยน ฉันรู้สึกว่าตัวฉันไม่เหมาะกับกลุ่มไหนๆ ทุกคนต่างต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในวันเด็ก แต่เมื่อมีเรื่องเเย่ๆ มากระทบคุณมันจะทำให้คุณต้องก้าวขึ้นไปอีกขั้น”

การเติบโตในต่างประเทศนอกจากจะทำให้เธอแข็งแกร่ง มันยังทำให้เธอได้รับรู้มุมมองของคนต่างชาติต่อผู้หญิงเอเชียที่กลายเป็นหนึ่งในเเรงผลักดันสำหรับงานเพลงของเธอ

“ตั้งแต่เด็กๆแที่ฉันเรียนในโรงเรียนต่างประเทศ นั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่ามันมีอคติที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงเอเชียรวมถึงผู้ชายเอเชียด้วย แน่นอนว่ามันมีทั้งด้านดีและด้านเสีย ฉันแค่ต้องการทำลาย stereotype เหล่านั้น stereotype ที่มองว่าผู้หญิงเอเชียก็เหมือนๆ กัน เมื่อฉันเป็นศิลปินฉันก็อยากทำให้ผู้คนเห็นผ่านงานเพลง ผ่านการแสดง ว่ายังมีผู้หญิงที่แต่งตัวเเบบฉัน มีผู้หญิงที่ฟังเพลง hip-hop และยังมีผู้หญิงเท่ๆอีกมากมายในเอเชีย มันคงดีถ้าได้ทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกสิ่งเหล่านั้นได้ผ่านตัวของฉัน”

การจะเป็นผู้หญิงแกร่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสังคมที่ยังปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศค่อนข้างสูงอย่างเกาหลี  “ฉันจำได้เลยว่าในช่วงปี 2011 ทุกคนพยายามจะดูถูกฉันจากความมั่นใจของฉัน เเต่ฉันก็ผ่านมันมาได้เพราะฉันคิดว่าฉันทำในสิ่งที่ฉันรัก และนั่นเป็นตัวตนของฉันเอง ฉันต้องพยายามต่อสู้กับความยากลำบาก แต่ก็นั่นแหละคุณมีชีวิตแค่ชีวิตเดียว คุณควรเป็นตัวของตัวเองเพราะคุณไม่สามารถจะเป็นคนอื่นได้ ฉันอยากใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ฉันจะพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูด จะทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ แน่นอนว่าคุณต้องเคารพ ต้อง respect ผู้อื่น แต่ขณะเดียวกันคุณก็ต้องซื่อสัตย์ในตนเอง”

CL พิสูจน์ตัวเองให้คนในเกาหลีและทั่วเอเชียเห็นแล้วว่าเธอได้คำว่า queen มาอย่างไร แต่ในเวลานี้ก้าวต่อไปของการบุกตลาก america ยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเธอ

“ยังมีเด็กๆ อีกมากมายที่ต้องการสิ่งใหม่ๆ  ต้องการความแตกต่าง นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันมาอยู่ตรงนี้ (ในอเมริกา) ฉันมาเพื่อที่จะทำให้คนเห็นตัวอย่างอื่นๆ ของสาวเอเชีย

มีสาวๆ อีกมากมายรวมถึงแฟนๆ ของฉันหลายคนที่อยากโดดเด่นขึ้น อยากแตกต่างเพียงแต่พวกเธอไม่มีคนที่สามารถชื่นชมแล้วคิดว่า ‘มันโอเคที่จะเป็นแบบนี้’ มันยังไม่มีใครออกมา ไม่มี Asian Female Pop Star ที่ออกมาเป็นตัวเเทนให้กับเด็กสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ฉันจึงมาเพื่อจะบอกทุกคนว่ามันโอเคที่เราจะแตกต่าง”