วงการบันเทิงเกาหลีจะมีคำนิยามที่ยกให้ IU ว่า “เจ้าแม่แห่งดิจิตอลชาร์ต” ตลอดการทำงานเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาศิลปินสาววัยเพียง 25 ปีคนนี้ ถูกเรียกว่าเป็น ‘Trend Setting’ ของวงการเพลงเกาหลี เป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จที่สูงมาก ไม่ว่าจะในด้านชื่อเสียง เงินทองและอิทธิพลที่มีต่ออุตสาหกกรรมบันเทิง
ปี 2017 ที่ผ่านมา IU ได้รับคำนิยามว่าเป็นหนึ่งใน ศิลปินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลี จากหลายๆโพลสำรวจ ท่ามกลางกระแสความนิยมของของวงบอยเเบรนด์และเกิลกรุ๊ปที่มีแฟนคลับหนาแน่น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ศิลปินหญิงเดี่ยวอย่างเธอจะสามารถคว้ารางวัลอัลบั้มและเพลงแห่งปีจากหลายๆเวทีประกาศรางวัลมาได้ ไม่เพียงแค่สารพัดรางวัลในเวทีระดับประเทศ แต่ Palette ยังเป็นอัลบั้มแรกของเธอที่ได้อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard’s World Albums อัลบั้มของเธอถูกยกให้เป็นอันดับ 1 จากลิสต์ The 20 Best K-Pop Albums of 2017 ของ Billboard และเป็นอัลบั้มเกาหลีเพียงหนึ่งเดียวที่ติดอันดับ The 20 Best Albums of 2017 ของ FuseTV ด้วย คำถามคือทำไม Palette ถึงได้คำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม คว้ารางวัลมากมายและถูกยกให้เป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญต่อวงการ K-Pop ได้ขนาดนี้
“Palette คือโมเดลที่สำคัญมากๆ ว่านักร้อง K-Pop จะสามารถเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัว ทั้งเรื่องที่ดี เรื่องที่แย่ ความวิตกกังวัลหรืออะไรก็ตามที่อยู่ในหัวของพวกเขา แล้วทำให้มันประสบความสำเร็จในบ้านของตนเอง ไปจนถึงความสำเร็จจากทั่วโลกได้อย่างไร” Jeff Benjamin คอลัมนิสท์ชื่อดังได้พูดถึงอัลบั้ม Palette ไว้ใน Billboard
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ศิลปินเกาหลีจะเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวผ่านงานเพลง ในวงการบันเทิงที่ ‘ภาพลักษณ์’ เป็นเรื่องสำคัญ (บางทีก็สำคัญมากกว่าผลงาน) ยิ่งคุณเป็นศิลปินเพลง Pop ที่ถูกจับจ้องแน่ๆจากผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศ การเปิดเผยตัวตนมากเกินไปก็เหมือนเปิดประตูให้ใครไม่รู้เข้าบ้าน ศิลปินจำนวนมากในเกาหลี แม้จะทำเพลงเองก็หลีกเลียงที่จะเปิดเผยว่างานผลเหล่านี้คือประสบกาณ์ตรง คือเรื่องราวของตัวเอง แต่ไม่ใช่กับ IU ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างมากมายตลอดการทำงานเกือบ 10 ปี
“น้องสาวเเห่งชาติ” คือฉายาที่เธอมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ภาพลักษณ์ของเด็กสาวที่สดใส อ่อนโยนและบริสุทธิ์กลายเป็นภาพจำของเธอ ในยุคนั้นเพลงโปรโมตของ IU เองก็เต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์เป็นเด็กสาวสุดน่ารัก แม้กระทั่ง ‘Good Day‘ (2010) เพลงแจ้งเกิดของเธอที่มีเทคนิคการขับร้องอันเพรวพราวก็ยังมีภาพลักษณ์ของน้องสาวข้างบ้าน เธอถูกสร้างและตอกย้ำภาพลักษณ์แบบ “น้องสาว” มันคือภาพจำที่สังคมคาดหวังไว้ ซึ่งหลายครั้งภาพลักษณ์ที่ดีนี่เองที่ทำให้คนมองข้ามความสามารถทางด้านดนตรีของเธอไปเสียหมด
แต่จะมองว่ามันเป็นข้อเสียอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะหลังจากที่ประสบความสำเร็จมากๆจากเพลง ‘Good Day‘ แล้ว IU ก็เหมือนได้โอกาสให้เธอพิสูจน์ความสามารถทางดนตรีของตัวเองในผลงานถัดๆไป ทั้งการนำเสนอแนวดนตรีที่หลากหลายและแปลกใหม่ เทคนิคการร้องที่โดดเด่นไม่เหมือนใครไปจนถึงการเขียนเพลงเองในอัลบั้มต่อๆมา
แม้เธอจะทำงานในวงการบันเทิงมาหลายปี แต่เธอก็พบว่าสังคมยังคงต้องการให้เธอคงความเป็น “น้องสาวเเห่งชาติ” อยู่เรื่อยมา แม้จะเป็นศิลปินเดี่ยวเธอก็ยังถูกจัดไว้ในกลุ่มของ Idol ที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของตอนเองอยู่ตลอดเวลา เธอต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นน้องสาวที่น่ารัก ไม่มีเรื่องเสียหาย และแน่นอน มีความรักไม่ได้
ไม่มีใครทำตามความคาดหวังของสังคมได้ตลอดเวลา เมื่อเธอมีข่าวเดทหลุดออกมาครั้งแรกในปลายปี 2012 ภาพลักษณ์ “น้องสาวเเห่งชาติ” ของเธอก็ได้ถูกทำลาย ซึ่งหลายคนมองว่าดีเเล้วเพราะเห็นได้ชัดว่าหลังจากนั้นเธอมีอิสระในการทำงานและมันทำให้เราเห็นตัวตนที่เเท้จริงของเธอมากขึ้นเช่นกัน
ตลอดการทำงาน IU ไม่ใช่คนที่ออกสื่อบ่อยนัก เธอไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวมากเท่าไหร่หากเทียบกับศิลปินคนอื่นๆ เมื่ออัลบั้ม ‘CHAT-SHIRE’ (2015) ปล่อยออกมาครั้งแรกจึงถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของผู้ฟังที่มีต่อเธอ เพลงโปรโมตของอัลบั้มอย่าง ‘Twenty-Three’ ได้พูดถึงการเปลี่ยนผ่านของวัยเด็กมาสู่การเป็นหญิงสาว ตั้งคำถามกับตัวเองระหว่างการตัวเป็นผู้ใหญ่กับคงความเป็นเด็กสาวไว้ รวมถึงเสียดสีภาพลักษณ์ที่คนต่างผู้ถึงเธอในอดีตอย่าง “แกล้งเป็นจิ้งจอกที่แกล้งเป็นหมีที่แกล้งเป็นจิ้งจอก” (จากข่าวเดทหลายคนโจมตีว่าเธอเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่ แกล้งทำเป็น Innocence)
อัลบั้ม Palette ได้พิสูจน์อีกบทบาทหนึ่งของเธอในฐานะศิลปิน เพราะไม่เพียงแค่เเต่งเพลงเอง เเต่เธอได้ Produce อัลบั้มนี้เองทั้งหมด “หัวข้อ เพลง ภาพ ทุกอย่างฉันเลือกเองหมด ฉันต้องการเล่าเรื่องของผู้คน ซึ่งนี้เป็นอัลบั้มแรกที่ฉัน Produce เอง ฉันจริงเล่าเรื่องของตัวเอง”
IU ได้พิสูจน์ตัวเองว่าไม่เพียงเเค่การทำเพลงในสไตล์ที่หลากหลายหรือการถ่ายทอดเรื่องราวที่ซับซ้อนมากไปกว่าความรักของหนุ่มสาวได้ แต่เธอยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการควบคุมการผลิตของเพลงทั้งอัลบั้มและทำให้มันสำเร็จได้ด้วยตนเอง
ท่ามกลางเมโลดี้ที่สวยงาม ดนตรีที่ฟังง่าย หลายๆเพลงในอัลบั้ม Palette กลับนำเสนอด้านที่ความอ่อนแอ ความสับสน ความเจ็บปวดของ IU ในฐานะคนๆหนึ่ง ไม่ใช่ศิลปิลที่ต้องสร้างความบันเทิงให้ผู้อื่นตลอดเวลา
“เมื่อคุณมีความสุข จงมีความสุข เมื่อคุณเสียใจ จงร้องไห้ เมื่อคุณหิว แสดงออกมาว่าคุณไม่มีแรง เมื่อคุณป่วยแสดงออกมาว่าคุณอ่อนแอ ทุกอย่างมันคือเรื่องธรรมชาติ ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถแสดงออกสิ่งเหล่านั้นออกมาได้ โดยที่ไม่ต้องปกปิดมันไว้และได้รับการยอมรับกับสิ่งที่เป็น
โดยเฉพาะศิลปินอย่างพวกเรา เมื่อคุณมีหน้าที่สร้างความสุขให้คนอื่น แม้คุณจะคิดว่าไม่ไปไรเพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพ ฉันหวังว่าทุกคนจะนึกถึงตนเองเป็นอันดับแรก ฉันหวังว่าทุกคนจะไม่ฝืนความรู้สึกของตนเองมากเกินไปจนทำให้คุณต้องเจ็บป่วย”
เพราะ Palette ไม่ได้สื่อสารและสร้างกำลังใจกับคนฟังเท่านั้น แต่มันยังเป็นความสำเร็จที่ทำให้ศิลปิน K-pop ด้วยกันเห็นว่า คุณสามารถนำเสนอเรื่องราวของตนเอง ระบายเรื่องราวในใจให้กลายเป็นผลงานได้ โดยไม่ต้องปิดบังหรือเเสร้งพูดว่าตนเองเป็นใคร นั้นคงเป็นเหตุผลที่ทำไม Palette ถูกยกให้เป็นผลงานที่สำคัญต่อวงการ K-Pop ได้ในปีนี้
RECOMMENDED CONTENT
เพลงนี้เล่าถึงแรงเสียดทานในชีวิตที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอแรงเสียดทานนี้ ที่เกิดขึ้นจากการกดทับโดยบริบททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในแบบต่าง ๆ ที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เพราะถึงแม้จะนับ 1 ถึง 100 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบใจ แต่สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งนี้มันก็อาจจะเกินกว่าที่จะทนไหว และปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ออกมาก็เป็นได้