สไตล์บนตัวของเราส่วนหนึ่งถูกบ่งบอกผ่านเสื้อผ้าที่สวมใส่ และเมื่อถึงเวลาที่พ่อบ้านอย่างเราจำเป็นต้อง Do Laundry ดูแลเสื้อผ้าสุดรักกันแล้ว บางทีก็อาจจะมีลืมข้อห้ามข้อที่ไม่ควรทำบางอย่างไปเหมือนกัน ถึงตรงนี้ถ้าคุณมีแฟนสาวคอยดูแลเรื่องนี้ให้ จะข้ามคอลัมน์นี้ไปเลยก็ได้ แต่ถ้าตอนนี้คุณต้องดูแลเรื่องการซักผ้าด้วยตัวเอง ต่อให้ซักเครื่องก็เถอะ วันนี้เรามีข้อควรรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการซักผ้ามาฝากกัน
ทำความเข้าใจกับสัญลักษณ์เหล่านี้…
ก่อนอื่นทำความรู้จักกับเรื่องเบสิคพื้นฐานกันก่อน พวกสัญลักษณ์แปลกๆที่ปรากฎอยู่บนเสื้อผ้าหรือกางเกงของเรา เคยสงสัยกันไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร มา วันนี้เราจะช่วยไขทุกความงงนี้เอง
หมายเลข 1. ถ้าเป็นวงกลมเปล่าๆเหมือนในรูป นั่นแปลว่าคุณสามารถใช้ความร้อนในการซักแห้งได้
หมายเลข 2. ถ้าเป็นรูปสามเหลี่ยมเปล่าๆโล่งๆเหมือนในรูป นั่นแปลว่าคุณสามารถใช้สารฟอกสีได้
หมายเลข 3. ถ้าเป็นรูปวงกลมในสี่เหลี่ยมแบบนี้ มีเครื่องหมาย X คาดนั่นแปลว่าห้ามปั่นแห้งในเครื่อง / มีจุดหนึ่งจุดแปลว่าปั่นได้แต่เบา / มี 2 จุดคือปั่นได้ระดับกลาง / มี 3 จุดคือสามารถปั่นหนักได้
หมายเลข 4. ถ้าเป็นสัญลักษณ์เหมือนกับเตารีด มีเครื่องหมาย X คาดแปลว่าห้ามรีดผ้า / มีจุดหนึ่งจุดคือรีดได้แต่ใช้ไฟเบา / มีจุด 2 จุดคือรีดได้ใช้ไฟระดับกลาง / มีจุด 3 จุดคือรีดได้ใช้ไฟระดับแรง
หมายเลข 5. ถ้าเป็นเหมือนกระบะแล้วมีน้ำอยู่ หมายถึงอุณภูมิของน้ำที่ใช้ในการซัก มีจุดเดียวในน้ำแปลว่าใช้อุณหภูมิต่ำ (ประมาณ 40 องศา) / มี 2 จุดแปลว่าใช้อุณหภูมิกลางๆ (60 องศา) / มี 3 จุดแปลว่าใช้อุณหภูมิสูง (ประมาณ 90 องศา)
ทีนี้เรามาดูความผิดพลาดที่เรามักจะทำกันอยู่บ่อยๆกันบ้าง มาลองเช็คกันว่ามีอะไรที่ทำเป็นประจำรึเปล่า? ถ้ามีก็ควรเลิกซะตั้งแต่อ่านคอลัมน์นี้!
ซักด้วยน้ำร้อนเกินไป
นอกเสียจากว่าคุณเพิ่งไปลุยโคลนมาอย่างหนัก จะเป็น Glastonbury Festival หรือ Woodstock ก็ไม่รู้ล่ะ ถ้าเรื้อนมาหนักจริงๆ โอเคคุณสามารถซักด้วยน้ำร้อนได้แบบไม่ต้องคิดอะไรเลย แต่สำหรับเสื้อผ้าปกติถ้าเป็นไปได้ไม่ควรอย่างยิ่ง
วิธีการ:
- ส่วนใหญ่แล้ว น้ำที่ใช้ซักตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 40 องศา ถือว่าเป็นพื้นฐานของการซักผ้าเสื้อในทุกๆวันนี้ 90% ของชนิดผ้าเหมาะสำหรับอุณหภูมิไม่ขาดไม่เกิน 40 องศาเท่านั้น อย่างเช่น เสื้อยืด / เสื้อเชิ้ต / ผ้าร่ม / ยีนส์ / กางเกงใน เป็นต้น
ปั่นแห้งด้วยเครื่องผิดลักษณะ
ถ้าบอกว่าที่ตากผ้าในบ้านเป็นเหมือนสเปซในฝันที่ไม่มีอยู่จริง โอเคงั้นการปั่นแห้งด้วยเครื่อง ก็เป็นตัวเลือกที่รับได้ แต่จริงๆแล้วมันเสี่ยงทำให้ผ้าหดก่อนวัยอันควรมากๆ
วิธีการ:
- วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ถ้าชีวิตไม่ได้เร่งรีบอะไร ไปหาที่ตากผ้าขนาดเล็กๆตั้งในบ้านมา แล้วให้เวลาตากมันให้แห้งจะเวิร์คที่สุด
ซักทุกอย่างมันพร้อมๆกันเลยทีเดียวนั่นล่ะ
อันนี้ล่ะที่ผิดมหันต์เลย เหตุก็น่าจะมาจากข้อข้างบน แล้วก็สัญลักษณ์อะไรนั่น เมื่อมันเยอะนักก็จับโยนมันรวมกันซะเลย ครับ เสื้อผ้าพังหมด ซึ่งนอกจากจะเสียทรงของผ้าแล้ว บางทีสียังตกมาโดนกันอีก ง่ายแต่เจ๊งแบบนี้เราว่าไม่เวิร์ค
วิธีการ:
- อ่านสัญลักษณ์ให้ดีแล้วค่อยๆแยกเสื้อผ้า ซักเป็นชุดๆ ยิ่งถ้าเป็นเสื้อผ้าหรือกางเกงที่มีสี ควรแยกระหว่างสีเข้มกับสีอ่อน กันการตกสี แล้วถ้าเสร็จแล้ว แต่ยังกลัวสีติดอยู่ ก็ซักน้ำเปล่าก่อนหรือใส่พวกตัวดักสี (Color Catcher) ลงไปก็ได้
ลืมเอาของออกจากกระเป๋า
ข้อนี้เป็นบ่อยเลยล่ะ ไม่ว่าจะเศษตั๋วรถเมล์ยิบๆย่อย เงินเศษเหรียญไปจนถึงแบงค์ยี่สิบยันหลักพัน หรือไอโฟนเครื่องโปรดที่เพิ่งถอยมาหมาดๆ อะไรเหล่านี้เราไม่ควรปล่อยให้มันปนอยู่ในเสื้อผ้าหรือกระเป๋ากางเกงขณะซักทั้งนั้น
วิธีการ:
- มันไม่มีน้ำยาเตือนความจำหรือผงเอาของออกใดๆมาช่วยทั้งนั้นข้อนี้ ต้องสร้างนิสัยการเช็คกระเป๋าให้ถี่ถ้วนก่อนจะลงมือซัก เป็นไปได้ก็กลับกระเป๋ามันออกมาให้หมดเลย จะได้ชัวร์
จัดหนักผงซักฟอกเกินพอดี
โอย นานๆซักผ้าที กลัวจะไม่สะอาดจังเลย คิดง่ายๆเราก็จัดหนักผงซักฟอกไปเลยละกัน จะได้หอมๆ ผิดครับ! การซักผ้าแต่ละชนิดมันจะมีความพอดีของผงซักฟอกอยู่ แต่ผลที่ออกมายังไม่เป็นโทษมากเท่าไร มันก็จะชอบมีฟองติดเยอะๆ แบบน้ำล้างไม่ออก โทษจะไปเกิดกับเครื่องซักผ้ามากกว่า ที่ทำไปนานๆเข้าจะไม่เวิร์ค
วิธีการ:
- เครื่องซักผ้าสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องปล่อยน้ำในการซักเยอะแล้ว แถมผงซักฟอกก็มีอาณุภาพทำความสะอาดได้ดีเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องใส่เยอะเกินพอดี ลองอ่านข้างกล่องว่าเขาใช้กันเท่าไหน ก็เท่านั้นล่ะ
ซักแห้งผิดวิธี
คล้ายกันกับข้อปั่นแห้งในเครื่อง การซักแห้งที่ผิดวิธี ด้วยควมร้อนหรือไม่ก็สารเคมีจะทำให้ผ้าเสียคุณภาพได้เลย ยกตัวอย่างง่ายๆก็เช่นเสื้อสูท ซักแห้งไม่เป็น ก็จะทำให้สูทมันเงาวาว เดินไปไหนคนเห็นทั่วกัน ถ้าอยากดูเรืองแสงนิดๆก็ทำได้นะ
วิธีการ:
- ถ้าเป็นเสื้อผ้าทั่วไป เวลามีคราบอะไรก็ควรค่อยๆปัดออก หรือไม่ก็รอซักจริงๆจังๆทีเดียวเลย ส่วนถ้าเป็นสูทที่ต้องมีการซักแห้ง ควรเก็บไว้ซักในทุกๆหกเดือนก็พอ
ใช้ที่แขวนเสื้อที่ทำจากลวด
เห้ย ข้อนี้เราเองก็จุกเลย เพราะไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่บ้าน มันมีแต่ไม้แขวนเสื้อแบบนี้ทั้งนั้น ตามจริงแล้วไอ้ที่แขวนเสื้อแบบนี้มันไม่น่าจะมีอยู่บนโลกเลยด้วยซ้ำ เพราะมันจะทำลายทรงการตัดเย็บเสื้อผ้าของเราหมด ยิ่งถ้าเอาไปแขวนสูทกันอยู่ อ่านอยู่ตอนนี้รีบไปเอาออกเลย มันโหดร้ายมากๆ!
วิธีการ:
- ลงทุนหน่อย หาซื้อไม้แขวนซื้อดีๆสักหนึ่งชุด เอาแบบที่มีทรงไม้ออกแบบมาให้รับกับบ่าและไหล่กันโดยเฉพาะ
ซักกางเกงยีนส์ตัวโปรดบ่อยไป
จริงๆข้อนี้ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอกนะ เพียงแต่จะใส่ยีนส์ทั้งที เราเองก็ทนเห็นคนเสียความเก๋าของยีนส์ตัวโปรดไปไม่ได้ การซักกางเกงยีนส์บ่อยๆมีผลหลายอย่าง หนึ่งก็คือจะทำให้โทนสี Indigo แท้ๆของยีนส์เราค่อยๆหายไป และถ้าเป็นยีนส์คุณภาพไม่ได้ดีมาก จะเห็นชัดเลยว่า การโยนเข้าเครื่องซักผ้าบ่อยๆ ใส่แปปเดียวก็เสียรูปแล้ว
วิธีการ:
- ถ้าพูดกันตามตรงแล้ว การลงทุนให้กับกางเกงยีนส์ เนื้อผ้าเดนิมดิบๆเจ๋งๆสักตัว จริงๆแล้วคุณสามารถอยู่กับมันไปนานแสนนานโดยไม่ต้องซักเลยก็ยังได้ ก็ Fade กันให้มันส์ไปข้างเลย ตามหลักแล้ว 6 เดือนควรซักหนเดียวเท่านั้น (ถ้าอยู่คนเดียวก็ได้ แต่อยู่กับแฟนก็มักจะโดนแอบเอาไปโยนใส่เครื่องหมด เพราะมันเหม็นเหลือทน) หลังจากซักเสร็จก็ไม่ต้องไปรีดหรืออะไรทั้งนั้นนะ ปล่อยให้รับวิตามินจากแดดนั่นล่ะ พี่ยีนส์เขาชอบสุด
Credit: theidleman
RECOMMENDED CONTENT
การ์มิน เปิดตัวแคมเปญ “FROM ZERO TO HERO” ปลุกสปิริตให้คนไทยในช่วงเวลาที่หมดไฟ ให้สามารถเดินหน้าพิชิตเป้าหมายก่อนปิดปี 64