fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#ART | ดำดิ่งสู่ชุดภาพถ่ายขาว-ดำ โดยช่างภาพสายตรีทชาวเยอรมัน Philipp Weinmann ไปกับกล้อง Leica Q2 Monochrom
date : 23.พฤศจิกายน.2020 tag :

ไลก้า คาเมร่า ไทยแลนด์ เปิดตัวกล้องรุ่นนี้อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน Leica Q2 Monochrom โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูดูคลาสสิกเป็นเอกลักษณ์ แต่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมการถ่ายภาพที่ล้ำสมัย เรียกว่าเป็นกล้องคอมแพคฟูลเฟรมภาพขาว – ดำ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการความสมบูรณ์ของการถ่ายภาพทั้งแนวสตรีท สถาปัตยกรรม และภูมิทัศน์ ผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพขาว – ดำหรือเริ่มสนใจการถ่ายภาพแนวนี้ โดยถ่ายทอดออกมาเป็นชุดภาพถ่ายจากกล้อง Leica Q2 Monochrom จากฝีมือของ ฟิลิป ไวน์มันน์ (Philipp Weinmann) ช่างภาพแนวสตรีทชาวเยอรมัน ผู้ที่ได้ทดลองใช้ Leica Q2 Monochrom คนแรกของโลก

Leica Q2 Monochrom มาพร้อมเซ็นเซอร์โมโนโครมแบบฟูลเฟรมที่พัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมด้วยเลนส์ไพรม์ไวแสง Leica Summilux 28 mm f/1.7 ASPH. ความละเอียด 47.3 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอระดับ 4K  ได้อย่างสวยสดงดงามที่ 3840 x 2160 พิกเซล ด้วยเฟรมเรท 30 หรือ 24 fps (ความเร็วในการบันทึกภาพในหนึ่งวินาที) หรือในรูปแบบ Full HD ด้วยเฟรมเรท 120, 60, 30 หรือ 24 fps ที่มีรายละเอียดครบถ้วนได้ที่ความไวแสงสูงถึง ISO 100,000 และยังมีโมดูล Wi-Fi ในตัวที่จะทำงานร่วมกับแอพ Leica FOTOS เพื่อให้แชร์ผลงานทางโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และยังสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าหลายอย่างของกล้องจากบนสมาร์ทโฟนได้ทันที หรือแม้แต่ควบคุมการลั่นชัตเตอร์ของ Leica Q2 Monochrom จากระยะไกลโดยที่กล้องจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลาผ่าน Bluetooth LE (Low Energy) 

รูรับแสง เริ่มต้นที่กว้างถึง f/1.7 ก็ช่วยรับประกันว่าจะได้ภาพที่มีคุณภาพสูงสุดแม้จะอยู่ในสภาพแสงที่ไม่เอื้ออำนวยก็ตาม นอกจากนี้ยังมีกลไกบนตัวเลนส์สำหรับล็อคระบบโฟกัสเป็นแบบอัตโนมัติหรือปรับด้วยมือได้สะดวกรวดเร็ว และสามารถสลับเป็นโหมดมาโครที่มีระยะโฟกัสใกล้เพียง 17 ซม. ได้ง่าย เปิดโอกาสให้ช่างภาพมีอิสระเต็มที่ในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายขาว – ดำให้ออกมาโดดเด่นสวยงาม

การขยายช่วงซูมแบบดิจิตอล ที่มีอยู่ในตัวให้เป็นสูงสุดที่ระยะ 75 มม. ช่วยให้ช่างภาพสามารถจัดองค์ประกอบภาพได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น และนอกจากทางยาวโฟกัสของเลนส์กล้องแบบไม่ครอปตัดที่ 28 มม. แล้ว ยังสามารถเลือกตัวคูณแบบครอปตัดเพื่อจำลองการถ่ายภาพที่ทางยาวโฟกัส 35, 50 หรือ 75 มม. ได้อีกด้วย และการครอปตัดที่เลือกไว้นั้นจะแสดงเป็นเส้นกรอบที่สว่างในช่องมองภาพและบนจอแสดงผลด้านหลัง 

ระบบโฟกัสอัตโนมัติ สามารถโฟกัสภาพได้อย่างแม่นยำในเวลาไม่ถึง 0.15 วินาที ซึ่งทำให้ Leica Q2 Monochrom เป็นหนึ่งในกล้องที่เร็วที่สุดในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังมีการปรับปรุงโปรเซสเซอร์ตระกูล Maestro เพื่อเพิ่มอัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องให้เร็วขึ้นอย่างน่าทึ่งเป็น 10 เฟรมต่อวินาทีแบบเต็มความละเอียด 47.3 ล้านพิกเซล 

Leica Q2 Monochrom ยังมาพร้อมช่องมองภาพ OLED ความละเอียด 3.68 ล้านพิกเซล เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับคุณภาพในการถ่ายภาพขาว – ดำ ช่วยให้ช่างภาพสามารถควบคุมการสร้างสรรค์ภาพได้อย่างเต็มที่ตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมิติความลึกและคอนทราสต์ของภาพให้สูงขึ้นอีกด้วย เพราะมีการปรับความสว่างของทุกพิกเซลในช่องมองภาพของ Q2 ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยี LCD ที่สามารถปรับภาพที่มองเห็นให้มืดลงได้เป็นส่วนๆ เท่านั้น และถึงแม้ว่าจะมีความละเอียดสูงแต่กลับใช้พลังงานต่ำ นอกจากนี้ช่องมองภาพยังเปิดทำงานทันทีที่ยกกล้องขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาเพื่อแสดงภาพอย่างถูกต้องตรงกับความเป็นจริงโดยแทบไม่มีอาการหน่วง

ตัวกล้องสีดำผิวด้านยังหุ้มด้วยแผ่นหนังแบบใหม่ โดยมีการสลักข้อความสีเทาและขาวพร้อมด้วยตัวอักษร MONOCHROM อยู่ด้านบนสุด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเสริมให้ดีไซน์แบบโมโนโครมนั้นดูสง่างามแต่ไม่สะดุดตาจนเกินไป ดังจะเห็นได้จากความตั้งใจของเราที่จะไม่ใส่โลโก้ Leica สีแดงไว้บนกล้องรุ่นนี้ และ Q2 Monochrom ยังมีการปิดผนึกเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองน้ำตามมาตรฐาน IP52 เช่นเดียวกันกับ Leica Q2

สำหรับดีไซน์ ของ Leica Q2 Monochrom ยังคงยึดมั่นในแนวทางดั้งเดิมของ Leica ยิ่งกว่ากล้องรุ่นไหนๆ โดยการคงไว้เพียงสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ และมีตราคุณภาพ ‘Made in Germany’ เป็นเครื่องรับประกันว่าทุกองค์ประกอบของกล้องรุ่นนี้ใช้แต่วัสดุที่ดีที่สุดและคงทนที่สุดเท่านั้น นอกจากนี้ดีไซน์แบบโมโนโครมของ Leica Q2 Monochrom ยังมาพร้อมแผ่นหนังลายคลาสสิก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอย นอกจากนี้ยังมีการนำแนวคิดใหม่เกี่ยวกับการปรับแต่งกล้องที่เข้าใจง่ายและเป็นธรรมชาติมาใช้กับกล้องรุ่นนี้ เสริมด้วยแนวคิดในการควบคุมกล้องที่ง่ายไม่แพ้กัน โดยมีการปรับโครงสร้างของเมนูให้เรียบง่ายขึ้นและเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของกล้องโมโนโครม อย่างการตัดการตั้งค่าสีทั้งหมดของภาพถ่ายและวิดีโอออก และเพิ่มการตั้งค่าสำหรับการย้อมสีภาพขาว-ดำเข้ามาแทน (สีฟ้า ซีเปีย และซีลีเนียม)

Leica Q2 Monochrom มีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้งานอย่างครบถ้วน อาทิ กระจกป้องกันหน้าเลนส์และสายสะพายที่ทำจากหนังคุณภาพพรีเมียมในสีสันต่างๆ รวมถึงกระเป๋าและสายรัดข้อมืออีกหลากหลายแบบ ส่วนอุปกรณ์ทางเทคนิคสำหรับ Leica Q2 Monochrom ก็มีให้เลือก เช่น แฟลช Leica SF 40, SF 60 และตัวควบคุมแฟลชจากระยะไกล SF C1 พร้อมด้วยที่วางนิ้วหัวแม่มือและแฮนด์กริปที่มีแผ่นหนังเข้าคู่กัน แล้วยังมีฟิลเตอร์สี E49 อีก 3 ตัวที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ใช้งานกับกล้องรุ่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งสีเหลือง สีเขียว และสีส้ม 

มาสัมผัสเสน่ห์ของภาพขาวดำ กับ Leica Q2 Monochrom ได้ที่ Leica Store สาขา เกษรวิลเลจ ชั้น 2 โทร. 02-656-1102 และ สาขา ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น เอ็ม โทร. 02-003-6068 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Line Official: @leicath

– Leica Q2 Monochrom ราคา 199,600 บาท

RECOMMENDED CONTENT

8.ตุลาคม.2020

Zoe Wees นักร้องสาวจากเมืองฮัมบวร์ค วัย 18 ปี ที่เติบโตมาพร้อมกับโรคร้ายในวัยเด็กและต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวในการสูญเสียการควบคุมร่างกายของเธอเอง วันนี้เธอต่างได้รับการยกย่องด้านความสามารถในการเปล่งเสียงร้องและการแต่งเพลงที่น่าดึงดูดและมีพลัง หลังจากเปิดตัวด้วยซิงเกิลแรก “Control”