ช่วงนี้อากาศดี แดดร่มๆ ลมหนาวพัดฉุยๆ ถ้าใครยังค้นพบว่าตัวเองว่างอยู่ แล้วอยากหาอะไรทำ เราขอแนะนำงานอดิเรกเบสิคพื้นฐานของมนุษย์ นั่นก็คือ ‘ปลูกต้นไม้’ ทุกคนน่าจะเคยมีความคิดอยากปลูกต้นไม้ไว้คุยเล่นแน่นอน แต่ท้ายที่สุดก็ล้มเลิกความตั้งใจเพราะมันดูไกลตัว และขั้นตอนเยอะแยะเต็มไปหมด
แต่จริงๆ แล้วไม่ยากเลย เพียงแค่เอาตัวเองไปเดินเล่นในตลาดนัดต้นไม้สวนจตุจักร (ทุกบ่ายเย็นวันอังคาร – เช้าวันพฤหัสบดี) ก็น่าจะได้ต้นไม้กลับมาบ้านกันแล้ว เราเลยขอเป็นตัวช่วยแนะนำต้นไม้แบบพื้นฐาน (เราเองก็งูๆ ปลาๆ เหมือนกัน) ถ้าอยากได้ข้อมูลแบบลงลึกเพิ่มเติมลองไปเดินถามพ่อค้าแม่ค้ากันได้ แต่ตอนนี้ขอแค่เก็บภาพตลาดต้นไม่มาฝากกันก่อนละกัน และต้นแรกก็คือ แทม แท้ม แท่มม…
•– กุหลาบหิน –•
แม้ชื่อจะขึ้นต้นด้วยกุหลาบ แต่ความเห็นส่วนตัวนี่มันดูแล้วคล้ายๆ กับพวก Cactus หรือตะบองเพชรนะ สามารถอมน้ำได้เยอะ เป็นทรงเตี้ยๆพุ่มๆ ออกดอกสวยงาม ก็ถ้าใครเบื่อตะบองเพชรแล้ว กุหลาบหินเป็นตัวเลือกที่ตอนนี้คนกำลังให้ความสนใจพอสมควร การดูแลถ้าอยากให้ออกดอกก็ควรเอาไปเจอแดดบ่อยๆ แต่ถ้าสะดวกเลี้ยงในร่มก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแต่ดอกจะออกยากกว่าหน่อย ให้น้ำสัปดาห์ละไม่ถึง 3 ครั้ง พี่หินก็สบายแฮแล้ว ราคาที่ลองไปเดินสำรวจมาอยู่ที่ ไซส์เล็ก 50–60 บาท ส่วนไซส์ใหญ่ 100 บาท
•– บีโกเนีย –•
จริงๆ บีโกเนียมีอยู่หลายสายพันธุ์มีทั้งแบบออกดอกสวยงามเป็นสีสัน หรือเป็นใบสีแดงอย่างในรูปนี้ก็มี สุดแล้วแต่คนชอบ การดูแลบีโกเนียจัดอยู่ในระดับที่เลี้ยงง่าย เพราะเป็นไม้ร่ม ต้องการแดดพอดีเท่านั้น ถ้าโดนแดดมากไปใบก็จะแห้ง นอกจากนั้นบีโกเนียถือเป็นไม้ที่ต้องการน้ำ จำเป็นต้องรดวันละครั้ง แต่ก็ห้ามลดบ่อยเกินไปอีก …เรื่องเยอะแบบนี้แล้วใครจะเลี้ยงไหว!? แต่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ยอดฮิตของคนเมืองอยู่เหมือนกัน บีโกเนียจะขายอยู่ที่ 100–150 บาทสุดแล้วแต่ขนาด
•– เฟิร์นช้องนาง –•
ต้นนี้ขอแอบเข้ามาอยู่ในลิสต์หน่อย เพราะจริงๆ มันเป็นไม้ที่ดูแลยากพอสมควร แต่เห็นแล้วสวยดี การเลี้ยงดูของต้นนี้ จำเป็นต้องมีอุณหภูมิซึ่งเหมาะกับเค้าพอสมควร นั่นคือความชื้นที่เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้อยากเลี้ยงทุกฤดูคงจำเป็นต้องมีโรงเรือนหรือร่มเงาในการพรางแสง ให้ความชื้นนั้นคงที่และเพียงพอ หาก้อนอิฐก้อนหินมาจัดวางหน่อยให้มอสขึ้น ก็จะมีความชื้นรองรับได้แล้ว ราคาของเฟิร์นช้องนางพุ่มใหญ่อยู่ที่ 1,500 บาท
•– ยิปซี –•
นี่ก็เลี้ยงไม่ค่อยง่ายเท่าไร แต่อยากใส่เข้ามาในลิสต์ด้วยเพราะชอบมากกก (เหตุผลส่วนตัวสุดๆ) พุ่มดอกยิปซีนี้เราเชื่อว่าใครเห็นก็ต้องหลงรักทุกคน สีสันมองแล้วสบายตา ดูเป็นมิตรน่าคุยด้วย (เอ้า คุยกับต้นไม้มีจริงๆ นะ) การดูแลต้นยิปซีจำเป็นต้องใช้ความเอาใจใส่พอสมควร ชอบแสงรำไร ไม่ควรเอาไปเจอแดดตรงๆ เพราะจะไหม้หมด และการให้น้ำต้องให้ทุกๆ วัน วันละครั้ง ด้วยการฉีดพรมๆ หากทิ้งไว้ลืมให้น้ำ เราให้ไม่เกิน 2 วัน ยิปซีที่เคยงามก็ร่วงเกลี้ยงทันที เพราะฉะนั้นต้นนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาให้จริงๆ ราคาพุ่มใหญ่ที่เราไปถามมาอยู่ที่ 150 บาท
•– เยอบีร่า –•
ไม้ดอกยอดฮิตอีกชนิดหนึ่ง เพราะมีพันธุ์ต่างๆ หลายสีสันเป็นเอกลักษณ์ให้เลือกมากมาย การดูแลของเยอบีร่า ถือเป็นไม้ร่ม ไม่ต้องการแสงแดดจัด ควรให้แสงแบบรำไรพอ ส่วนการให้น้ำควรให้น้ำอย่างน้อยวันละสองครั้ง เช้าและเย็น ถ้าปลูกแล้วรุ่ง สามารถตัดดอกเอาไปใส่แจกันหรือให้คนรักก็ได้
•– อโกลนีมา (แก้วกาญจนา) –•
ไม้ยอดฮิตของเขตอากาศร้อน ที่กำลังโด่งดังในช่วงปีสองปีมานี้ เนื่องจากเป็นไม้ใบ ที่มีใบสีสันสวยงาม แดงสลับเขียว แล้วเลี้ยงดูง่าย เพราะเป็นไม้ที่ไม่ต้องการแดดมาก ลุงคนขายบอกปลูกในห้องแค่แสงนีออนก็ยังไหว แต่ก็ต้องนำออกมารับแดดบ้างเป็นครั้งคราว การให้น้ำของต้นนี้ไม่จำเป็นต้องบ่อย แต่ครั้งหนึ่งควรให้น้ำแบบชุ่มไปเลย จะวันเว้นวัน หรือสองวันเว้นก็ได้ ราคาของแก้วกาญจนาตกอยู่ที่ ต้นเล็ก 50 บาท ต้นใหญ่ 100 บาท
•– พรมญี่ปุ่น –•
บางคนอาจจะคุ้นกับชื่อ พรมกำมะหยี่ มากกว่า นี่เป็นไม้ใบที่เราเห็นครั้งแรกก็หลงรักเลย ไม่รู้ทำไม รูปทรงใบแบบหยาบๆ ขนๆ มีดอกแดงจิ๋วๆ โผล่ออกมา เป็นพืชที่ชอบแดดรำไร และน้ำพอประมาณ เอาแค่ให้หน้าดินชื้นๆ พอ จะว่าเลี้ยงง่ายก็ง่าย ยากก็ยาก เพราะต้องคอยดูแลให้อยู่ในระดับที่พอดี ราคาที่เราสอบถามมาอยู่ที่ประมาณกระถางละ 100 บาทขึ้นไป
•– เดซี่ –•
“Daisy daisy… Give me your answer.. DO” ได้ยินชื่อดอกนี้ทีไร ต้องฮัมเพลงนี้ในใจทุกครั้ง ดอกเดซี่ที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก ที่เราถ่ายมาฝากนี้เป็นสีเหลือง ตื่นเช้ามาได้เห็นเดซี่อยู่ไม่ไกลจากที่นอนคงมีความสุขหลายแน่ๆ การดูแลของเดซี่ ถือเป็นพืชล้มลุก เพราะมันคือดอกหญ้าชนิดหนึ่ง ข้อควรระวังคือไม่ควรให้น้ำเยอะไปจะทำให้รากเน่า และเมื่อออกดอกแล้ว พอเริ่มเหี่ยวสามารถรวบตัดทิ้งได้เลย ดอกจะโตขึ้นมาใหม่เองเรื่อยๆ ต้นเดซี่ขายอยู่ที่ 4 กระถางจิ๋ว 100 บาท ใครอยากเติมโทนสีเหลืองให้บ้านหรือห้องก็เอาเลย
•– สับปะรดสี –•
เดี๋ยวจะหาว่าไม่สนใจไม้ใบกันเลย ไม้ใบสีสันสวยงาม และมีฟอร์มที่เป็นเอกลักษณ์นี้ จากปากแม่ค้าขายบอกว่า เป็นต้นที่เลี้ยงง่ายที่สุดแล้ว คือถ้าเลี้ยงตายก็ไม่รู้ว่าไงละ (ไอ้พูดงี้อะ ผมเลี้ยงตายเรียบมาแล้วทุกต้น) เป็นไม้ที่ต้องการแดดแต่พอดี ไม่ต้องจัดมาก ถ้าเลี้ยงในห้อง ที่ๆเหมาะที่สุดคือริมหน้าต่างหรือริมระเบียง เอาให้แดดรำไรและหมั่นให้น้ำพอ ราคาอยู่ที่ 50 -100 บาทตามไซส์
•– ฟอร์เก็ตมีนอท –•
ดอกไม้สีสวย ให้อารมณ์เหมือนอยู่เมืองนอก มีชื่อเดียวกันกับละครดัง อย่าลืมฉัน นี้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนอยากปลูกดอกไม้ ด้วยสีสันและรูปทรงดอกที่น่ารักสวยงาม เป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติก ที่ราถ่ายมาฝากกันนี้แม้ดอกจะยังไม่บานซะทีเดียว แต่ก็ดูไกลๆสวยงาม ให้อารมณ์สวนเมืองหนาวได้เหมือนกัน เป็นไม้ที่ตายยากอีกชนิดหนึ่ง ปลูกง่าย ชอบแสงแดดและความชุ่มชื้น ราคาของร้านที่เราไปถามมาเท่ากับเดซี่เลย คือ 4 กระถางจิ๋ว 100 บาท
•– เดหลี –•
โอย อันนี้ต้องขอโทษด้วย ดันมาถ่ายเดหลีในช่วงที่ดอกไม่บานซะนี่ ก็เลยกลายมาเป็นเหมือนไม้ใบเลย แต่จริงๆแล้วนี่คือไม้ดอก ที่ใครหลายคนชื่นชอบเลยทีเดียว เพราะดอกจะออกมาเป็นสีขาวกลีบ คนไทยบางคนเรียกดอกหน้าวัวไทย (ลองเสิร์ชภาพดูเอาเองละกัน) แต่ โอเค สมมุติเราเลี้ยงโดยไม่หวังดอก ใบสีเขียวของต้นเดหลีก็สวยงามเช่นกัน มีความมันเงา ดูแล้วไม่เบื่อ เราจัดว่ามันสามารถเลี้ยงในร่มได้ เพราะต้องการเพียงแค่แดดรำไรแปปเดียว ช่วงตื่นนอนของวัน จับมาวางระเบียงระหว่างแต่งตัว แล้วหยิบกลับเข้ามาก่อนออกไปทำงานก็อยู่ได้แล้ว ควรให้น้ำสม่ำเสมอ ราคาเดหลีอยู่ที่ต้นละ 20 บาท ถูกๆ เลี้ยงสบายๆ สไตล์เดหลีจ้า
•– ผกากรอง –•
เป็นไม้ดอกล้มลุกเขตร้อนอีกเหมือนกัน จัดเป็นไม้แดดที่ต้องการแสดงแดดจัดๆ ตลอดเวลา ความยากสำหรับใครคิดจะเลี้ยงก็ต้องมีระเบียงหรือสวนบ้านที่แดดเข้าถึงได้ แต่ถ้าคุณสามารถมีที่อยู่มีแดดที่เหมาะแล้ว รับประกันว่าผกากรองจะตายยากจนคุณตกใจเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังถือเป็นสมุนโพรที่มีสรรพคุณแก้โรคมากมาย นอกจากออกดอกสีสันสวยแล้วยังมีผลออกมาด้วย ผกากรองขายราคากระถางเล็กที่ประมาณ 80 บาท
•– ไฮเดรนเยีย –•
ไม้ดอกสีม่วงอมฟ้าสวยงาม ที่เราก็ดันมาถ่ายในช่วงที่เค้ายังไม่ออกดอกซะนี่ แม่ค้าถึงกับบอกว่าให้กลับมาถ่ายใหม่อีกสองอาทิตย์ แต่เราก็เหลือบไปเห็นต้นที่กำลังจะเริ่มบานพอดีต้นหนึ่ง จากการสอบถามพบว่าการดูแลคือ เป็นดอกไม้ที่บ้าน้ำมาก ต้องให้น้ำบ่อยๆ ส่วนปลูกก็ปลูกในพื้นที่แดดรำไร สามารถปลูกในห้องได้เช่นกัน สีดอกจะเปลี่ยนไปตามสภาพกรดในดิน (วิชาวิทยาศาสตร์กับเกษตรตอนประถมยิ่งตกๆ อยู่) ราคาของดอกชนิดนี้อยู่ที่กระถาง 11 นิ้ว ประมาณ 80 บาท หรือถุงเล็กต้นจิ๋วอยู่ที่ 30 บาท
•– เจอราเนี่ยม –•
ชื่อไทยคือ ปากนกกระเรียน (ไม่ค่อยมีคนเรียกเท่าไร) อันนี้เป็นไม้ดอกที่เป็นที่พูดถึงในช่วงหลังมานี้เช่นกัน ความสวยงามทั้งใบและสีดอกของมันนั้นเรื่องหนึ่ง แต่เหตุผลหลักคือเรื่องสรรพคุณที่นี่คือดอกไม้ชนิดเดียวกับสารกันยุง! ใช้ปลูกในบ้านในห้องรับรองพี่ยุงไม้กล้าแหยม ได้ทั้งความสวยงามและประโยชน์แบบนี้ใครล่ะจะไม่ชอบ การดูแลเป็นไม้ที่ชอบแดดอ่อนๆ เต็มวัน แล้วก็ชอบอากาศเย็น รดน้ำปานกลาง ทั้งตลาดจตุจักรเราเจออยู่ไม่ถึงสองร้าน ขายในราคาต้นละ 200 บาท แต่รับประกันเลยว่าใครปลูกก็ต้องชอบ
—
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
กุชชี่นี่มันกุชชี่จริงๆ! ล่าสุด Gucci ได้กลับมาพร้อมกับแคมเปญ Gucci Gift Giving Collection ต้อนรับบรรยากาศ Festive ช่วงปลายปีแบบนี้ โดยปีนี้ มาในธีม 'Gucci Holiday Office Party' ที่จำลองออฟฟิศยุค 80s ในช่วงก่อนเวันหยุดยาวที่เหล่าพนักงานพร้อมสำหรับปาร์ตี้แสนคึกคัก ซึ่งไอเดียเก๋ๆ ของ Gucci ยุค 4.0 อย่างนี้ ไม่บอกก็คงพอเดากันได้ว่ามาจากใคร ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ อเล็ซซานโดร มิเคเล่ (Alessandro Michele) คนดีคนเดิมนั่นเอง