มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานเฮนด์เมคชิ้นเอกอันมีเอกลักษณ์ในการออกแบบที่เน้นผสมผสานคุณค่าวัฒนธรรมและหัตถกรรมของเอเชีย เพื่อให้ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) แบรนด์จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านของไทย โดยช่างฝีมือชั้นสูง โด่งดังไปทั่วโลก ผู้บริหารรุ่นใหม่ ศรี วอน บูเรน และ นิกกี้ วอน บูเรน
จึงมีแนวคิดจัดทำ 5 โปรเจกต์พิเศษในการครีเอทผลงานแฮนด์เมดมาสเตอร์พีซอันมีคุณค่าน่าครอบครองและสะสม รวมถึงเป็นการตอกย้ำถึงความเป็น โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ที่เป็นมากกว่าแบรนด์จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้าน แต่เป็นแบรนด์ที่เสมือนศูนย์รวมผลงานมาสเตอร์พีซจากทั่วโลก

สำหรับ 5 โปรเจกต์พิเศษที่จะมีขึ้นตลอดปี 2563 ได้แก่ 1. Lotus Arts de Vivre Masterpiece: จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านชิ้นพิเศษจากช่างฝีมือชั้นสูงของ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ 2. Cartier Vintage Watches: นาฬิการุ่นในตำนานของสะสมของ มร.แฮรี่ เฟน ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในเรื่องของชิ้นงานวินเทจของแบรนด์คาร์เทียร์ 3. Padma Gems Masterpiece Jewelry: คอกเลกชั่นพิเศษที่นำเพชร พลอยของมหาราชา มาดีไซน์ใหม่ ซึ่งแต่ละแบบจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก 4. Japanese Obi Master: สุดยอดโอบิ (ผ้ารัดเอวของชุดกิโมโน) จากฝีมือการออกแบบของ Genbei Yamaguchi ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น โอบิ มาสเตอร์ของญี่ปุ่น และ 5. Ralf Ohletz Masterpiece: นักสะสมของหายากที่มีคุณค่าชื่อดังของโลก

โดยวันนี้ได้มีโอกาสมาชมผลงานตัวอย่างผลงานชิ้นเอกทั้ง 5 โปรเจกต์ เริ่มต้นกับโปรเจกต์ Lotus Arts de Vivre Masterpiece จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านชิ้นพิเศษจากช่างฝีมือชั้นสูงของ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ซึ่งผลงานของแบรนด์โลตัสฯ แต่ละชิ้นนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรม ศาสนา จากประเทศฝั่งเอเชีย โดยนำวัสดุหายากและเป็นมงคลมาดีไซน์ เช่น ปีกแมลงทับ, ไม้เนื้อแข็งมีค่าและรูปทรงแปลก หายาก, เปลือกหอยต่างๆ และไม้ไผ่ชนิดหายากและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยใช้เทคนิคหัตถกรรมจากหลายประเทศ อาทิ อินเดีย ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย และไทย เป็นต้น

สำหรับตัวอย่างผลงานมาสเตอร์พีซของแบรนด์ Lotus Arts de Vivre Masterpiece อาทิ Puang Ma Lai Necklace with Scarab and Pearl สร้อยมุกประดับด้วยปีกแมลงทับ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะการร้อยพวงมาลัย โดยนำมุกน้ำจืดคุณภาพพรีเมียมที่มีขนาดเท่าๆ กันมาเรียงร้อยเป็น “ตัวมาลัย”ประดับด้วยเพชร นำทับทิมมาร้อยเป็น “มาลัยซีก” ดอกรักทองคำและปีกแมลงทับถูกนำมาประกอบเป็น “อุบะ” นับว่าเป็นสร้อยคอรูปพวงมาลัยที่แสนงดงาม และสะท้อนอัตลักษณ์ของความเป็นไทย แสดงออกถึงความงดงาม อ่อนหวานนอบน้อม โดยประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลก ที่นำส่วนประกอบของดอกไม้แยกส่วนและประดิษฐ์ เป็นดอกไม้ในรูปแบบพวงมาลัย

Scarab Snake Necklace with Citrine, Pink Tourmalines สร้อยคอปีกแมลงทับ ดีไซน์รูปงู มีความยืดหยุ่น สามารถแปลงเป็นสร้อยข้อมือได้ ทำจากปีกแมลงทับและทองคำ 18 K ซึ่งตามความเชื่อของอียิปต์โบราณยกให้เป็นแมลงศักดิ์สิทธิ์ ประดับด้วย ซิทริน (Citrine) พลอยสีเหลือง อัญมณีที่นำมาซึ่งสติปัญญา
ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพิ่มความมั่นใจและความมุมานะให้กับผู้สวมใส่ และ ทัวร์มาลีน สีชมพู อัญมณีแห่งความรัก สำหรับสร้อยคอปีกแมลงทับ ดีไซน์รูปงูเปรียบเสมือนงานฝีมือที่ต้องใช้ทักษะและเทคนิคขั้นสูง เนื่องจากต้องใช้ปีกแมลงทับที่มีขนาดและสีใกล้เคียงกัน นำมาตัดและประกอบเป็นสร้อยคออย่างประณีต Rattan Necklace with Japanese Lacquer Flower สร้อยคอหวายดีไซน์แปลกตา ด้วยการนำวิธีการสานหวายมาดัดแปลงเป็นสร้อยคอ ประดับด้วยดอกไม้เคลือบแลคเกอร์สไตล์ญี่ปุ่นผลงานของ Kita Hama ศิลปินแลคเกอร์ญี่ปุ่นที่โด่งดังของ เมืองโนะโตะ (Noto) ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น และเถาวัลย์ทำจากทองคำ 18K ดึงดูดสายตาด้วยเกสรเพชร และ ซาโวไรต์ (Tsavorite) หรือ โกเมนสีเขียว ซึ่งมีราคาสูงกว่าโกเมนเฉดสีอื่นๆ

ของแต่งบ้านชิ้นเอกของแบรนด์ฯ ที่ดูสะดุดตากับดีไซน์เหนือจินตนาการต้องยกให้ Motorbike with Bulldog บูลด็อกขี่มอเตอร์ไซค์ และ Motorbike with Boar หมูป่าขี่มอเตอร์ไซค์ เป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อน DNA ของโลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ โดยส่วนหัวและเท้าของบูลด็อกและหมูป่าทำจากเงิน ลำตัวทำจาก บรอนซ์ (bronze) หรือ ทองสำริด และดวงตาประดับด้วย ควอตซ์ (quartz)

Cartier Vintage Watches เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์พิเศษที่ทางแบรนด์ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ร่วมกับ มร.แฮรี่ เฟน (Harry Fane) ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในเรื่องของชิ้นงานวินเทจของแบรนด์คาร์เทียร์ นำนาฬิการุ่นในตำนานของสะสมของ มร.แฮรี่ เฟน มาวางจำหน่ายที่ร้านโลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์

มร.แฮรี่ เฟน เริ่มทำงานที่บริษัทประมูลที่มีชื่อเสียงอันดับต้นของโลก คือ ซอเธอบี้ส์ ณ กรุงนิวยอร์ก โดยทำงานในฝ่ายศิลปะอเมริกันร่วมสมัย และได้รับการแนะนำจากเพื่อนคนหนึ่งให้หันมาเน้นงานศิลปะยุคศตวรรษที่ 20 จึงได้มีโอกาสสัมผัสกับชิ้นงานวินเทจของคาร์เทียร์ อาทิ กล่องบุหรี่ กรอบรูป และนาฬิกาตั้งโต๊ะประดับเพชรพลอย ทำให้หลงใหลในงานของคาร์เทียร์อย่างจริงจัง ในไม่ช้า มร.แฮรี่ เฟน ก็หันมาเน้นเครื่องประดับวินเทจของคาร์เทียร์ โดยเฉพาะชิ้นงานที่เกิดขึ้นในยุคแห่งศิลปะ อาร์ต เดโค หรือยุคทศศตวรรษที่ 1920-1930 ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มตลาดเฉพาะตัว

นอกจากนั้น เขายังค้นพบความหลงใหลส่วนตัวที่มีต่อนาฬิกาคาร์เทียร์แทงก์ และ ณ ปัจจุบันนี้ เขาถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้อย่างหาใครเทียบไม่ได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามงานสะสมของมร.แฮรี่ เฟน จะจัดวางไว้ในร้านของตนเอง ชื่อ ออปซิเดียน (Obsidian) ในย่านเมย์แฟร์อันหรูหราแห่งกรุงลอนดอน จึงนับเป็นโปรเจกต์พิเศษที่จะสร้างปรากฏการณ์ให้นักสะสมของวินเทจและแฟนๆ คาร์เทียร์ชาวไทย ได้มีโอกาสชมความงดงามของดีไซน์แสนคลาสสิกและมีโอกาสได้ครอบครองนาฬิกาคาร์เทียร์รุ่นในตำนานที่หาซื้อไม่ได้แล้วในช็อปของคาร์เทียร์ อีกทั้ง Cartier ยังเป็นแบรนด์เครื่องประดับหลวงประจำหลายราชวงศ์ทั่วโลก

นาฬิกาคาร์เทียร์ รุ่น Tank LC ถูกออกแบบครั้งแรกในปี ค.ศ.1922 และด้วยดีไซน์อมตะสวมใส่ได้ทั้งหญิงและชายจึงทำให้ Cartier Tank LC เป็นนาฬิกาเรือนโปรดของคนดังมากมาย อย่าง สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง Jackie Kennedy มักจะสวมใส่ Tank Ordinaire รุ่นปี ค.ศ.1962 ซึ่ง Prince Stanislaw “Stas” Radziwill
ได้มอบให้กับเธอ และปัจจุบันนาฬิกาเรือนนี้อยู่ในการครอบครองของ Kim Kardashian โดยประมูลไปในราคาถึง 379,500 เหรียญ อย่างไรก็ตาม Cartier Tank LC ที่นำมาแสดงในงานนี้ถูกผลิตขึ้นเมื่อปลายปี 1960 ตัวเรือนสีทอง หน้าปัดสีเงิน ตัดกับเข็มนาฬิกาสีน้ำเงิน และตัวเลขโรมันสีดำ จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เม็ดมะยมทำด้วยไพลินหลังเบี้ยและสายหนังสีน้ำตาล

นาฬิกาคาร์เทียร์ รุ่น Lady’s Tank Normale เป็นคาร์เทียร์วินเทจที่นักสะสมหมายตา โดยคาร์เทียร์ได้ออกแบบโมเดลนี้ในปี ค.ศ.1922 ในส่วน Lady’s Tank Normale ที่นำมาแสดงนั้นผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1955/56 ตัวเรือนสีทอง หน้าปัดสีเงินทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัดกับเข็มนาฬิกาสีน้ำเงิน และตัวเลขโรมันสีดำ จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เม็ดมะยมทำด้วยไพลิน สายหนังสีแดงเชอรี่

นาฬิกาคาร์เทียร์ รุ่น Tank Cintrée – curved ถูกออกแบบขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1921 ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ฯ ด้วยตัวเรือนที่บางและการดีไซน์ที่ให้โค้งตามข้อมือของผู้สวมใส่ แม้หน้าปัดรุ่นนี้จะไม่มีจุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ แต่ยังคงความคลาสสิกด้วยเลขโรมัน โลโก้คาร์เทียร์ เข็มนาฬิกาสีน้ำเงิน
เม็ดมะยมทำด้วยไพลิน และสายหนัง

นาฬิกาคาร์เทียร์ รุ่น Cartier Platinum Tonneau นาฬิกาข้อมือคาร์เทียร์ตัวเรือนทรงถังเบียร์สุดคลาสสิกซึ่งถูกออกแบบขึ้นในปี ค.ศ.1906 สำหรับเรือนที่ทำมาจัดแสดงถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1910 ตัวเรือนทองคำขาว ด้านหน้าโค้งนูน ด้านหลังโค้งรับข้อมือ หน้าปัดยังคงดีไซน์อมตะของคาร์เทียร์ไว้ คือ ตัวเลขโรมัน จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เม็ดมะยมทำด้วยไพลินหลังเบี้ย และดีไซน์ของเข็มนาฬิกาทรง Breguet สีน้ำเงิน

Padma Gems Masterpiece Jewelry เป็นโปรเจกต์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ กับ Padma Gems ผู้ผลิตเครื่องประดับเพชรชื่อดังระดับโลกจากประเทศอินเดีย โดยนำเครื่องประดับเพชรคอลเลกชั่นพิเศษ นำเพชร พลอย ของมหาราชาแห่งอินเดีย มาดีไซน์เป็นเครื่องประดับชิ้นใหม่ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีชิ้นเดียวในโลก มาจัดแสดงและจำหน่ายที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์

ทั้งนี้ เพชรถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน และเพชรโบราณที่มีชื่อเสียงเกือบทั้งหมดของโลกต่างถูกค้นพบที่เหมืองในอินเดีย โดยเฉพาะเพชรจากเหมืองเพชรโบราณโกลคอนดา (Golconda) ในรัฐอานธรประเทศของอินเดีย ซึ่งโครตเพชรอันเลื่องชื่อของโลก “อาร์คดุ๊ก โจเซฟ” หนึ่งในเพชรที่บริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากสีสัน น้ำ 100 (D color) รูปทรงหมอนเม็ดดังกล่าว ซึ่งมีน้ำหนัก 76.02 กะรัต ก็ถูกค้นพบที่เหมืองโกลคอนดาเช่นกัน

Antique Diamond Necklace with Earrings เซ็ทเครื่องประดับสร้อยเพชรและต่างหูเพชร ดีไซน์วินเทจ เด่นด้วยเพชรจากเหมืองโบราณโกลคอนดา (Golconda) ประเทศอินเดีย เป็นแหล่งกำเนิดเพชรที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เจียระไนแบบเหลี่ยมโบราณ (Old Mine Cushion Cut) ประมาณ 50-52 กะรัต และเจียระไนแบบเพชรเหลี่ยมเก่ายูโรเปี้ยนคัท (Old European Cut) 11.22 กะรัต ราคารวมทั้งเซ็ท 11,500,000 บาท
ต่างหู 1,600,000 บาท สร้อยคอ 9,900,000 บาท

Necklace and Earrings with Sri Lankan Blue Sapphires เซ็ทเครื่องประดับพลอยไพลิน (47.47 กะรัต) จากประเทศศรีลังกา หรือเรียกว่า ไพลินซีลอน จัดเป็นไพลินที่มีสีน้ำเงินที่มีประกายมีชีวิตชีวา ประดับด้วยเพชรน้ำงาม เจียระไนแบบทรงบาเก็ต (Diamond Baguettes) และ ทรงกลม (Round Brilliant Cut) รวม 34.45 กะรัต ราคารวมทั้งเซ็ท 6,990,000 บาท ต่างหู 940,000 บาท สร้อยคอ 6,050,000 บาท

Earrings with Swat Natural Emeralds, Old Natural Burmese Cabochon Rubies เซ็ทเครื่องประดับมรกตแท้ จาก รัฐ Panjshir ประเทศอัฟกานิสถาน น้ำหนัก 12.08 กะรัต ประดับด้วยทับทิมพม่า น้ำหนัก 6.18 กะรัต ล้อมเพชร เจียระไนแบบ old Table Cut Diamonds นำหนัก 10.50 กะรัต ราคา 6,200,000 บาท

ส่วนโปรเจกต์ Japanese Obi Master เป็นโปรเจกต์ที่ทาง โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ได้รับเกียรติจาก Genbei Yamaguchi ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น โอบิ มาสเตอร์ผู้เป็นตำนาน หรือ บรมครูท่านหนึ่งแห่งวงการออกแบบและทอผ้าโอบิ หรือผ้าคาดเอวสำหรับชุดกิโมโนของญี่ปุ่น  เพราะเขาเป็นทายาทรุ่น 10 ของตระกูล Genbei โรงงานทอผ้าโอบิเก่าแก่มานานกว่า 280 ปี ของเมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่น

Genbei Yamaguchi หลงใหลในผ้าทอโอบิโบราณ ที่มีทั้งลวดลาย เทคนิคการทอ และวัสดุเส้นใยที่ใช้ทอหลากหลาย นับได้ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโบราณของญี่ปุ่น ที่กำลังเสื่อมหายไปจากโลก ด้วยขาดผู้สานต่อ และความยากลำบากในขั้นตอนการผลิต ที่ต้องใช้ประสบการณ์นานปี ความเพียรพยายามอย่างสูง ความละเอียดอ่อน และฝีมือขั้นเทพ ที่ยากจะหาช่างฝีมือทำได้ในปัจจุบัน แต่ Genbei Yamaguchi ก็เป็นผู้ที่มุ่งมั่นในการสานต่อศิลปะแขนงนี้ด้วยความรักและหลงใหลในความงดงามของชิ้นงาน และอุดมการณ์ที่จะอนุรักษ์ไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความเป็นญี่ปุ่น เพราะฉนั้น ผลงานที่ผลิตแต่ละชิ้น จึงถือได้ว่าเป็นงานศิลปะชิ้นเอก ระดับ masterpiece คู่ควรแก่การสะสมเป็นสมบัติล้ำค่า มากกว่าจะเป็นเพียงโอบิ เครื่องอาภรณ์ประดับกาย จากคุณค่าดังกล่าวทาง โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ จึงจัดโปรเจกต์ โปรเจกต์ Japanese Obi Master ขึ้นโดยการนำสุดยอดโอบิ (ผ้ารัดเอวของชุดกิโมโน) จากฝีมือการออกแบบของ Genbei Yamaguchi มาจัดแสดงและจำหน่ายให้ชาวไทยได้มีโอกาสครอบครองผลงานมาสเตอร์พีซนี้

สำหรับ Ralf Ohletz Masterpiece เป็นโปรเจกต์ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ และ Ralf Ohletz (มร.ราล์ฟ โอเล็ตซ์) ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งต่อรสนิยมอันเป็นเลิศในการเลือกของแต่งบ้านของ มร.ราล์ฟ โอเล็ตซ์ โดยนำของสะสมของเขามาขายใน โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์

มร.ราล์ฟ โอเล็ตซ์ เคานท์แห่งเพลทเทนเบิร์ก เป็นนักธุรกิจผู้สร้างสรรค์โรงแรมและรีสอร์ทระดับหรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมามากมายทั่วโลก ขณะเดียวกันก็เป็นผู้สืบทอดตระกูลขุนนางอันเก่าแก่หลายศตวรรษแห่งจักรวรรดิเยอรมันแต่เก่าก่อน มร.ราล์ฟ จึงมีความรักในโบราณวัตถุที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางศิลปะ ทั้งของยุโรปซึ่งเป็นพื้นหลังเดิมของเขา และของเอเชีย ที่ได้เพาะบ่มมาจากการทำงานในภูมิภาคนี้กว่า 30 ปี มร.ราล์ฟ ไม่เพียงแต่เสาะแสวงหาสิ่งงดงามและมีค่าทางวัฒนธรรมหลากหลาย แต่ยังมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะตกแต่งชิ้นงานต่างๆ ที่ซื้อหามาได้ ให้งดงามแปลกตายิ่งขึ้น ด้วยการเสริมดีไซน์ เพิ่มมูลค่า และความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยเงินปั๊มลายนูน ฝังเพชรพลอย และหินมีค่าต่างๆ ทำให้ได้ชิ้นงานที่ไม่มีใครเหมือน

Hornbill Sculpture ประติมากรรมนกเงือก ประดับด้วยเงินแท้และหิน นกเงือก เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เพราะนกเงือกจะอาศัยอยู่ในป่าหรือพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เท่านั้น นอกจากนี้ นกเงือกยังเป็นสัญลักษณ์ แห่ง“รักแท้” เพราะนกเงือกจะมีลักษณะการครองคู่แบบ “ผัวเดียว เมียเดียว” คือเมื่อไหร่ตัดสินใจครองคู่กันแล้ว ก็จะรักและดูแแลกันไปอย่างนั้นตลอดไปชีวิต

Kris กริชตกแต่งด้วยเงินแท้ แกะสลักลวดลายรูปพญานาค ซึ่งเป็นดาบของนักรบชนเผ่าพื้นเมือง เตาซุก (Tausug), ซามาล (Samal), ยาคาน (Yakan), มินดาเนา Mindanao ในประเทศฟิลิปปินส์

Coco de Mer Sculpture มะพร้าวทะเล มะพร้าวทะเลเป็นที่รู้จักตั้งแต่สมัยศตวรรษที่15 โดยสุลต่านแห่งมัลดีฟส์ ชวา และสุมาตราได้นำมะพร้าวทะเลที่เก็บได้จากชายหาดมาตกแต่งด้วยอัญมณีและทองมาประดับเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการแก่ชนชั้นขุนนางชาวตะวันตก

Vintage Suitcases กระเป๋าเดินทางวินเทจทำมือจากหลุยส์วิตตอง ในศตวรรษที่ 19 สะท้อนไลฟ์สไตล์นักเดินทางในสมัยนั้น โดยทำจากหนังจระเข้ แอฟริกา ซึ่งเป็นวัสดุที่ มร.ราล์ฟ ชื่นชอบ

สนใจมาชมสินค้าได้ที่โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์  บูทีค ชั้น 1 โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เวลา 10.00 – 19.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.lotusartsdevivre.com/