ห่างหายไปสามปีเต็มๆกับ MGMT วง psychedelic rock จากอเมริกาที่แฟนๆต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีกับผลงานอัลบัมแรกอย่าง “Oracular Spectacular” ที่ปล่อยเพลงฮิตติดหูออกมาอย่าง “Kids”, “Electric Feel” และ “Time To Pretend” เมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นอัลบัมแจ้งเกิดของ MGMT อย่างเต็มตัว ตามมาด้วยอัลบัมที่สอง “Congratulations” เมื่อปี 2010 ที่เมื่อเทียบกับความประสบความสำเร็จของอัลบัมแรกแล้ว ถือว่าห่างไกลอย่างมาก และสำหรับปีนี้กับผลงานอัลบัมชุดที่สามที่ใช้ชื่อว่า “MGMT” สองหนุ่ม Benjamin Goldwasser และ Andrew VanWyngarden ได้กล่าวเอาไว้ว่าพวกเขาตั้งใจที่จะให้อัลบัมนี้ออกมาแปลกยิ่งกว่าอัลบัมที่สองเสียอีก “พวกเราไม่ได้พยายามที่จะทำเพลงที่คนจะเข้าใจได้ในครั้งแรกที่ฟัง” ซึ่งถือว่าไม่ใช่ข่าวดีสำหรับแฟนๆคนไหนที่ยังอยากให้วงสุดติ๊สต์วงนี้หวนกลับไปทำเพลงแนวเดียวกับในอัลบัมแรกแน่ๆ

MGMT ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับอัลบัม Oracular Spectacular ซึ่งเปิดตัวที่อันดับ 12 บน UK album chart อันดับที่ 13 หลังจากอยู่ในชาร์ต RIANZ ของนิวซีแลนด์นานถึง 34 สัปดาห์ อันดับที่ 6 บนชาร์ต ARIA ของออสเตรเลีย และอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top Heatseekers นิตยสาร Rolling Stone ยกอัลบัมนี้ให้เป็นอัลบัมอันดับที่ 18 ที่ดีที่สุดในรอบสิบปี ส่วนนิตยสาร NME ยกให้อัลบัม Oracular Spectacular เป็นอัลบัมที่ดีที่สุดประจำปี 2008 เลยทีเดียว ด้วยความที่แต่ละซิงเกิ้ลจากอัลบัมอย่างเพลง Kids, Electric Feel และ Time to Pretend ต่างประสบความสำเร็จและฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง MGMT จึงได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy สาขา Best New Artist ส่วนเพลง “Kids” ก็ได้เข้าชิงสาขา Best Pop Performance By a Duo or Group with Vocals

ต่อมาในปี 2010 MGMT ก็ได้ปล่อยอัลบัมชุดที่สอง “Congratulations” ที่ถึงแม้จะได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีจากนักวิจารณ์และสามารถขายได้ 66,000 ก๊อปปี้ในสัปดาห์แรก แต่ 18 เดือนหลังจากนั้นอัลบัมนี้กลับกลายเป็น commercial flop ที่สามารถขายได้อีกเพียงแค่ 11,000 ก๊อปปี้เท่านั้น

เราคงต้องมาลุ้่นกันต่อกับอัลบัมที่สาม “MGMT” ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมาว่าซาวด์ดนตรีจะแปลกแหวกแนวขนาดไหน และจะสามารถทำให้วง MGMT กลับมาครองชาร์ตเพลงได้เหมือนเดิมหรือไม่ แต่ตอนนี้พวกเราไปชมเอ็มวีซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดจากอัลบัมกันดีกว่ากับเพลง “Cool Song No.2” ชอบไม่ชอบยังไงคงต้องแล้วแต่แฟนๆจะตัดสิน

Credit: The Guardian