ถ้าจะบอกว่าอินเตอร์เน็ตหรือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวันนี้มีผลกับชีวิตเรามาก ทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่!” เพราะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทุกๆวันของชีวิต ก็อินเตอร์เน็ตเนี่ยแหละ! ยิ่งตอนนี้มีการขยายครอบคลุมไปในหลายอุตสาหกรรม หนึ่งในนั้นคือรถยนต์ แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของงาน Motor Show ก็คงอดตื่นเต้นไม่ได้ถ้ามีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับรถยนต์
สิ่งนี้เองทำให้ค่ายรถยนต์อย่าง MG เลือกที่จะพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะไม่ใช่แค่เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ต้องการพัฒนาการใช้งานเทคโนโลยีในแบบที่ไม่เคยมีบริษัทรถยนต์รายใดทำมาก่อน นี่จึงเป็นความท้าทายบนความเชื่อที่ต้องการให้เทคโนโลยียานยนต์สอดคล้องกลมกลืนกับทุกจังหวะไลฟ์สไตล์ของชีวิต ทั้งระบบการควบคุมภายในรถยนต์ที่มีความล้ำหน้าและใช้งานง่าย ให้ทุกคนความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในรถยนต์หรือไม่ จากโจทย์นี้จึงเป็นที่มาของ “i-SMART” ชื่อที่ได้ยินบ่อย แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่าคืออะไร ? และดีอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ
รู้จัก “i-SMART” จาก MG
i-SMART” ระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมรถยนต์ด้วยความสามารถในการเรียนรู้พฤติกรรมผู้ขับ และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกในโลก จึงหมดกังวลสำหรับคนที่ถนัดสำเนียงแบบไทยๆ แต่ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะหรือสมาร์ทคาร์อยู่ด้วยฟังก์ชั่นมากมาย เพื่อเป็นการยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัย โดยที่เราสามารถออกแบบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคไอทีได้ด้วยตัวเอง
ความโดดเด่นของ i-SMART
บอกเลยว่าระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART ถือเป็นหนึ่งในผลลัพธ์จากกลยุทธ์ และแผนการตลาดของ เอ็มจีในประเทศไทย ที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ และพัฒนารถยนต์แห่งอนาคตให้มีความเป็นอัจฉริยะ (Intelligent) ให้ได้มากที่สุด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและระบบการเชื่อมต่อภายในรถยนต์ หรือ IOT (Internet of thing) ที่ช่วยให้การทำงานของเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ หรือ New Energy และ ระบบการแบ่งปันรถยนต์ในการใช้งาน (Car Sharing) ซึ่งเรียกได้ว่าไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่ยังคำนึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราด้วย
i-SMART ใช้งานอย่างไร ?
พลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยความชาญฉลาด ใช้งานง่าย และปลอดภัย
อย่างที่บอกว่า IOT หรือ Internet of Things สำคัญมากในยุคนี้ MG จึงใส่การเชื่อมต่อออนไลน์ให้ครอบคลุมทุกการใช้งานในรถยนต์ โดยมีระบบรองรับตั้งแต่ก่อนเดินทาง ขณะเดินทาง และหลังเดินทาง ด้วยการติดตั้ง mobile application ไว้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ จึงเปรียบเสมือนเรามีผู้ช่วยส่วนตัวที่ช่วยแจ้งข้อมูล และแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลานัดหมายสำคัญ ตลอดจนการค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด รายงานสภาพจราจร และสภาพอากาศเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ต้องการได้เร็วที่สุดอย่างปลอดภัย โดยเราสามารแบ่งความสมาร์ทของโหมดนี้ได้ 3 แบบ ดังนี้
SMART CONNECT : เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ให้สนุกได้ไม่รู้จบ
ให้ไลฟ์สไตล์เราคอนเนคกับความสมาร์ทได้ง่ายๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีน ทำให้ไม่ว่าจะเรื่องกิน เที่ยว ความบันเทิง ฯลฯ ต่อติดกับชีวิตได้อย่างลงตัว มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ ที่มีความสามารถหลากหลาย ด้วยระบบปฏิบัติการที่เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่
- ONLINE MUSIC ฟังเพลงฮิตจากทั่วโลกได้มากกว่า 1 ล้านเพลง
- FOOD & TRAVEL GUIDE แนะนำร้านเด็ดด้วย Wongnai และที่พักดีโรงแรมดังผ่าน Agoda
- MG LINK รองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟน ผ่านระบบแอนดรอยด์
- OTA UPGRADE SYSTEM สามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านออนไลน์
- SMART NAVIGATION กับการแสดงผลการจราจรแบบเรียลไทม์
SMART COMMAND : เมื่อชีวิตสั่งการได้ดังใจ จึงสั่งการทุกฟังก์ชันอย่างแม่นยำ
นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ระบบการเชื่อมต่อในรถยนต์รองรับการสั่งงานภาษาไทย โดยผู้ใช้สามารถควบคุมระบบ การสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เพื่อเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งสามารถสั่งการฟังก์ชันต่างๆในตัวรถ รวมถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และระบบช่วยนำทาง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังเลือกได้ว่า จะควบคุมสั่งการผ่านหน้าจอภายในรถ หรือสั่งการผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นอย่าง สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต
THAI VOICE COMMAND : ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
สามารถโทรออกได้ เพียงพูดชื่อ หรือเบอร์โทรศัพท์, ค้นหา จุดสนใจ (Point Of Interest), เปิด – ปิด หรือเปลี่ยนเพลงได้, เปิด – ปิด หรือควบคุมระบบปรับอากาศ, เปิด – ปิดซันรูฟ และหน้าต่างฝั่งคนขับได้*
VEHICLE CONTROL : ระบบสั่งการรถผ่านสมาร์ทโฟน และหน้าจอทัชสกรีน
- SMART CALL โทรออก — รับสายจากจอทัชสกรีนในกรณีฉุกเฉิน* โทรออกได้ 50 นาทีต่อเดือน
- REMOTE AC ON / OFF ระบบควบคุมการสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมการทำงานระบบปรับอากาศ*
- i – CALL สะดวก และปลอดภัยในการติดต่อ MG CALL CENTRE เพื่อสอบถามข้อมูล และขอรับจุดสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย
- TRAVEL PLAN ค้นหาข้อมูล POI จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสามารถวางแผนการเดินทางจากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
SMART CHECK : ให้ความมั่นใจอยู่ในมือคุณ!
คิดดูสิว่า… จะมีรถคันไหนที่ทำให้เราสบายใจได้แบบนี้อีกไหม เนื่องสามารถตรวจสอบรถเองได้ง่ายๆด้วยระบบสั่งการรถผ่านแอพพลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟน ที่มาพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- REMOTE VEHICLE DIAGNOSIS ระบบตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง ระบบเบรก ถุงลมนิรภัย และการล็อกประตู
- REMOTE VEHICLE CONTROL ล็อก หรือปลดล็อกประตู FIND MY CAR ให้คุณหารถได้อย่างง่ายดายโดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้าไฟท้ายหรือใช้เสียงแตร ผ่านการตั้งค่า ตรวจสอบตำแหน่งของรถพร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์
- SECURITY ALARM ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
- ELECTRONIC FENCE กำหนดขอบเขตการใช้รถ ได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือน เมื่อรถเข้าออกในขอบเขตที่กำหนดไว้ ระบบสั่งการรถผ่านแอปพลิเคชั่น
*ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอาจมีฟังก์ชันที่ต่างกันไปในรถแต่ละรุ่น
ตอกย้ำความมุ่งมั่นของการพัฒนายานยนต์อัจฉริยะในอนาคตระยะยาว
อีกหนึ่งความโดดเด่นของระบบ i-SMART เป็นที่ย้ำเสมอ คือระบบสามารเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่และพัฒนาความสามารถให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เมื่อผู้ขับขี่เดินทางไปถึงจุดหมายใดจุดหมายหนึ่งเป็นประจำทุกวัน ระบบนี้จะเรียนรู้เส้นทางนั้น และกลายเป็นตัวช่วยให้ผู้ขับขี่ไปถึงจุดหมายดังกล่าวได้ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART ยังสามารถอัพเกรด Firmware (โปรแกรมขนาดเล็กที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) ให้มีความทันสมัยได้ตลอดอายุการใช้รถยนต์ จึงไม่เพียงแค่พร้อมใช้งานตลอดเวลา แต่ยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับความบันเทิงภายในรถยนต์ การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ จึงสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ขับขี่อย่างเหนือความคาดหมายในอนาคต
อ่านมาถึงนี้ ใครที่ชอบความอัจฉริยะของรถยนต์ MG ตอนนี้ทางผู้ผลิตได้ใส่ระบบใน MG 3 ใหม่ และ MG ZS แล้ว รวมทั้งมีแผนจะติดตั้งระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART นี้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคตอีกด้วย เพื่อเป็นการรองรับการใช้งานในยุค IOT ที่เป็นทั้งระบบในการเชื่อมต่อ และทำให้โลกออนไลน์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตทุกคนได้อย่างแท้จริง
หากใครต้องการสัมผัสรถยนต์ Smart Car จาก MG รุ่นใหม่ล่าสุด ก็ไปได้ที่งาน “MG Expo 2018” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือ ที่โชว์รูมรถยนต์เอ็มจีทั่วประเทศ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและติดต่อสอบถามได้ที่ MG Call Centre โทร. 1267 (ได้ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือ
Website : www.mgcars.com
RECOMMENDED CONTENT
ภาพหายากที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อ Harrison Ford หลุดขำ กลางรายการให้สัมภาษณ์รายการทีวีของอังกฤษ This Morning เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา #BladeRunner2049