แนวคิดของรองเท้าตระกูล NIKE Free ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2001 จากข้อคิดเห็นของโค้ชกรีฑาระดับตำนานที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ของไนกี้สร้างสรรค์รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่จะช่วยให้ความรู้สึกราวกับวิ่งด้วยเท้าเปล่า แต่ยังคงมีการปกป้องและรองรับเท้าในจุดที่สำคัญ

รองเท้าวิ่งตระกูล NIKE Free รุ่นแรก เริ่มวางจำหน่ายในปี 2004 โดยมีพื้นรองเท้าที่เป็นแนวบาก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้นขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มความรู้สึกเหมือนกับวิ่งด้วยเท้าเปล่าไม่ว่าผู้สวมใส่รองเท้าจะต้องวิ่งบนพื้นผิวชนิดใดก็ตาม

ล่าสุดไนกี้ได้เปิดตัว รองเท้า NIKE Free Run Motion Flyknitที่ยกระดับเทคโนโลยี NIKE Free ขึ้นไปอีกขั้น โดยนำข้อมูลจาการวิจัยที่แสดงให้เห็นลักษณะการขยายและหดตัวของเท้าในขณะวิ่ง ที่เท้าแตะพื้นหรือลอยตัวจากพื้น มาทำการศึกษา ซึ่งการศึกษาดังกล่าวพบว่าเท้าของมนุษย์จะขยายยาวขึ้นประมาณ 1 ไซส์จากเบอร์รองเท้าปกติและขยายกว้างขึ้นประมาณ 2 ไซส์ตลอดการวิ่ง ดังนั้นนักออกแบบของไนกี้จึงได้ปรับปรุงและพัฒนารองเท้า ด้วยการดีไซน์ให้พื้นส่วนกลางของรองเท้ามีลักษณะเป็นรูปดาวสามแฉกที่สามารถขยายตัวไปตามจังหวะการวิ่ง การเคลื่อนไหวของร่างกาย และการเปลี่ยนแปลงของเท้าได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน นักออกแบบของไนกี้จึงได้ใช้นวัตกรรมใหม่เพื่อสร้างส่วนพื้นรองเท้า โดยใช้การอัดความร้อนแทนกาว ในการเชื่อมติดโฟม 2 ชิ้นเข้าด้วยกัน ซึ่งโฟมชั้นนอก คือ โฟม IU ส่วนแกนกลางจะเป็นโฟม IP แบบนุ่ม เพื่อเป็นการรองรับการเคลื่อนไหวได้มากขึ้นและมอบความรู้สึกสบายมากกว่ารองเท้ารุ่นก่อนหน้าในตระกูล NIKE Free

นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกคล่องตัวมากขึ้น นักออกแบบของไนกี้ยังได้สร้างส่วนที่เชื่อมระหว่างหน้ารองเท้าและส่วนกลางของพื้นรองเท้าแบบใหม่เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้จุดเด่นของหน้าผ้ารองเท้าแบบ ฟลายนิต ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ส่วนหน้าผ้าของรองเท้าขยายตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น ให้ความรู้สึกเรียบไร้รอยต่อ ตลอดจนส่งผลให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าที่มอบความรู้สึกเหมือนกับวิ่งด้วยเท้าเปล่ามากที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยสร้างสรรค์มา

สำหรับรองเท้า NIKE Free Run Motion Flyknit จะวางจำหน่ายในราคา 5,700 บาท ที่ร้านไนกี้ สาขาสยามสแควร์ วัน และสาขาเมกะ บางนา และร้านอาริ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์