Back to home
Nike Sportswear Lunar Magista Flyknit II Team Red…คิดว่าหลายๆ คนเริ่มเบื่อกับเทรนด์รองเท้าประเภท Sock-Like Fit กันบ้างแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า มันยังคงเป็นเทรนด์การออกแบบรองเท้าที่จะยังคงอยู่และมีมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในปีนี้แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น จุดเริ่มต้นของเทรนด์การออกแบบรองเท้าดังกล่าวที่ส่งอิทธิพลอย่างสูงต่อการออกแบบในรุ่นหลังๆ ก็คือดีไซน์ของรองเท้าสตั๊ดที่เริ่มต้นจาก Nike Magista Boot ที่ถือเป็นรองเท้าสตั๊ดคู่แรกของโลกที่มีดีไซน์ในแบบ Sock-Like Fit แบบนี้ ก่อนที่จะมีตัวอื่นๆ ตามมา ทำให้แบรนด์อื่นๆ เริ่มตามเทรนด์ดังกล่าวจนกลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าเทรนด์ดังกล่าวก็ถูกนำไปต่อยอดในหมวดอื่นๆ ด้วย หลักๆ ก็คือ Running และ Sportswear ที่ทาง Nike ต่อยอดดีไซน์ดังกล่าวและแนะนำรองเท้า Hybrid ข้ามสายอย่าง Free Mercurial Superfly ตามมาด้วย Footscape Magista และ Free Hypervenom ซึ่งเป็นการนำสไตล์ของ On the Field สู่ Off the Field ได้อย่างน่าสนใจ เพราะในอดีตจะมีก็แต่ Adidas Samba เท่านั้นล่ะมั้ง ที่ได้รับความนิยมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก่อนที่ Nike จะนำเสนอลุคใหม่ของโมเดิร์นฟุตบอลที่น่าสนใจไม่ใช่เฉพาะแค่ Performance เท่านั้น
กลับมาที่รองเท้าที่เอามาพูดถึงดีกว่า อย่างที่ข้างต้นที่เกริ่นไปแล้วว่าเราได้เห็นเจเนอเรชั่นแรกอย่าง Free Mercurial Superfly และ Footscape Magista กันไปแล้ว ในเจเนอเรชั่นต่อมานั้น Mercurial ถูกเปลี่ยนแปลงพื้นจาก Free 5.0 Sole ไปเป็น Zoom Spiridon Sole แทน เช่นเดียวกันกับ Magista ที่อัพเกรดเป็น Magista II แล้ว ทางทีมดีไซน์เปลี่ยนพื้นจาก Footscape Motion Sole ย้อนกลับไปใช้พื้น Lunarlon Sole ตัวเจเนอเรชั่นแรก ซึ่งในมุมมองของเราเองนั้น นี่น่าจะเป็นการประกอบร่างที่เหมาะสมและดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ เพราะ Upper ที่เป็น Dynamic Fit Collar นั้นดูพอเหมาะพอเจาะกับพื้น Lunarlon รุ่นนี้จริงๆ โดยสำหรับสี Team Red นั้น ส่วนของ Upper จะเป็น Flyknit ทั้งคู่ ไม่เว้นแม้กระทั่ง Swoosh Logo ที่แตกต่างจากที่ผ่านๆ มาทั้งหมด แตกต่างจากตัวที่มีให้เห็นก่อนหน้านี้ที่ตัว Upper เป็นหนังแทน โดยที่มีราคารีเทลอยู่ที่ $200
ถ้ามองในมุมของดีไซน์แล้ว เราแอบผิดหวังกับ Zoom Mercurial Spiridon มา (เข้าใจว่าด้วยความที่ต้องการจะผลักดันรุ่น Zoom Spiridon ที่กลับมา Retro อีกครั้งด้วยหรือเปล่า ถึงเอาพื้นมาจับยัดใส่แบบนั้น ซึ่งมันก็ไม่แย่นักหรอก แต่มันก็ไม่สุดเหมือนตัวเก่า) พอได้มาเห็นคู่นี้ก็รู้สึกว่า ทางทีมออกแบบตัดสินใจได้ถูกต้องที่เลือกเอาพื้นนี้มาใช้ ถึงแม้ว่าบางคนจะบอกว่ามันให้ความรู้สึกที่เหมือนกับรองเท้า Indoor Boot ก็ตาม เรื่องความนุ่มเบาสบายคงไม่ต้องพูดถึง ถ้ามีสีสวยๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
contributor : Jeed S. Muangsirikwan
.
RECOMMENDED CONTENT
หลังจากคว้ารางวัลกรังปรีซ์ สาขาเพลงประกอบโฆษณายอดเยี่ยมจากเวทีคานส์ ไลอ้อน 2017 อาดิดาส ออริจินอลส์ยังคงพัฒนาผลงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง
