นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแล้วกับ PABLO Cheese Tart ที่ปลุกกระแสชีสทาร์ตในไทยให้การเป็นของหวานยอดฮิตที่หลายๆคนอยากลองชิม และหลายคนอาจรู้แล้วว่า PABLO นั้นเป็นแบรนด์ชีสทาร์ตชื่อดังจากเมืองโอซาก้า หนึ่งในจุดหมายที่สายกินอยากไปซักครั้งในชีวิต ซึ่งความโด่งดังของ PABLO นั้นถึงขั้นได้ลงโบว์ชัวสินค้าแนะนำของเมืองเป็นหนึ่งในของดีประจำโอซาก้า การันตีได้ถึงความดีงามที่ควรลองจริงๆ และตอนนี้เราไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นแค่นั่งรถไปสยามเราก็สามารถชิมรสชาติของ PABLO ซึ่งคุณภาพและรสชาติรับรองว่าไม่ต่างจากโอซาก้าเลย
แม้ PABLO Cheese Tart จะเปิดมาเกือบ 2 เดือนแล้วแต่กระแสก็ยังไม่ตก ด้วยรสชาติที่ไม่ต่างจากญี่ปุ่น เอกลักษณ์ของ PABLO การเสิร์ฟความอร่อยแบบเพิ่งอบเสร็จจากเตาร้อนๆ ทำให้ผู้ทานได้รับทั้งความหอมกรอบของตัวทาร์ต และรสชาตินุ่มนวลเข้มข้นของชีส นอกจากนี้ PABLO ยังมีเพอร์ไซส์มาสร้างความตื่นเต้นให้ลุกค้าอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลุ้นของรางวัล หรือชีสทาร์ตรสชาติใหม่ๆ limited ที่ออกมาให้แต่ละเทศกาล อย่างล่าสุดพาโบลออกผลิตภัณฑ์ PABLO mini รส White Raspberry ชีสทาร์ตรสพิเศษต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นในคนรักชีสทาร์ตได้ทดลองรสชาติใหม่ๆและคอยลุ้นว่าจะมีรสชาติอะไรออกมาอีกในอนาคต
ไม่เพียงแค่เป็นกระแสเท่านั้นแต่ต้องยอมรับว่า PABLO Cheese Tart นั้นอร่อยคุ้มค่าที่เราจะต่อคิวจริงๆ อีกทั้งการคิดค้นรสชาติใหม่ๆ มาสร้างความเซอร์ไพส์ให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอจึงทำให้พาโบลยังคงอยู่ในกระแสและเป็นที่พูดถึงอยู่ตลอดเวลา
เราแอบได้ข่าวมาด้วยว่าพาโบลกำลังจะเปิดสาขาใหม่เร็วๆ จะเป็นที่ไหนรอติดตามกันได้ที่
Website: http://pablothailand.com/
Facebook: https://www.facebook.com/PABLOCheesetartThailand/
RECOMMENDED CONTENT
‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย