จากเมล็ดกาแฟ MICRO ที่เกิดจากการใส่ใจบนยอดภูเขา สู่ ผกา : PAGA MICROROASTERY โรงคั่วและพื้นที่สร้างสรรค์รสชาติใจกลางเมือง
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของกาแฟที่มีมากกว่ารสชาติ คุณค่าที่แท้จริงเริ่มต้นจากการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสภาพแวดล้อม ส่งผลให้ดินดี น้ำดี อากาศดี ประกอบเข้ากับภูมิปัญญาและสองมือของเกษตรกรที่มีความรู้ ความเข้าใจ ใส่ใจในทุกรายละเอียดจนได้เมล็ดพันธุ์ที่ดี รสชาติของเมล็ดพันธุ์จะถูกดึงออกมาผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถันในแบบเฉพาะของนักคั่ว ก่อนจะถูกส่งต่อให้กับบาริสต้าได้แสดงฝีมือสร้างสรรค์ จนออกมาเป็นกาแฟในสไตล์ของผกาให้ทุกคนได้ดื่มด่ำ
แรงบันดาลใจในการดีไซน์ร้าน ผกา : PAGA MICROROASTERY จึงเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด THE MOUNTAIN เพื่อแสดงถึงจุดกำเนิดของกาแฟบนยอดภูเขาสูง ที่คำนึงถึงการอุทิศ ให้เกียรติและสร้างคุณค่าให้ทุกลำดับกระบวนการผลิตแบบ MICRO COFEE
อาคารหัวมุม 3 ชั้นในซอยสุขุมวิท 31 ถูกออกแบบให้เปรียบเสมือน ภูเขาสูงสีขาว ดูเรียบง่าย
รับและเล่นไปกับร่มไม้แสงธรรมชาติจากภายนอก ให้ความรู้สึกสงบ ท่ามกลางความวุ่นวายในเมือง
ดึงดูดผู้คนให้ร่วมเดินทางไต่ระดับเข้าสู่โลกของกาแฟ MICRO จากปลายกระบวนการสู่ต้นกำเนิด
ตั้งแต่การดื่มด่ำรสชาติในห้องชงกาแฟชั้น G เพลิดเพลินและรับกลิ่นหอมๆจากโรงคั่วชั้น 1
ไปจนถึงการรู้จักและสร้างสรรค์รสชาติกาแฟได้เองบนห้องเก็บกาแฟชั้น 2
เนื่องจากตัวร้านที่เป็นมุมอาคารมีเสากั้น ดีไซเนอร์จึงต่อเติมผนังจากเสากลางเป็นกำแพงเล็กๆ ใส่ป้ายไฟโลโก้ของ ผกา
พร้อมวางก้อนหินธรรมชาติก้อนใหญ่ไว้ด้านหน้า สร้างเอกลักษณ์และบอกเล่าเรื่องราวโดยย่อของร้าน
ชั้น G ของ ผกา ถูกเปิดโล่งด้วยกระจกรอบด้าน ให้ใครที่ผ่านไปผ่านมา ได้ชื่นชมการเคลื่อนไหวของบาริสต้า
บรรยากาศ ความสวยงามของร้าน ที่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของแสงและเงาตามแต่ละช่วงเวลาอย่างเด่นชัด
ส่วนทางเข้าถูกปรับเป็นทางเฉียงด้านข้างให้ร้านเปิดโล่งขึ้น
เมื่อย่างเท้าเข้ามาในร้าน สีขาวยังคงถูกใช้เป็นสีหลัก โดยเพิ่มผิวสัมผัสและรูปฟอร์มของหินภูเขา ตัดกับความเรียบของตัวอาคาร
จุดเด่นหลักอยู่ที่เคาน์เตอร์กาแฟที่ถูกออกแบบให้บาริสต้าแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่
พร้อมพื้นที่ขายเมล็ดกาแฟที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย
ดีไซเนอร์เลือกใช้ฟอร์มโค้งในบริเวณส่วนใหญ่ของร้าน ตั้งแต่ กระจกโค้งตรงทางเข้าร้าน
หักมุมเหลี่ยมตรงบริเวณทางขึ้นบันได เติมลายโค้งบริเวณฝ้าและผนัง
รวมถึงไปถึงเลือกใช้โต๊ะหินกลมและเก้าอี้ที่มีฟอร์มโค้ง เพิ่มมิติและความอบอุ่นให้กับร้านในเวลาเดียวกัน
ภายนอกของชั้น 1 และชั้น 2 ถูกคลุมด้วย facade ที่ออกแบบให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานของแต่ละชั้น
โดยชั้น 1 ดีไซเนอร์ได้ออกแบบให้มี facade ปิดทึบ บังครึ่งหนึ่งของตัวชั้น เพื่อทำหน้าที่ควบคุมแสงให้โรงคั่วกาแฟ
แต่ยังเปิดให้เห็นอุปกรณ์ เครื่องคั่ว และคงความเรียบง่ายของตัวอาคาร
ส่วนชั้น 2 facade ถูกคลุมแบบเว้นระยะ เพื่อให้แสงแดดได้ลอดผ่าน กระทบผนังสีขาวเป็นลวดลายธรรมชาติ สร้างความผ่อนคลาย
ให้ผู้มาร่วมเวิร์คชอปมีสมาธิและความสุขกับการชงกาแฟมากขึ้น
Design by TasteSpace.co
RECOMMENDED CONTENT
วงคู่หู “Whal & Dolph” (วาฬ แอนด์ ดอล์ฟ) ประกอบด้วย “ปอ - กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ” และ “น้ำวน - วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ” สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) กลับมาปล่อยเพลงใหม่อีกครั้งในรอบ 5 เดือน