หากจะพูดถึงแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องเอกลักษณ์ของการตัดเย็บเสื้อผ้าทั้งผู้หญิงและผู้ชายแบบดั้งเดิมในสไตล์อังกฤษ ผสมกับดีไซน์ชิคคูลแบบชาวนิวยอร์ก คงต้องนึกถึง rag & bone เป็นอันดับต้นๆ และในคอลเล็กชั่น Spring 2019 นี้ rag & bone นำเสนอชื่อเรียกฟิตใหม่ของกางเกงยีนส์สำหรับผู้หญิงที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้เข้ากับทุกสรีระของสาวๆ

ต้องย้อนกลับไปในปี 2002 แบรนด์ rag & bone ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะออกแบบกางเกงยีนส์ที่เรียกว่า ‘Five-pocket Jean’ ขึ้นมา เพื่อจะปฏิวัติทางเลือกใหม่ของยีนส์ให้เน้นยีนส์ที่การตัดเย็บอย่างประณีตโดยช่างฝีมือ และที่สำคัญคือทำให้ยีนส์เป็นชิ้นเก่งของทั้งผู้หญิงและผู้ชายในยุคสมัยที่หลากหลายเช่นตอนนี้

ฟิตใหม่ทั้งหมดในคอลเล็กชั่นนี้ ถูกพัฒนาให้ง่ายต่อการสวมใส่มากขึ้นไปอีก โดยแบ่งกลุ่มตามความสูงของเอวกางเกง ได้แก่ Low, Mid, High และ Super High ให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้สวมใส่ ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบไหน ก็สามารถสวมใส่มันอย่างมั่นใจได้

ไม่ใช่แค่นั้น ความเก๋ของคอลเล็กชั่นนี้ rag & bone ยังได้คิดชื่อรุ่นของยีนส์ขึ้นมาให้เหมือนกับชื่อของผู้หญิงที่เป็นตัวแทนของคาแร็กเตอร์มั่นใจ สวย และมีความเท่อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งแต่ละชื่อนั้นก็จะถ่ายทอดจิตวิญญาณของ rag & bone ออกมา

เริ่มจาก Dre (ดรี) กางเกงยีนส์เอวต่ำ (Low) พัฒนามาจากยีนส์ทรงบอยเฟรนด์ (Boyfriend) แมนๆ ที่สาวๆ หลงรักนั่นแหละ ซึ่งขอบกางเกงจะอยู่บริเวณสะโพก และทรวดทรงที่ไม่รัดต้นขามากเกินเหมือนกางเกงยีนส์เอวต่ำทั่วไปที่คนที่ต้นขาใหญ่ใส่แล้วอึดอัด Cate (เคท) กางเกงยีนส์เอวสูงปานกลาง (Mid) ออกแบบให้ขอบกางเกงจะอยู่ด้านบนสะโพก มีรูปทรงที่แคบลงบริเวณช่วงต้นขาและผสมแบบสกินนี่ในช่วงปลาย

ในขณะที่กางเกงยีนส์เอวสูง (High) จะถูกนำเสนอทั้งในแบบ สกินนี่ (Skinny), ทรงสอบ (Cigarette) และขาม้า (Flare) โดยให้ชื่อว่า Nina (นีน่า) และในขณะที่กางเกงเอวสูงขาตรงจะถูกเรียกว่า Maya (มายา)

ปิดท้ายด้วย Ruth (รูธ) กางเกงยีนส์เอวสูงพิเศษ (Super High) ที่มาในทรงขาตรงและขากว้าง โดยขอบกางเกงทั้งสองแบบจะอยู่บริเวณเอว ทำให้ขนาดพอดีสะโพกและต้นขา แถมยังทิ้งตัวเป็นทรงตรง เน้นความกว้างบริเวณปลายขา ใส่แล้วดูขาเรียวยาวดีงามไปเลย

การจัดกลุ่มใหม่ของกางเกงยีนส์สำหรับสุภาพสตรีในคอลเล็กชั่นนี้หยิบยืมลักษณะมาจากกางเกงยีนส์และกางเกงชิโนของผู้ชายมาใช้ ทำให้เกิดยีนส์ในหลากหลายประเภท และเพิ่มความหลากหลายเรื่องเนื้อผ้าที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ด้วย

ยีนส์ rag & bone ใช้ผ้าเดนิมคุณภาพดีเยี่ยมในการตัดเย็บ ออกแบบชิ้นต่อชิ้น ซึ่งใช้ขั้นตอนกว่า 38 ขั้นตอนในการทำกางเกงแต่ละตัวเลยทีเดียว

“ยีนส์เป็นมรดกของชาวอเมริกันในรูปแบบของงานฝีมือ rag & bone จึงไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้ได้กางเกงยีนส์ที่ดีที่สุด โดยให้ความสำคัญกับปัจจัยที่มีผลต่อเดนิมรุ่นใหม่มากขึ้นเป็นสองเท่า อันได้แก่ The Fit (ทรงต่างๆ ของเดนิม) และการนำกางเกงรุ่นเก่ากลับมาพัฒนาใหม่ เพื่อให้ได้ยีนส์ที่สมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันก็ยังคงออกแบบโดยเน้นโครงสร้างที่เรียบง่าย” Marcus Wainwright ผู้ก่อตั้ง และ Chief Brand Officer แห่ง rag & bone กล่าว

www.rag-bone.com