“Wall Art Sharing – ศิลปะสร้างสุข สานฝันในรั้วรามาฯ” คือ ของขวัญที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ มอบให้แก่ผู้ป่วยและคนทั่วไป ประกอบด้วยภาพศิลปะ 3 ภาพ ที่วาดขึ้นมาจากความฝันที่กลายมาเป็นความจริงแล้ว ของอดีตผู้ป่วย 3 ท่าน ผู้ที่เคยเป็น “ผู้รับ” พลังใจ ความอบอุ่น และความหวัง จนหายขาดจากโรคร้าย และได้กลายมาเป็น “ผู้ให้” กำลังใจ พลังบวกในชีวิต และแรงบันดาลต่อไปยังสังคมและผู้ป่วยที่ต้องการแรงขับเคลื่อนในการรักษาตัว โดยวันนี้ใครได้แวะเวียนไปที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี คงได้เห็นผลงานศิลปะบนกำแพงที่เป็นสีสันโดดเด่น ส่งพลังบวกให้ผู้ป่วย และผู้คนที่แวะเวียนมาโรงพยาบาล ซึ่งภาพวาดเหล่านั้นมากจากเรื่องราวของ คุณอริสา ธนานุรักษ์ อดีตผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว, นักศึกษาแพทย์ กรณัฐ ทิพย์ทะเบียนการ อดีตผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง, และคุณธนาเดช เขียวแก้ว อดีตผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย
“อดีตแห่งความหวัง” กับ “ปัจจุบันที่เป็นจริง”
“สงกรานต์สุขใจ” – จากความฝันวัยเด็กของคุณอุ้ม–อริสา ธนานุรักษ์ อดีตผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวผู้ที่หมดเวลาวัยเด็กไปถึง 7 ปี กับการเข้าออกโรงพยาบาล จนได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกสำเร็จ เล่าว่าตัวเธอในวัย 9 ขวบ ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลเพื่อการรักษาและปลูกถ่ายไขกระดูก เธอจำได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกตอนที่ยืนดูผู้คนมากมายที่กำลังสนุกกับการเล่นสงกรานต์ผ่านหน้าต่างในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาล “เราได้แต่บอกกับตัวเองว่า ทำไมและเมื่อไรเราจะได้ออกไปข้างนอก ได้เล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆ โดยที่ไม่ต้องมองผ่านกระจกห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาลสักที ซึ่งตอนนั้นตัอุ้มมีพอร์ตเคมีบำบัดฝังเจาะไว้ที่หน้าอก ทำให้ไม่สามารถอาบน้ำแบบปกติได้ ดังนั้น การได้เล่นน้ำสงกรานต์อย่างเต็มที่กับเพื่อนๆ จึงเป็นเพียงความฝันวัยเด็ก อุ้มอยากให้ภาพนี้เป็นภาพที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนลุกขึ้นต่อสู้ และจุดประกายให้ทุกคนคิดว่า เราเกิดมามีชีวิตเดียว ควรทำอะไรที่ไม่ได้ทำผิด เป็นคนดี ทำให้ตัวเอง ทำให้ครอบครัว ทำเพื่อคนอื่น แค่นี้ก็พอแล้ว”
“จรวดน้ำสร้างสุข” – อีกหนึ่งภาพที่อยู่ด้านนอกอาคาร 1 มีแรงบันดาลใจมาจาก คุณอัน–ธนาเดช เขียวแก้ว คุณครูวิทยาศาสตร์ที่เคยเป็นอดีตผู้ป่วยโลหิตจางธาลัสซีเมีย “เพราะวัยเด็กเราไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ เราจึงขอเป็นคนให้ช่วงเวลาแบบนี้แก่คนอื่น” คุณอัน–ธนาเดช เล่าถึงที่มาของภาพนี้ว่ากว่า 15 ปี ที่ต้องทรมานจากอาการของโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย เขาไม่สามารถมีชีวิตวัยเด็กอย่างเด็กทั่วไป “ตอนเด็กๆ ผมทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบหักโหมไม่ได้เลย แค่วิ่งเล่นเรายังวิ่งได้ไม่เหมือนเพื่อนเลย บางครั้งได้แต่มองเพื่อนเล่นบาสเก็ตบอลอยู่ข้างสนาม จนเมื่อผมอายุได้ 17 ปี ได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ผมจึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนทั่วไป แม้ว่าขั้นตอนการรักษาจะทรมานและทำให้ต้องหยุดเรียนไป 1 ปีเต็ม สุดท้ายผมก็ผ่านมันมาได้ ขอให้มีกำลังใจ เชื่อเสมอว่าต้องหาย ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า ก็แค่ตาย ถ้าเราไม่สู้ก็แพ้” จากการที่เคยเป็น “ผู้รับ” ในวันวาน มาวันนี้คุณอันเลือกที่จะเป็น “ผู้ให้” ด้วยการเลือกเดินทางสายอาชีพครูวิทยาศาสตร์สอนเด็กนักเรียนอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น
“มื้อแห่งความอบอุ่น” – ภาพถูกถ่ายทอดเรื่องราวอยู่ที่ชั้น 2 ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่แสดงถึงความอบอุ่นของสถาบันครอบครัวอันเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับผู้ป่วย บอกเล่าความทรงจำของคุณโจ๊ฟ–กรณัฐ ทิพย์ทะเบียนการ นักศึกษาแพทย์รามาธิบดี อดีตผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ได้เล่าว่า “เริ่มป่วยครั้งแรกตอนอายุประมาณ 10 ขวบครับ มีก้อนโตที่คอพอไปตรวจปรากฏว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระหว่างที่รักษา ออกไปไหนก็ไม่ได้ เพราะร่างกายจะติดเชื้อง่ายมาก ตอนนั้นความต้องการของผม ไม่ได้มีอะไรมาก รู้สึกแค่ว่าอยากกลับไปอยู่กับครอบครัวที่เป็นพลังบวกอันยิ่งใหญ่จากพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนฝูง และการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังทำให้ผมพบกับต้นแบบผู้ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผมมุ่งมั่นมาเป็นนักศึกษาแพทย์ได้สำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ ผมเห็นว่าผู้ที่เป็นหมอ คือคนที่ช่วยให้ผู้ป่วยผ่านพ้นโรคภัยไปได้ ทำให้ผมอยากมายืนอยู่จุดนี้บ้าง และในอนาคตผมอยากเป็นคุณหมอรักษามะเร็งในเด็กครับ”
เรื่องจริงที่ถูกถ่ายทอดผ่านปลายพู่กัน
กิจกรรมนี้คงไม่สามารถสำเร็จได้เลย หากขาดเหล่าศิลปินจิตอาสา มารังสรรค์ปลายพู่กันวาดเรื่องราวที่น่าจดจำของอดีตผู้ป่วยให้เป็นรูปธรรม และเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการส่งต่อพลังบวกและการให้กำลังใจคนที่กำลังเผชิญความเจ็บป่วยอยู่ ณ ตอนนี้ พร้อมกับเปลี่ยน รพ.รามาธิบดีเป็นพื้นที่แห่งการให้
ในมุมมองของศิลปินที่เป็นผู้ขับเคลื่อนสังคมด้วยการใช้ศิลปะเป็นตัวกลางการสื่อสาร คุณผดุงทรัพย์ประชานันทร์, คุณปัณฑิตา มีบุญสบาย, คุณก้องภพ เบ็ญจนิรัตน, และคุณปองพล ปรีชานนท์ กลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 5 คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรบอกว่า “การมาวาดรูปครั้งนี้ พวกเราไม่ได้หวังทำเป็นรายได้แต่อย่างไร แต่เรามาทำด้วยใจ เพื่อให้แก่สังคม ซึ่งภาพวาดถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบ 3 มิติ เราทำให้เป็นศิลปะที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และตรงไปตรงมากว่างานศิลปะที่จัดแสดงอยู่ในแกลเลอรี่”
กิจกรรม “Wall Art Sharing: ศิลปะสร้างสุข สานฝันในรั้วรามาฯ” เป็นโอกาสที่อดีตผู้ป่วยอยากจะใช้เพื่อให้ข้อคิดจากประสบการณ์การต่อสู้กับโรคร้าย ว่า การให้เป็นสิ่งที่สำคัญกับผู้ป่วยมาก ไม่ว่าจะเป็นการให้ความอบอุ่นจากคนครอบครัว ความหวัง ทัศคติด้านบวก และการให้กำลังใจผ่านช่องทางง่ายๆ เช่น คำพูดสั้นๆ หรือ การ์ดสักใบ ก็มีคุณค่าทางจิตใจอย่างประเมินค่าไม่ได้ อีกอย่างคือทุกคนสามารถเป็นผู้ให้ได้ ดั่งตัวอย่างที่อดีตผู้ป่วยได้ใช้ชีวิตในช่วงฟ้าหลังฝนเดินไปในเส้นทางของการเป็น “ผู้ให้” ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาชีพหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้คนในสังคมมีความสุขและใช้ชีวิตในบทบาทของการเป็นผู้ให้ต่อไปในสังคม
ทุกท่านก็สามารถมาร่วมเป็นผู้ให้ใน กิจกรรม “Wall Art Sharing: ศิลปะสร้างสุข สานฝันในรั้วรามาฯ” ได้ง่ายๆ เมื่อแวะเวียนมาที่ อาคาร 1 และ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพียงร่วมเช็คอินหรือโพสต์รูปถ่ายร่วมกับภาพวาด เพื่อเป็นการ “ให้” ต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารมูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ที่ FB, IG, LINE @RamaFoundation หรือโทร 0-2201-1111 #ศิลปะสร้างสุขสานฝันในรั้วรามาฯ
RECOMMENDED CONTENT
เสนอโปรโมชั่นพิเศษท่องเที่ยวภาคใต้แบบโดนใจ พร้อมชวนออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ กับภาคใต้ช่วงหน้าฝน พร้อมช่วยกันเปิดมุมมองรีวิวเมืองรองปักษ์ใต้ ชิงเงินรางวัลกว่า 2 แสนบาท