อัฐพร นิมมาลัยแก้ว ศิลปินผู้กวาดรางวัลใหญ่ๆมาแล้วมากมาย ทั้งระดับชาติ อย่างเหรียญทองศิลปกรรมแห่งชาติและระดับนานาชาติ เช่น รางวัลชนะเลิศ การประกวดจิตรกรรมอาเซียน ภายหลังจากไปโลดแล่นแสดงผลงานให้ต่างชาติได้ชมในนิทรรศการระดับนานาชาติมากมาย ทั้งในยุโรป แคนาดา สหรัฐอเมริกา มาแล้วหลายปี กลับมาคราวนี้ กับนิทรรศการแสดงเดี่ยวในเมืองไทยครั้งแรกในรอบหลายปี ซึ่งศิลปินซุ่มเงียบในการทำงานชุดนี้ถึงสองปี กับการตกผลึกทางความคิดและการพัฒนาต่อยอดไปสู่รูปแบบเทคนิคใหม่ๆที่สามารถสื่อถึงเนื้อหาอันเข้มข้นจากชีวิตและประสบการณ์ของศิลปินได้อย่างลุ่มลึก
ในงานชุดนี้ เขาได้สำรวจลึกเข้าไปถึงธรรมชาติของจิตใจมนุษย์อันอ่อนไหวต่อการตัดขาดจากตัณหาและโยงไปถึงพฤติกรรมอันก่อให้เกิดความสับสนของตัวตน รวมถึงการเกิดทุกข์และการปล่อยวาง ซึ่งได้แสดงออกในผลงานด้วยการผสานผ้าเนื้อละเอียดและสิ่งทออันประณีตต่างๆหลากหลายชั้น เพื่อให้เกิดสภาวะลวงตาต่อประสาทการรับรู้ของเรา ด้วยการประกอบกันขึ้นมาเป็นโครงสร้างสามมิติ โดยที่ผ้าแต่ละชั้นได้ถูกวาดและพิมพ์ภาพลงไป อีกทั้งมีการวางรูปทรงและระดับชั้นของผ้าให้ซ้อนกันและมีระยะห่างอย่างพอเหมาะ เพื่อให้เกิดภาพมายาที่สื่อถึงจิตใจอันฟุ้งซ่านของคนเรา
เนื่องด้วยคำสอนในทางพุทธศาสนามีความสำคัญต่อชีวิตและประสบการณ์ที่เติบโตขึ้นของศิลปินเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผลงานสามารถตอบสนองต่อเนื้อหาดังกล่าวได้ลึกซึ้งขึ้น อัฐพรจึงพัฒนาการใช้รูปแบบของศิลปะแนวจัดวาง(Installation art)เพิ่มมากขึ้นในงานชุดนี้ โดยคำนึงถึงความโปร่งเสมือนมีอากาศไหลเวียนด้วยธรรมชาติของวัสดุผ้าอันบางเบาและการจัดวางโครงสร้างสามมิติ เพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างและอากาศอันส่งผลต่อการกำหนดรู้ถึงสามัญสำนึกระหว่างคนดูกับศิลปิน ซึ่งความสำนึกรู้ที่กระจายตัวอยู่ในงานนั้น มีความเชื่อมโยงกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในแง่ที่ว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆของสังคมในปัจจุบัน ควรได้รับการตระหนักถึง เพื่อที่ผู้คนจะได้เสริมสร้างความสมดุลในชีวิตจิตใจของพวกเขาได้
อีกทั้ง พิเศษมากกับนิทรรศการในครั้งนี้ ที่ผลงานจัดวางขนาดใหญ่ของศิลปินที่เคยแสดงในนิทรรศการ Enfers et fantômes d’Asie ณ Museumระดับโลกอย่าง Musée du quai Branly – Jacques Chirac ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสมาแล้วนั้น ผลงานนี้ได้ถูกรวบรวมมาจัดแสดง เพื่อให้ผู้ชมในประเทศไทยได้เห็นเป็นครั้งแรกในนิทรรศการนี้อีกด้วย
RECOMMENDED CONTENT
นี่คือภาพของผีรป่าแอมะซอนซึ่งในประเทศบราซิล ที่เป็นป่าฝนเขตร้อนผืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนับเป็นปอดของโลกในปัจจุบัน ที่เป็นข่าวที่ไม่สู้ดีนักที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับข่าวธารน้ำแข็งอกโยคูลล์ ในไอซ์แลนด์เป็นที่แรกที่ละลายหมดสิ้น