fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Review : ทำความรู้จักธุรกิจ ‘ซักผ้าหยอดเหรียญ 24 ชม.’ ดียังไงเมื่อเทียบกับการซักผ้าแบบทั่วไป
date : 20.ธันวาคม.2019 tag :

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคย และมีประสบการณ์จากการซัก-อบ-รีด ในแบบต่างๆ มาบ้างแต่คุณเคยสงสัยไหมว่าร้านซักผ้าหยอดเหรียญที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง จะแตกต่างกับเครื่องหยอดเหรียญใต้หอยังไง ผ่านร้านทีไรก็ได้แต่มอง ใช้งานยากไหม เราจะพาคุณไปหาคำตอบชัดๆ มาดูกันว่ามันดียังไง จะคุ้มค่าเงินหรือไม่ จะสะดวกสะอาดกว่าการซักผ้าทั่วไปไหม? หรือในอีกมุมถ้าคุณอยากจะผันตัวจากผู้ใช้บริการ มาเป็นผู้ลงทุนเองจะเป็นไปได้ไหม?  มาดูกัน..

ใช้งานง่าย มีมาตรฐาน สั่งงานแค่ปลายนิ้ว

การแข่งขันในตลาดของธุรกิจร้านสะดวกซัก มักเป็นเรื่องของนวัตกรรมเครื่องซักผ้าที่ดูทันสมัย มีฟังก์ชั่นการใช้งานให้เลือกหลากหลาย แข็งแรง และต้องใช้งานง่ายด้วย ดังนั้น ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องซักผ้าจะเก่า เป็นสนิม หรือกลัวว่าจะใช้งานยาก เพราะเอาเข้าจริงๆ คือ ใช้งานง่ายแค่ปลายนิ้ว จิ้มๆ กดๆ เท่านั้น และที่สำคัญร้านที่เราเข้าใช้บริการ เค้าการันตีด้วยว่าใช้เครื่องซัก เครื่องอบผ้า มาตรฐานอเมริกา ที่ผ่านการรับรองเรื่องมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยด้านอุตสาหกรรมระดับโลก เราว่ามันช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้งานได้เยอะเลย อีกอย่างเราสามารถเช็คสถานะเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ได้ด้วยว่ามีการทำงานอยู่กี่เครื่อง ว่างกี่เครื่อง หรืออีกกี่นาทีเสร็จ จะได้กะเวลามาที่ร้านได้โดยไม่ต้องมาคอยให้เสียเวลา

ปั่นแรงด้วยเครื่องซักฝาหน้า ฆ่าเชื้อด้วยระบบอุณหภูมิน้ำอุ่น

ร้านที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่เป็นร้านที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ดังนั้น ทุกอย่างภายในร้านจึงยังไม่เสื่อมโทรม หรือสึกหรอง่ายๆ บางร้านก็มีแม่บ้านประจำ คอยดูแลความเรียบร้อย และทำความสะอาดอยู่ตลอด ส่วนภายในเครื่องซักผ้าจากประสบการณ์การใช้ ทั้งก่อนและหลังใส่ผ้า ก็ไม่ได้มีเศษผม คราบผงซักฟอก หรือคราบความสกปรกใดๆ เหลืออยู่ให้เห็น ที่สำคัญที่เครื่องยังมีระบบน้ำร้อน น้ำอุ่น น้ำเย็น สำหรับการซัก เพื่อช่วยละลายผงซักฟอก ช่วยฆ่าเชื้อ และทำให้ผ้าสะอาดขึ้นด้วยนะ

หิ้วมาแค่ตะกร้าผ้ากับกระเป๋าสตางค์ ก็ซักได้แล้ว 

เพราะการใช้เครื่องซักที่ใหม่ และทันสมัยเนี่ยแหละ ที่ทำให้เราสะดวกสบายซะเหลือเกิน นับตั้งแต่ขั้นตอนแลกเหรียญ ที่มีเครื่องแลกเหรียญไว้คอยอำนวยความสะดวก จะพกแบงก์ไหนมา ก็แลกหยอดได้ง่ายๆ ใครกลัวงง ยิ่งไม่ต้องห่วงเลย เพราะมีป้ายติดขั้นตอนการใช้งานของแต่ละเครื่องไว้ให้ดูกันชัดๆ เข้าใจง่าย ใครขาดผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็หยอดเหรียญกดซื้อผ่านตู้จำหน่ายผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เรียกว่าพกมาแค่ผ้ากับเงินหลักร้อย ก็ได้เสื้อผ้าพร้อมใส่เลย ที่สำคัญร้านยังมีพื้นที่กว้างขวาง ไม่อึดอัด แถมแบ่งโซนชัดเจน มีโต๊ะให้พับผ้า ระหว่างนั่งรอผ้าชิลๆ ร้านนี้เค้ายังมี wifi ให้ได้ใช้กันฟรีๆด้วยนะ

เครื่องใหญ่ รวดเร็ว แข็งแรง พลัง(ซัก)เยอะ

แน่นอนว่ายิ่งเครื่องซักผ้าเกรดดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังซักมากเท่านั้น ที่สำคัญจะใช้เวลาน้อยกว่าเครื่องซักผ้า Consumer grade หรือแบบที่ใช้ตามบ้านทั่วไป จากที่เคยโยนผ้าลงเครื่อง รอ 50 – 60 นาที จึงนำผ้าออกมาตาก แต่หากซักร้านที่ใช้เครื่องระดับ Commercial Grade หรือ Industrial Grade เครื่องขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพการใช้งานเชิงพานิชย์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับร้านสะดวกซัก หรือใช้งานหนักต่อเนื่อง จะใช้เวลาในการ ซักหรืออบ 20 – 30 นาที รวมๆ แล้วใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง แถมไม่ต้องเสียเวลาตากผ้าด้วย

ยิ่งซักมาก ยิ่งคุ้มมาก

ค่าบริการจะต่างกันที่ขนาดของเครื่อง ตั้งแต่ 9 กก. 14 กก. 18 กก. และ 27 กก. รวมถึงอุณหภูมิของน้ำ ถ้าใช้น้ำเย็นธรรมดากับขนาดเครื่อง 9 กก. จะเริ่มต้นที่ 40 บาท ซักเยอะขึ้นใช้เครื่องขนาด 14 กก. ก็เพิ่มอีก 20 บาท ใช้เครื่องขนาด 18 กก. เพิ่มอีก 10 บาท ไปจนถึง 140 บาท กับขนาดเครื่อง 27 กก. หากเลือกซักด้วยน้ำร้อน แต่โดยทั่วไปหากเราซักผ้าสัปดาห์ละครั้ง ปริมาณผ้าจะอยู่ที่ขนาด 9 กก. และซักด้วยน้ำเย็น(ปกติ) จะราคา 40 บาท (ไม่รวมอบผ้า) ถ้าเทียบกับการซักด้วยเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแบบ Consumer grade ราคาเฉลี่ยก็ตกอยู่ที่ประมาณ 30 – 60 บาท (แล้วแต่รุ่น,แบรนด์,ความจุ) ซึ่งค่าบริการจะไม่ต่างกันมาก แต่พลังซัก ฟังก์ชั่น และขนาดเครื่องที่รองรับ นับว่าคุ้มค่าและต่างกันมากอยู่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณเองด้วย

สรุปความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย 

สำหรับครั้งแรกของการใช้บริการร้านแฟรนไชส์สะดวกซัก 24 ชั่วโมง เราค่อนข้างประทับใจกับความรวดเร็ว และความสะดวกสบาย และยังรู้สึกว้าวกับการที่ได้เลือกใช้อุณหภูมิต่างในการซักผ้า ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่ามันสะอาดกว่าปกติ ส่วนของการอบผ้า ข้อดีคือมันทำให้ผ้าแห้งสนิท เรียบลื่นขึ้น อันนี้ประหยัดเวลาได้เยอะ เสื้อยืดบางตัวแทบไม่ต้องรีดซ้ำ

เราว่ามันจะ “คุ้มค่า” มากๆ ถ้าร้านตั้งอยู่ใกล้บ้าน ใกล้ที่พัก หรือเป็นทางผ่านของคุณอยู่แล้ว จะซักผ้า 2 อาทิตย์ต่อครั้ง ก็ยิ่งคุ้ม (ถ้าเสื้อผ้าคุณยังพอใส่) จะหอบหิ้วผ้านวม ปลอกหมอน หรือผ้าขี้ริ้ว(มีเครื่องแยกซัก) มาซักทีเดียวก็ยังได้ หรือจะซักทิ้งไว้ แล้วออกไปทานข้าวกลับมาก็เสร็จแล้ว กับราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาท แต่ได้ซักเครื่องซักระดับคุณภาพนำเข้า มีเครื่องให้เลือกเยอะ หลายขนาด พลังซักเหลือล้น แถมหน้าฝน ไร้แดดแบบนี้ ไม่ต้องกังวลกับผ้าเหม็นอับ หรือเสียเวลาเฝ้าฟ้าฝน รอเก็บผ้าเข้าบ้าน – ออกแดดกันเป็นวัน แต่ออกมาร้านแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เสื้อผ้าพร้อมใส่เลย

แต่ขอแนะนำว่า ควรแยกผ้าก่อนซักให้ดี เช่น บางชิ้นห้ามอบเพราะอาจทำให้ผ้าหดตัว บางชิ้นควรซักมือ หรือแยกผ้าขาว ผ้าสี เพราะหากไม่ระวัง ซักเครื่องแบบไหนก็มีโอกาสเสื้อผ้าพังได้เหมือนกัน

อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่มีเวลา เลือกลงทุนกับร้านสะดวกซักก็เวิร์คนะ

หัวใจสำคัญของการตั้งร้านแฟรนไชส์สะดวกซัก คือ “ทำเล” ต้องเป็นย่านที่มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนมาก ยิ่งคนพลุกพล่านเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสทำกำไรได้เยอะ เช่น ชุมชน คอนโด หรือหอพักย่านมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นคงเป็นเรื่องของเงินลงทุน มีมาก มีน้อย ก็เลือกลงทุนได้ตามกำลัง ที่เหมาะสม พอดีกับทำเล กลุ่มลูกค้าและการใช้งาน ซึ่งร้านแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะมีแพคเกจให้คุณเลือกลงทุนได้ตามงบประมาณอยู่แล้ว

แต่ถ้าจะให้ดีคุณสามารถเลือกแฟรนไชส์ที่ช่วยจัดการวางระบบการบริหาร ช่วยวิเคราะห์ วางแผน ดูแลเครื่องซัก ไปจนถึงช่วยมองหาทำเลตั้งร้าน ไปจนถึงเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องของธุรกิจ ซึ่งมันจะเป็นโอกาสที่ดี ให้กับคนเริ่มต้นอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คนที่ไม่มีเวลาในการบริหารจัดการ หรืออยากมีธุรกิจรอง ขอแนะนำว่าธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก เป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่ากับการลงทุนจริงๆ

ขอบคุณข้อมูลและสถานที่จาก : Mermasis Speedy Wash

RECOMMENDED CONTENT

4.กุมภาพันธ์.2022

หลังจากที่ Red Hot Chili Peppers ปล่อยทีเซอร์ปริศนาเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีที่พวกเขาส่งซิงเกิ้ลให้ลงหูคนฟังกับเพลง "Black Summer"