จากภูมิปัญญาชั้นสูงของอาณาจักรเครื่องแก้วระดับโลก ที่เชี่ยวชาญในการผลิตแก้วไวน์มาอย่างยาวนานถึงกว่า 260 ปี ชื่อของ “RIEDEL” (รีเดล) ได้รับการกล่าวขานและยอมรับ จากคนรักไวน์ทั่วโลกในฐานะผู้ผลิตแก้วไวน์ระดับเวิลด์คลาสที่ผสมผสานเรื่องราวแห่ง “สุนทรียะ” ผ่านงานออกแบบที่ประณีตสวยงาม และคุณสมบัติการใช้งานชั้นเลิศในการขับรสชาติ และอโรมาอันโดดเด่นของไวน์แต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน

มิสเตอร์ วิคเตอร์ ออร์ริช์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่รีเดลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “RIEDEL” (รีเดล) ถือเป็นตำนานแห่งแก้วไวน์ระดับโลกที่มีจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความเป็นมาจากแคว้นโบฮิเมีย (Bohemia) สาธารณรัฐเชค ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1756 โดย มิสเตอร์ คริสตอฟ รีเดล (Christoph Riedel) ซึ่งเริ่มต้นกิจการจากการผลิตเครื่องแก้วทำมือ จนมาถึงในสมัยของ มิสเตอร์จอร์จ รีเดล (Georg Riedel) ทายาทรุ่นที่ 10 ของแบรนด์ จึงได้เริ่มมีการบุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตแก้วไวน์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ.1964 จวบจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ศตวรรษ ที่ RIEDEL ยังคงยึดมั่นในศิลปะการผลิต แบบดั้งเดิมที่เปี่ยมด้วยทักษะของช่างฝีมือชั้นสูงควบคู่กับการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ และนวัตกรรมของแก้วไวน์  ในรูปแบบใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง จนทำให้ RIEDEL ขึ้นชั้นความเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมแก้วไวน์ระดับเวิลด์คลาสที่ได้รับการยอมรับจากคนรักไวน์ทั่วโลก รวมถึงเป็นแบรนด์แก้วไวน์ที่ได้รับความไว้วางใจจากโรงแรม และธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมในหลากหลายประเทศ

ล่าสุด RIEDEL ได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาคอนเซ็ปต์ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมอย่าง ศูนย์การค้าเกษร ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ราชประสงค์ ฟู้ด เซอร์วิสเซส จำกัด ในการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับไวน์ และแก้วไวน์ที่ทางแบรนด์ ได้สั่งสมมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน มาถ่ายทอดให้ชาวไทยได้สัมผัสในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลก  กับอาร์ทิซาน ไวน์บาร์ แห่งแรกและแห่งเดียวของโลกภายใต้ชื่อ “RIEDEL WINE BAR & CELLAR” (รีเดล ไวน์บาร์ แอนด์ เซลลาร์) ที่รวบรวมความพริวิเลจของไวน์สุดลักชัวรี่อย่าง “Exclusive Artisan Wine” (เอ็กซ์คลูซีฟ อาร์ทิซาน ไวน์) ชั้นเลิศจากการคัดสรรของซอมเมอร์ลิเย่ร์ (Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ ประจำร้านที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมทางด้านไวน์ลิสต์จากหลายสถาบันอย่าง มิสเตอร์คริสเตียน เบพพ์เลอร์ (Mr. Christian Baeppler) มาให้ชาวไทยได้สัมผัส บนทำเลของชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษรใจกลางสี่แยกราชประสงค์ ท่ามกลางบรรยากาศรายล้อมด้วยเรื่องราวแห่งรสนิยม

มิสเตอร์คริสเตียน เบพพ์เลอร์ ซอมเมอลิเย่ร์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำ RIEDEL WINE BAR & CELLAR กล่าวว่า “RIEDEL WINE BAR & CELLAR” นับเป็นอาร์ทิซานไวน์บาร์แห่งแรกและแห่งเดียวของโลกที่เสิร์ฟด้วยแก้วและอุปกรณ์จากแบรนด์ “RIEDEL” ทั้งหมด โดยความพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟของแก้วภายใต้แบรนด์รีเดลอยู่ที่การออกแบบที่เหมาะสมกับลักษณะทางชีวภาพขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษ ในการช่วยขับรสชาติ และอโรมาของไวน์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำตามสายพันธุ์ขององุ่น ซึ่งนอกจาก แก้วไวน์แล้ว ยังมีอุปกรณ์สำหรับเตรียมความพร้อมของไวน์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวอย่าง Wine Decanter (ไวน์ ดีแคนเตอร์) ภาชนะแก้วรูปทรงสวยงามที่นอกจากจะมีคุณสมบัติในการแยกตะกอนของไวน์แล้ว ยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนอากาศเข้าไปในตัวไวน์ เพื่อปรับสภาพให้รสชาติ และอโรมาของไวน์ถูกขับออกมาอย่างชัดเจน ร่นระยะเวลาการเปิดขวดไวน์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนดื่มได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น  ในส่วนของไวน์ลิสต์ที่ทางร้านนำเสนอ ส่วนใหญ่จะเป็นไวน์ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด ด้วยวิธีการชีวภาพแบบดั้งเดิม โดยไม่มุ่งเน้นความเป็นอุตสาหกรรม ทำให้ได้อโรมาและรสชาติแบบธรรมชาติแท้ๆ หรือที่เรียกว่า “Exclusive Artisan Wine” (เอ็กซ์คลูซีฟ อาร์ทิซาน ไวน์) จำนวนกว่า 200 เลเบิล อาทิ ไวน์ขาว Dreissigacker ‘Bechtheimer Geyersberg’ QbA 2011, ไวน์ขาว Felton Road ‘Block 2’ Chardonnay 2013, ไวน์แดง Château Le Puy ‘Emilien 2009 Côtes de Francs’, ไวน์แดง Salomon Estate ‘Alttus’ 2003 และไวน์แดง Les Terres de Fagayra ‘Maury’ Red 2013 เป็นต้น

นอกจากนี้ ทางร้านยังได้เปิดโอกาสให้ไวน์เลิฟเวอร์ได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติของไวน์ได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น กับเมนูไวน์แบบแก้ว (Wine by the Glass) กว่า 40 เลเบิล โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องกดไวน์แบบอัตโนมัติ หรือ “Wine Dispenser” (ไวน์ ดิสเพนเซอร์) ที่ช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติของไวน์ไว้ได้อย่างยาวนาน ด้วยการปล่อยไนโตรเจนเข้าไปหยุดกระบวนการออกซิไดซ์ (Oxidise) ระหว่างไวน์และอากาศซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รสชาติ และอโรมาของไวน์เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเมนู Wine by the Glass เปิดให้บริการ 3 ประเภท  คือปริมาณทดลอง (Taster) 30 มิลลิลิตร ปริมาณครึ่งแก้ว (Half Glass) 75 มิลลิลิตร และปริมาณเต็มแก้ว (Full Glass) 150 มิลลิลิตร โดยจะมีการสับเปลี่ยนไวน์ลิสต์ทุก 2-3 เดือนตามคอนเซ็ปต์ที่ทางร้านสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยคอนเซ็ปต์แรก “CONCISE RIEDEL WINE BAR & CELLAR WINE LIST”  เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “RIEDEL WINE BAR & CELLAR” เป็นการโชว์เคสไฮไลท์ไวน์ลิสต์ทุกชนิด ที่มีในร้านโดยเลือกนำตัวที่โดดเด่นทั้ง 40 ตัวมารวมไว้ในเครื่อง “Wine Dispenser” (ไวน์ ดิสเพนเซอร์)

มิสเตอร์คริสเตียนกล่าวต่อไปว่า “RIEDEL WINE BAR & CELLAR” ยังมีบริการเมนูเฉพาะในรูปแบบ Innovative Menu ในสไตล์ Modern Mediterranean (โมเดิร์น เมดิเตอเรเนียน) ที่สร้างสรรค์และนำเสนอโดย    เชฟชาวอิตาเลียน ไว้คอยบริการกว่า 30 เมนู ซึ่งสามารถจับคู่กับ Exclusive Artisan Wine ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเมนู Selection of Artisan Cheese and Charcuterie ที่จับคู่กับไวน์ 2012 Bruno Giacosa Arneis, Piedmont, Italy เมนู Seared Rainbow Trout, Kalamata Olives, Heritage Tomato, Toasted Pine Nut Cream ที่จับคู่กับไวน์ 2014 Felton Road ‘Bannockburn’ Pinot Noir, Central Otago, New Zealand รวมถึงเมนู Black Angus Fillet Breaded in Homemade Chamomile and Grissini Crust, Sweet Garlic Foam, Toasted Hazelnut and Roasted Potatoes ที่จับคู่กับไวน์ 2013 Odfjell Vineyards ‘Armador’ Carmenere, Central Valley, Chile เป็นต้น

นอกเหนือจากการบริการและไวน์ลิสต์ที่เป็นเลิศแล้ว RIEDEL WINE BAR & CELLAR ยังได้เน้นย้ำสุนทรียะแห่งการดื่ม ด้วยการออกแบบร้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่สะท้อนรากเหง้าและจิตวิญญาณของ RIEDEL ไว้อย่างเต็มขั้น ด้วยพื้นที่บริการที่ดูโอ่โถงและกว้างขวางกว่า 437 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าได้เต็มที่ถึงกว่า 80 ที่นั่ง บรรยากาศการตกแต่งภายในร้านเน้นความอบอุ่นของงานไม้สีเข้มแบบธรรมชาติและเครื่องแก้วเป่าอันเป็นประวัติศาสตร์ของแบรนด์ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้โทนสีแดง ขาว น้ำตาล และเหลืองทอง ที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน ไฮไลท์ของร้านอยู่ที่โซนของไวน์บาร์ที่โดดเด่นด้วยโต๊ะกลมสีเบอร์กันดี และภาพเขียนสไตล์นามธรรม (Abstract) ที่หรูหรามีระดับ เหมาะสำหรับการดินเนอร์หรือพบปะเพื่อนกลุ่มเล็กๆ ทั้งยังมีห้อง Private Room ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมไวน์ทอล์คและคลาสไวน์ต่างๆ แก่ผู้ที่สนใจ ตั้งแต่ระดับเบื้องต้น จนถึงคลาสไวน์ระดับสูง รวมถึงสามารถเป็นห้องรับรองในการพูดคุยธุรกิจ หรือสังสรรค์แบบเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ พร้อมเพิ่มโซนเอาท์ดอร์ เทอร์เรซ (Out Door Terrace) ให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติของไวน์ และซิการ์ท่ามกลางบรรยากาศและแสงสีของมหานครกรุงเทพ พร้อมด้วยโซนร้านค้า (Cellar) ที่รวบรวมไวน์หายาก รวมถึงอุปกรณ์ และแก้วไวน์ สำหรับเลือกซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย

คุณกรกฏ ศรีวิกรม์ กรรมการบริหาร ศูนย์การค้าเกษร กล่าวว่า “ศูนย์การค้าเกษร ได้สร้างสรรค์ประสบการณ์ไลฟ์สไตล์เปี่ยมรสนิยมภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘GAYSORN THE SANCTUARY OF TASTE’ ที่สะท้อนรสนิยมและรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ Sophisticated มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงประสบการณ์ “ลักซ์ชัวรี่ ช้อปปิ้ง ไลฟ์สไตล์” ที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงได้ให้ความสำคัญกับการสร้างปรากฏการณ์ด้าน Food & Beverages เพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น การเปิดตัวทีเลานจ์ระดับพรีเมียมแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกอย่าง 1823 Tea lounge by Ronnefeldt หรือการจัดเทศกาลไวน์สไตล์ฝรั่งเศสครั้งแรกในประเทศไทยอย่าง Gaysorn-Les Vendanges และล่าสุดกับการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง “RIEDEL” ตำนานแห่งแก้วไวน์ระดับโลกในการเปิดตัวอาร์ทิซานไวน์บาร์แห่งเดียวในโลกอย่าง “RIEDEL WINE BAR & CELLAR” ซึ่งถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ Talk of the town ด้าน Food & Beverage ครั้งแรกของปี ค.ศ. 2016 ที่คาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการทางด้านไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างแน่นอน

สัมผัสประสบการณ์สุนทรีย์เปี่ยมรสนิยมของ “Exclusive Artisan Wine” ชั้นเลิศได้แล้ววันนี้ที่ “RIEDEL WINE BAR & CELLAR” ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษร เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 24.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 02-656-1133