วันก่อนดู๊ดดอทของเราได้ไปพูดคุยกับ คุณเบิร์ด “เอกชัย เจียรกุล” แชมป์กีต้าร์คลาสสิกระดับโลก (https://www.dooddot.com/visit-ekachai-jearakul-sangsom-road-to-carnegie-hall/) เกี่ยวกับการเดินทางสายดนตรีคลาสสิก และวิธีการฝึกซ้อมของเขา จนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ ที่สำคัญเขายังมาพร้อมกับแคมเปญใหญ่ SangSom Road to Carnegie Hall ที่ชักชวนให้นักดนตรีคลาสสิกชาวไทยมาแข่งขันเพื่อลุ้นรางวัลแบบ Money Can’t Buy Experience โอกาสสำคัญที่จะได้ไปชื่นชม คุณเบิร์ด แสดงคอนเสิร์ตสดๆ ใน Carnegie Hall สถานที่แสดงดนตรีที่ยิ่งใหญ่มากๆ และมีศิลปินดังๆ ขึ้นเวทีที่นี่มาแล้วมากมาย แคมเปญแสงโสมนี้มีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่จะได้รับโอกาส
ซึ่งคนแรกที่คว้าโอกาศนี้ไปคือ คุณชิน “ชินวัฒน์ เต็มคำขวัญ” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะดุริยางคศิลป์ สาขาปฏิบัติดนตรีคลาสสิก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประเภทเครื่องดนตรีในการแข่งขัน กีต้าร์คลาสสิก เราไปพูดคุยกับเขากันว่าเส้นทางก่อนจะมาถึงตรงนี้เป็นอย่างไร และรู้สึกอย่างไรที่ได้ไป Carnegie Hall ครั้งนี้
เริ่มเล่นกีตาร์คลาสสิก ได้ยังไง?
เกิดจากความบังเอิญครับ ผมแค่ไปเห็นกีต้าร์คลาสสิกที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ผมก็ลองเล่นโดยไม่คิดอะไรเลย แต่สุดท้ายเล่นไปเล่นมาเราก็รู้สึกหลงรักมัน เลยตัดสินใจสอบเข้าดุริยางคศิลป์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ชั้น ม.4 เลยครับ
ฝึกซ้อมหนักแค่ไหนสำหรับการแข่งขันครั้งนี้?
สำหรับการฝึกซ้อม ผมซ้อมตลอดเวลาอยู่แล้วครับ มันเป็นหน้าที่ของนักดนตรีอยู่แล้ว แต่สำหรับรายการนี้ผมตัดสินใจเลือกเพลงใหม่ เพราะว่าต้องใช้เพลงที่มีเวลาไม่เกิน 3 นาที ผมก็เลยตัดสินใจแกะเพลงใหม่ ผมก็ใช้เวลาฝึก 2 สัปดาห์ครับ แล้วก็บันทึกเสียงก็หลายเทคเลยกว่าจะผ่านครับ จนได้เป็นวิดีโอเข้าประกวด ส่วนเพลงที่ผมใช้ในรอบชิงชนะเลิศนะครับ คือเพลง “The Prince’s Toys” เป็นบทเพลงประจำตัวผมเลยครับ และก็เป็นบทเพลงที่ผมใช้มาหลายเวที ผมเรียกมันว่าซิกเนเจอร์ของนักกีต้าร์อย่างผม ที่ใครได้ยินเพลงนี้ก็จะรู้ว่า นี่คือเพลงของชินวัฒน์
ผลงานการแสดงสดเพลง The Prince’s Toys ของ ชินวัฒน์ เต็มคำขวัญ
ในงาน Solo concert at the Thailand International Guitar Festival 2014
ในแง่ของนักดนตรีแล้ว ชินอยากให้คนอื่นพูดถึงตัวเองว่าอย่างไร?
ชินวัฒน์ เต็มคำขวัญ คือนักกีต้าร์คลาสสิกที่ “แตกต่าง” ในที่นี่คือทางด้านการนำเสนอดนตรีไม่ว่าจะ เป็นการบรรเลงหรือการตีความ เมื่อมีความแตกต่างก็จะสร้าง “ความเป็นตัวของตัวเอง” แต่แน่นอนว่าเราไม่ สามารถควบคุมความคิดคนอื่นๆ ให้พูดถึงเราในแบบที่เราต้องการได้ สิ่งที่เราทำได้คือเมื่อคนอื่นพูดถึงเราใน ความเห็นที่แตกต่างกันออกไป เราจะต้องเปิดรับความคิดเห็นเหล่านั้นและนำสิ่งที่ดีมาปรับใช้กับการแสดง ดนตรีของเรา ความสุขของผมคือการเล่นดนตรีให้ตัวเอง ในทางกลับกันนั่นก็คือการแสดงดนตรีให้กับผู้อื่น ด้วยในเวลาเดียวกัน
ถ้าคุณได้มีโอกาสเล่นใน Carnegie Hall เพลงที่คุณจะเล่นคือเพลงอะไร? และมันจะ “แตกต่าง” ได้อย่างไร?
ถ้าผมได้มีโอกาสแสดงใน Carnegie Hall ผมจะเล่นเพลง The Prince’s Toys ซึ่งเป็นบทเพลงที่ แสดงความเป็นตัวตนของตัวเองได้มากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ที่ Carnegie Hall และเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพลง The Prince’s Toys ก็ต้องเป็นบทเพลงที่แสดงตัวตนของตัวเองได้มากกว่าบทเพลงนี้
ส่วนการแสดงบนเวทีของผมจะต้องแตกต่างจากคนอื่น ต้องไม่ใช่แบบแผนเดิมๆ และต้องไม่มีใครเคยทำ มาก่อน ต้องแตกต่างออกไปในทางที่ดี เพื่อที่จะทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ที่มาชมคอนเสิร์ตของเราหลังจากที่เขาได้ รับชมแล้วเขาจะต้องบอกว่า “จะกลับมาดูนักกีต้าร์คนนี้อีกครั้ง”
สำหรับคุณแล้ว คิดว่าดนตรีสำคัญกับโลกใบนี้แค่ไหน?
สำหรับผมมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สำคัญต่อโลกใบนี้ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีความสัมพันธ์กับศาสตร์ แขนงอื่นๆ ดนตรีก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าขาดเสียงดนตรีไปก็ไม่มีใครรู้ว่าโลกจะเป็นอย่างไร แต่ที่สำคัญโลกจะ ขาดสิ่งที่จรรโลงจิตใจให้กับมวลมนุษยชาติไปหนึ่งอย่าง มนุษย์จะยังคงอย่างมี “ชีวิต” แต่จะอยู่อย่างไร้ “ชีวา” ดังคำกล่าวที่ว่า “วิทยาศาสตร์ทำให้โลกอยู่ได้ แต่ดนตรีทำให้โลกน่าอยู่”
อยากฝากอะไรถึงคนที่กำลังติดตามการเดินทางของคุณในมหานครนิวยอร์ก ครั้งนี้!
ก่อนอื่นก็อยากจะขอขอบคุณเพื่อนๆ น้องๆ และท่านอื่นๆ ที่คอยติดตามผลงานการประกวดของผมใน SangSom Road to Carnegie Hall ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ จนในที่สุดผมก็ได้เป็น 1 ใน 2 ผู้ชนะการประกวดในครั้งนี้ ขอขอบคุณทางแสงโสมที่จัดกิจกรรมดีๆ ให้กับเยาวชนไทยผู้มีใจรักในเสียงดนตรี สำหรับใครที่อยากติดตามการเดินทางของผมในมหานครนิวยอร์ก สามารถติดตามกิจกรรมและรอชมภาพบรรยากาศการเดินทางของผมได้ที่ Facebook : www.facebook.com/chinguitarist ซึ่งผมจะคอยอัพเดตกิจกรรมและการเดินทาง SangSom Road to Carnegie Hall ในครั้งนี้อย่างแน่นอนครับ
SangSom
Website: http://www.thesangsom.com/
Facebook: https://www.facebook.com/sangsomexperience