เอกลักษณ์ในผลงานอักษรไทยวิจิตรของผมคือ เป็นการนำความงามของรูปทรงอักษรไทยมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ร่วมกับเป็นการนำเสนอความไพรเราะของถ้อยคำสำนวนไทย ซึ่งเป็นศิลปะวัฒนธรรมประจำชาติ ให้ปรากฏออกมาเป็นผลงาน 2 มิติ และ 3 มิติ อีกทั้งยังเป็นนิทรรศดารที่จัดแสดงผลงานอักษรไทยวิจิตรที่เต็มรูปแบบครั้งแรกของประเทศไทย จึงตั้งชื่อนทรรศการว่า “อุบัติอักษรไทยวิจิตร” เพื่อจัดแสดงผลงานชุดพิเศษที่มีคุณค่า สร้างมิติใหม่ให้เกิดขึ้นกับวงการศิลปะและการออกแบบของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เป็นประโยชน์ต่อวงการศิลปกรรมและประยุกต์ศิลป์ของไทย
กรอบแนวคิดและวัตถุประสงค์ของผลงานมี 3 ประการ คือ
- รูปทรง (Form) สร้างสุนทรียภาพความงามที่สื่อผ่านรูปทรงตัวอักษรไทยและการจัดองค์ประกอบศิลป์
- เนื้อหา (Content) นำเสนอความไพรเราะของถ้อยคำสำนวนไทย ที่มีความหมายลึกซึ้ง รู้สึกประทับใจ
- ประโยชน์ (Function) สื่อสารกระตุ้นความคิด ตามหลักธรรมและความจริงเพื่อให้ทำในสิ่งที่ดีงาม
วิธีการสร้างสรรค์ คือ ออกแบบรูปทรงและลายเส้นตัวอักษรไทยให้สวยงามแปลกตา แต่ยังคงสามารถอ่านเข้าใจได้ง่ายร่วมกับการจัดเรียงตัวอักษรให้อยู่ภายในกรอบรูปทรงต่างๆในลักษณะของ Calligram เพื่อให้องค์ประกอบดูแปลกตาน่าสนใจ พยายามทำให้ผลงานมีความหลากหลายโดยวิธีการจัดองค์ประกอบผสมผสานการใช้เทคนิควิธีการและสื่ออุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป
หวังว่านิทรรศการนนี้จะเกิดประโยชน์ คือ ส่งเสริมให้คนไทยทุกวัยทุกวิชาชีพได้รู้เห็นและเข้าใจผลงานอักษรไทยวิจิตร ช่วยปลูกฝั่งค่านิยมและจิตรสำนึกของผู้ชม ให้มีความรับรู้เข้าใจ ความรู้สึกซาบซึ้งชื่นชมและภูมิในความงามตัวอักษรไทยและความไพรเราะของถ้อยคำสำนวนไทย กระตุ้นให้ผู้ชมเกิดการคิดเปรียบเทียบตามหลักธรรมและความจริง สามารถนำไปใช้ปฏิบัติเกิดประโยชน์แก่ตนเองในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นการใช้ศิลปะเพื่อช่วยส่งเสริมภาษาไทยอีกด้วย และที่อยากให้เกิดขึ้นเป็นความจริงมากที่สุดคือ ส่งเสริมพัฒนาให้งาน “อักษรไทยวิจิตร” เป็นที่นิยม และนำไปสู่การยอมรับให้เป็นงานศิลปะประจำชาติอีกแขนงหหนึ่ง
อุบัติอักษรไทยวิจิตร โดย รศ.ดร.สันติ คุณประเสริฐ
จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ – 15 ธันวาคม
ณ นิทรรศสถาน อาคารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
RECOMMENDED CONTENT
เพลงนี้เล่าถึงแรงเสียดทานในชีวิตที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอแรงเสียดทานนี้ ที่เกิดขึ้นจากการกดทับโดยบริบททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในแบบต่าง ๆ ที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เพราะถึงแม้จะนับ 1 ถึง 100 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบใจ แต่สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งนี้มันก็อาจจะเกินกว่าที่จะทนไหว และปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ออกมาก็เป็นได้