มนุษย์เงินเดือน หรือคนวัยทำงานมักจะมีสิ่งของจำเป็น หรือต้องการใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ไม่กี่อย่าง หลักๆ ที่เห็นบ่อยก็จะมีบ้าน รถ นอกจากนั้นก็เป็นของที่ราคาไม่สูงมาก แต่ซื้อบ่อยมาก เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอางที่จะต้องซื้อทุกเดือน หรือไม่ก็ทุกสัปดาห์ เป็นต้น ซึ่งคอลัมน์ก่อนหน้านี้เราเคยตั้งคำถามกันมาแล้วว่า ระหว่างบ้าน VS รถ ควรซื้ออะไรก่อน? แต่สุดท้ายแล้วคำตอบก็อยู่ที่เรา ว่าใจต้องการแบบไหนหรือซื้อไปแล้วเราจะเดือดร้อนไหม โดยเฉพาะใครที่อยากได้รถสักคัน แม้จะไม่ต้องผ่อนนานเหมือนบ้าน แต่ระยะเวลา 4 – 7 ปี ถ้าบริหารเงินไม่ดีก็พังได้เหมือนกัน งั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจกับ “วิธีเก็บเงินซื้อรถ และการบริหารจัดการทางการเงิน” กันเถอะ 

3 สิ่งต้องทำก่อนซื้อรถ

เช็คราคารถ เครื่องยนต์ และความชอบ

คิดจะซื้อรถทั้งทีก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อย เพื่อประกอบการตัดสินใจ เพราะข้อมูลพื้นฐานสำคัญมากๆ ไม่ว่าเราจะซื้อของชิ้นไหนก็ตาม ต้องเริ่มจากความชอบ เช่น เราเป็นสาวกรถยนต์ค่ายไหน ชอบสีอะไร ก็ไปดูรุ่นนั้นสีนั้น แล้วมาเทียบราคา เรียงลำดับในใจตั้งแต่หนึ่งถึงสาม ดูเรื่องของฟังก์ชั่น และเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน อย่างบางคนเน้นขับในเมืองก็ให้ดูกลุ่มรถยนต์รถเล็ก หรือ Eco Car แต่หากต้องการรถที่มีพื้นที่กว้างเน้น หรือออกต่างจังหวัดบ่อยก็ควรดูรถประเภท PPV หรือ SUV และถ้าเป็นกลุ่มที่เน้นสมรรถนะสูง ก็ต้องเป็น Sports Car

คำนวณเงินที่ต้องจ่ายหลังออกรถ

หลังจากที่เลือกรถที่ต้องการได้แล้ว ให้ลองคำนวณดูคร่าวๆว่า หากซื้อรถมาใช้จะมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียในแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง เช่น ค่าบำรุงรักษารถยนต์ทั้งหมด หรือ maintenane ค่าน้ำมันหรือแก๊ส ค่าประกันภัย ค่าที่จอดรถ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เราจึงจำเป็นต้องมีเงินสดสำรองเก็บไว้สำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ด้วย

คุยกับไฟแนนซ์รถยนต์

โดยปกติการซื้อรถจะมีพนักงานให้คำปรึกษาด้านนี้อยู่แล้ว เมื่อเลือกรถคันที่ชอบได้แล้ว การคุยกับไฟแนนซ์รถยนต์จะทำให้เราวางแผนการเงินถูก เพราะรู้ว่าหลังจากคำนวณจำนวนเงินดาวน์ จำนวนเงินที่จะผ่อนชำระแล้ว เราจะรู้ว่าต้องชำระหนี้ค่างวดผ่อนรถยนต์เดือนละเท่าไหร่ 

แต่สำหรับคนที่กำลังมองหา Sports Car โดยเฉพาะจาก BMW มีทางเลือกที่ดีกว่านั้น เพราะตอนนี้มีโปรแกรม “BMW Freedom Choice” ที่มีลักษณะคล้ายกับการทำไฟแนนซ์รถยนต์ทั่วไป แต่มีสิทธิพิเศษมากกว่า เนื่องจากเป็นบริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่จะเข้ามาเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายหากต้องผ่อนค่ารถ แถมยังให้อิสระทางการเงินที่มากกว่าการทำสัญญาเช่าซื้อทั่วไป เพื่อให้คนที่เป็นแฟนค่ายนี้ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ BMW ง่ายๆ เพราะมีความยืดหยุ่นให้เลือกถึง 4 ทางเลือก ตั้งแต่ซื้อ (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอลัมน์ “รู้จัก BMW Freedom Choice” )

เทคนิคการเก็บเงินซื้อรถ

ออมเงินดาวน์งวดแรก

เมื่อรู้ข้อมูลทั้งหมดแล้วก็มาวางแผนการออม โดยเริ่มจากการออมเงินดาวน์ก่อน เพราะยิ่งออมเงินดาวน์เก็บไว้มากๆ ก็จะยิ่งทำให้เรามีเงินดาวน์เยอะ ทำให้แต่ละงวดผ่อนสบายๆ ไม่แพงมาก ที่สำคัญหากมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยถูกลงก็จะช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระค่างวดได้

ฝากประจำหรือออมเงินเท่าค่างวด

เงินที่ต้องเก็บควบคู่กับเงินดาวน์ คือค่างวดแต่ละเดือน เราอยากให้เก็บออมจำนวนเท่าค่างวดรถอย่างน้อยๆ ก็สักสามเดือน แล้วค่อยออกรถ ใครสะดวกเก็บออมเองที่บ้านก็ได้ หรือใครจะฝากประจำกับธนาคารก็ให้เลือกรูปแบบการออมที่สามารถถอนออกมาได้

ตัวอย่างเช่น ต้องการเงินสดจำนวน 300,000 บาท โดยให้เก็บเดือนละ 30,000 บาท จำนวน 10 เดือน ก็จะได้เท่าจำนวนค่ารถทั้งหมด 

ทริคการออม

ออมเงินที่ได้ก่อนใช้

ไม่ว่าจะเก็บเงินดาวน์รถงวดแรก หรือออมเงินค่างวด ทั้งสองต้องทำควบคู่กันในแต่ละเดือน ดังนั้นควรเริ่มจัดระเบียบการเงินตั้งแต่ได้มา ว่าจะใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ ออมเงินเท่าไหร่ แต่ธงของเราตอนนี้คือ มุ่งมั่นกับการผ่อนรถ ดังนั้น เราจึงต้องหักเงินสองส่วนข้างต้นนั้นออกไปก่อน แล้วจึงแบ่งเปอร์เซ็นเงินที่เหลือ ดังนี้

50% — สำหรับรายจ่ายทุกเดือนหรือทุกปี

25% — กับรายจ่ายในชีวิตประจำวัน

15% — เป็นรายจ่ายเพื่ออนาคต (แบ่งออมและทำตามความฝัน)

10% — ไว้ใช้เพื่อความสุข ทั้งความสุขของคนชอบเที่ยว ชอบกิน และช้อป

ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

เราขอเน้นคำว่า “ลด” เพราะเข้าใจว่าทำงานเหนื่อยก็อยากใช้เงินซื้อความสุข อะไรที่คิดว่าอยากได้ก็ยังซื้อได้อยู่ แต่อาจจะต้องลดปริมาณให้น้อยลงกว่าเดิม เพื่อจะได้มีเงินเหลือพอใช้ในขณะที่มีภาระผ่อนรถอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ เงินโบนัสหรือเงินที่ได้จากการทำอาชีพเสริมก็นำมาเก็บไว้เพื่อผ่อนรถยนต์ เพียงเท่านี้เราก็จะผ่อนรถได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเจอปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง แถมยังใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้

___

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงติดสินใจได้ไม่ยากเลย หากเริ่มลงมือออมจริงๆ จังๆ เพื่อเป้าหมายเป็นรถยนต์อย่างที่หวัง ซึ่งใครที่สนใจโปรแกรม “BMW Freedom Choice” สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ทั่วประเทศ หรือติดต่อ BMW Contact Center โทร. 1-401-269-269 และ www.bmw.co.th