ย้อนรอยสู่จุดกำเนิดแห่งดนตรีเทคโนกับผลงาน Black to Techno โดยผู้กำกับฯ หญิงชาวอังกฤษ – ไนจีเรียน Jenn Nkiru เจ้าของผลงานหนังสั้นคอนเซ็ปต์จัด Rebirth is Necessary (2017) และมิวสิกวิดีโอเพลง Apeshit ของ Beyoncé และ Jay-Z’s ร่วมกับผู้กำกับฯ Ricky Saiz
Black to Techno จะพาเราไปสัมผัสวัฒนธรรมดนตรีเทคโนจากจุดกำเนิดที่เมืองดีทรอยท์ สหรัฐอเมริกา จากดนตรีกระแสรองสู่ความนิยมสุดขีดช่วงปลายยุค 1980s ก่อนจะขยายอทธิพลทางดนตรีไปยังฝั่งยุโรปที่กรุงเบอร์ลิน
หนังบอกเล่าเรื่องรางของดนตรีเทคโนที่ไม่เพียงเป็นแนวดนตรีอันทรงอิทธิพลในกลุ่มดนตรีโมเดิร์นอิเล็กทรอนิค แต่มันยังเป็นดนตรีที่สะท้อนถึงสภาพแวดล้อมสังคมในช่วงยุคอุตสาหกรรมรุ่งเรืองและล่มสลายในดีทรอยท์ จนทำให้มันเป็นเมืองล้มละลายร้างผู้คนเช่นทุกวันนี้ด้วย
โดยความน่าสนใจของหนังคือการหยิบเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เสียงการทำงานของเครื่องจักร หรือเสียงเครื่องยนตร์จากโรงงานผลิตรถยนตร์ มาผสมผสานกับเสียงอิเล็คทรอนิคเพื่อบอกถึงจุดกำเนิดของดนตรีเทคโนว่าเป็นดนตรีที่แลกมาด้วยชีวิต ความเจ็บปวด และหยาดเหงื่อของชนชั้นแรงงานที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของประเทศ สะท้อนถึงการต่อสู้เพื่อบทบาทในสังคมและเสรีภาพของกลุ่มคนผิวสีในดีทรอยท์ ดังก้องอยู่ในซีนหนึ่งที่ชาวผิวสีร่ายบทแร็พไฟลุก ทรงพลัง ยาวนาน และที่ทำเราขนลุกตามไปด้วย
ดนตรีเทคโนอาจไม่ได้เป็นแค่แนวดนตรีของสังคมใดสังคมหนึ่ง แต่ยังเป็นดนตรีแห่งการประกาศจุดยืนที่ถูกส่งต่อมาถึงคนเจเเนอเรชั่นต่อมา มันหมายถึงความหวัง และการค้นหาอิสรภาพของชาติพันธุ์ ไม่ต่างกับดนตรีบลูส์ในยุคหนึ่ง
Black to Techno คือภาพยนตร์เรื่องที่ 4 และเรื่องสุดท้ายของซีรี่ส์ขนาดสั้นในโปรเจ็กต์ Second Summer of Love โดย Frieze and Gucci เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปีแห่งวัฒนธรรม Acid House
RECOMMENDED CONTENT
beabadoobee หนึ่งในศิลปินหญิงที่มาแรงที่สุดในปี 2020 ด้วยยอดสตรีมมากกว่า 900 ล้านครั้ง และเพลงติดหูอย่าง ‘Coffee’ ที่ภายหลังนำท่อนฮุกในเพลงนี้มาฟีตในเพลง ‘deathbed (coffee for your head)’ ของ Powfu และประสบความสำเร็จอย่างมากมายจนมียอดสตรีมมิ่งเป็นอันดับที่ 6 ของฤดูร้อนนี้