รู้ไหมว่า ‘กินซ่า’ ย่านช๊อปปิ้งสุดหรูใจกลางกรุงโตเกียวมีความสำคัญเป็นพิเศษต่อ Seiko อย่างไร?
ย้อนไปที่ ร้านขาย และ ซ่อม แซมนาฬิกาแขวน แห่งย่านกินซ่า ปี 1881
นี่เป็นย่านที่ Kintaro Hattori (คินทาโร่ ฮัตโตริ) ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้เริ่มต้นเปิดร้านขายและรับซ่อมแซมนาฬิกาแขวนรวมถึงนาฬิกาข้อมือ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวเป็นเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น จากตอนนั้นถึงตอนนี้ย่านกินซ่ายังเป็นที่ตั้งของ Seiko สำนักงานใหญ่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
กว่า 120 ปีที่นาฬิกาคล็อก Seiko ที่ติดตั้งอยู่บนอาคารในกินซ่าได้ทำหน้าที่รักษาเวลาให้กับคนโตเกียว
ถึงวันนี้นาฬิกาของ Seiko ที่ติดตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้า Wako ยังคงทำหน้าที่เหมือนกับดวงตาที่มองลงมายังแยกที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดของ Ginza บนที่ตั้งของหนึ่งในร้านแฟล็กชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของ Seiko
บริเวณใกล้เคียงกัน ยังมีพิพิธภัณฑ์ Seiko Museum บูติกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่จำหน่ายเฉพาะคอลเลคชั่น Prospex และ Seiko Dream Square ให้คนได้มาเยี่ยมสัมผัสได้ถึงมรดกอันล้ำค่าของแต่ละคอลเลคชั่น และโลกที่เปี่ยมเอกลักษณ์ของ Seiko
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้ง Seiko และความผูกพันที่ยาวนานที่มีต่อย่าน Ginza ไซโกได้เปิดตัวนาฬิกาสุดพิเศษ 2 รุ่นในคอลเลคชั่น Prospex (พรอสเป็กซ์) และ Presage (พรีสาจ) ที่จับภาพทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยของย่านกินซ่า
การสร้างสรรค์นาฬิกาทั้ง 2 รุ่นมากับหน้าปัดที่สะท้อนถึงพื้นผิวของทางเดินที่ปูก้อนหินมาแบบดั้งเดิมของย่านนี้ แต่ใช้โทนสีน้ำเงิน ที่เหมือนแสงสะท้อนมาจากกระจกของตึกและอาคารโดยรอบให้ความรู้สึกร่วมสมัย โดยมีอาคารสมัยใหม่และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งยังพบเห็นได้ในย่านกินซ่าทุกวันนี้ มรดกและความทันสมัย ประวัติศาสตร์และความก้าวหน้า การสร้างสรรค์ของนาฬิกาทั้งสองเรือนถ่ายทอดบุคลิกที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเหมือนกับที่ Seiko เป็นอยู่ในปัจจุบัน
Seiko Prospex 1959 Alpinist Modern Re-interpretation: SPB259
ในรุ่น Prospex Limited Edition ออกแบบบนพื้นฐานของผลงานในรุ่นที่นำมาตีความใหม่ของ Alpinist จากปี 1959 ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รูปแบบที่ซับซ้อนของพื้นหน้าปัดประกอบด้วยสองลายรัศมีที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามองศาของมุมที่แสงตกกระทบบนพื้นหน้าปัด จึงสร้างความประทับใจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยจับภาพพื้นผิวและความรู้สึกของก้อนหินที่ปูบนถนนของกินซ่า
เข็มวินาทีได้รับการออกแบบเพื่อเป็นเกียรติให้กับประวัติศาสตร์ของเขตนี้ด้วย Komparu (คอมพารุ) คืดเฉดสีดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ตั้งชื่อตามชื่อถนน Komparu ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของสถานบันเทิงยามค่ำคืนของกินซ่า สีฟ้าแกมเขียวอ่อนนี้ถูกใช้ครั้งแรกในสมัยเมจิตอนกลาง (1868-1912) เป็นสีที่โปรดปรานในหมู่เกอิชาจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ และจากนั้นก็ค่อยๆ กลายเป็นสีที่ได้รับความนิยมจากสาธารณชนในเวลาต่อมา
นาฬิกามาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติ 6R35 ซึ่งสามารถสำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง กระจกแซฟไฟร์ทรงโค้งมีความทนทานต่อการขูดขีด ส่วนความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ 200 เมตร การผลิตจำกัดเพียง 3,500 เรือนทั่วโลกเท่านั้น และมีจำหน่ายแบบ Exclusive ก่อนใครในงาน Central International Watch Fair 2021 เดือนตุลาคม 2021 ในจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือนในประเทศไทย
รายละเอียด
– ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล
– กระจกแซฟไฟร์ทรงโค้งเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
– ฝาหลังแบบใสมองเห็นกลไก
– ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มิลลิเมตร ความหนา 12.9 มิลลิเมตร
– การกันนำ : 20 บาร์
– ความต้านทานสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
– สายผลิตจากสเตนเลสสตีล พร้อมบานพับแบบ 3 ทบ และปุ่มกดเพื่อคลายล็อค
– จำนวนผลิต : 3,500 เรือน
– ราคา 29,000 บาท
Seiko Presage: SSA445
นาฬิการุ่น Presage ได้แรงบันดาลใจจากพื้นทางเดินที่มีเอกลักษณ์ในย่านกินซ่า การออกแบบลวดลายบนพื้นหน้าปัด รวมถึงเข็มวินาทีในเฉดสี Komparu เช่นกัน แต่นาฬิการุ่นนี้มีแง่มุมที่โดดเด่นของซีรีส์การออกแบบ “Style60’s” ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยได้แรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่น Seiko Crown Chronograph (ไซโก คราวน์ โครโนกราฟ) จากปี 1964 กระจกผนึกเหนือหน้าปัดในแบบยกขอบสูง เข็มชั่วโมงและนาทีเป็นทรงยาวปลายแหลม พร้อมหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยม ทั้งหมดถือเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดโดยตรงจาก Seiko Crown Chronograph และให้ความรู้สึกย้อนยุคที่เข้ากับรูปแบบหน้าปัดสุดคลาสสิกอย่างลงตัว
ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาเจาะช่องเปิดให้ผู้สวมใส่ได้ชมและเพลิดเพลินกับการทำงานของชุดเอสเคปเม้นท์ และหน้าปัดย่อยแสดงเวลา 24 ชั่วโมงด้านบน ให้การอ่านค่าที่แตกต่างและมีประโยชน์จากเวลากลางวันและกลางคืน
นาฬิกามาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติ 4R39 ซึ่งสามารถสำรองพลังงานได้ 41 ชั่วโมง มีหน้าปัดย่อยบอกช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน รุ่นนี้มีการผลิตออกสู่ตลาดจำนวนจำกัดเพียง 4,000 เรือน และมีจำหน่ายแบบ Exclusive ก่อนใครในงาน Central International Watch Fair 2021 เดือนตุลาคม 2021 ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือนในประเทศไทย
รายละเอียด
– ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล
– กระจก Hardlex แบบยกขอบสูง
– ฝาหลังแบบใสมองเห็นกลไก
– ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 40.8 มิลลิเมตร ความหนา 12.8 มิลลิเมตร
– การกันนำ : 5 บาร์
– ความต้านทานสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
– บานพับแบบ 3 ทบ และปุ่มกดเพื่อคลายล็อค
– จำนวนผลิต : 4,000 เรือน
– ราคา 23,000 บาท
ติดตาม Seiko Thailand ได้ที่
Facebook : SeikoThailandOfficial
Instagram : seiko_Thailand
Line : @Seiko_Thailand
Website : https://www.seikowatches.com/th-th/products
Twitter : SeikoThailand
For more information 02-2551245-50 Ext. 888
RECOMMENDED CONTENT
ต่อไปนี้หากคุณและเราถูกผรุสวาทด้วยคำประเภทว่า ไอ้สัตว์, ไอ้สัด, ไอ้สัส หรือ ไอส๊าสสสสส ก็อย่าเพิ่งโกรธไป เพราะเราเองนี่แหละที่อาจกำลังกลายเป็นสัตว์ (ป่า) กันอยู่ในทุกๆ วัน! I Gone wild (everyday) คือเอ็กซิบิชั่นที่อยากให้เรากลับไปทบทวนความ ‘ดิบ’ ในตัวเอง ว่าสัตว์ในตัวเราคืออะไร และเรายังเหลือความเป็นมนุษย์กันอยู่มากน้อยแค่ไหน!?