แฟชั่นสไตล์ Military หรือทหาร เป็นแฟชั่นที่อยู่คู่มาทุกยุคทุกสมัย แม้แต่แบรนด์แฟชั่นระดับโลกยังหยิบมาเล่นอยู่บ่อยๆ จะบอกว่าเป็นสไตล์ไทม์เลสก็ไม่ผิดนัก
ในแวดวงนาฬิกาก็เช่นกัน ทุกแบรนด์ต่างหยิบไอเดีย Military มาใช้เพราะให้ความรู้สึกเท่ กระฉับกระเฉง และมิกซ์แอนด์แมทช์ได้หลายสไตล์ เช่นเดียวกับแรงบันดาลใจในงานออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น pilot watch ที่มาจากการใช้งานของนักบินในยุคสงคราม นาฬิกา Function Watch ต่างๆของทหารราบ หรือจะเป็นรูปแบบของเรือดำน้ำในนาฬิกาหลายๆรุ่นที่เป็นตำนาน
ถ้าถามว่าจุดเริ่มต้นของนาฬิกาสไตล์นี้เริ่มต้นในยุคไหน ต้องบอกตรงๆ ว่าตอบยากมากเพราะการใช้สายผ้ากับนาฬิกาสำหรับลุยหรือออกรบนั้นไม่มีกำหนดกฏเกณฑ์เอาไว้แน่ชัดนัก จากข้อมูลที่หาเจอมาคร่าวๆ น่าจะเริ่มช่วงปี 1880 เป็นต้นมา ที่น่าตกใจคือแฟชั่น Military ช่างเหมาะเจาะกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Seiko ที่ปีนี้มีอายุครบ 140 ปี พอดีจริงๆ
หลังจากที่ Seiko 5 ได้เปิดตัวอีกครั้งกับ Seiko 5 Sport New ได้เกือบ 3 ปี ก็ได้รับความนิยมและการตอบรับที่ดี โดยเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชั่นที่ออกแบบมาสำหรับเจนเนอร์เรชั่นใหม่ และผู้ที่มีความหลงใหลใน Street Fashion โดยยังคงคอนเซ็ปต์ Show Your Style ที่เน้นไปถึงสไตล์ที่บ่งบอกความเป็นคุณ
สไตล์ที่มีความยาวนานมากกว่า 1 ศตวรรษ คงจะเป็นสิ่งที่บอกได้ถึงความไทม์เลสเป็นอย่างดี นี่ขนาดผ่านมา 140 ปีแล้วความฮิต ความคลาสสิคไม่เคยจาง
Seiko กับ Classic Sport Watch นั้นก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำได้ ไทม์เลสกับสไตล์นี้ และนี่คือ Seiko 5 Sports Militry นาฬิกาที่ใช้ตัวเรือนนาฬิกาสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีเข้ม ผูกกับสายผ้าหรือสายแบบไนล่อนทำให้นาฬิกาเรือนนี้ใส่ง่ายและทนทาน พร้อมลุย ตามสไตล์ทหาร สะท้อนถึงตัวเรือนของคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด ไม่ได้เน้นไปทางการขัดเงาแว้บจนแสบตา เพราะในสมัยก่อนคงไม่มีใครอยากให้นาฬิกานั้นสะท้อนไปเข้าตาศัตรูใช่ไหมล่ะ ในส่วนของสีสันก็เป็นโทนดำ,เขียวขี้ม้า หรือ น้ำตาลกากี
โดยคอลเลกชั่นใหม่ของ Seiko 5 Sports Militry นั้น ถอดดีเอ็นเอของนาฬิกาสไตล์ทหารมาใช้กับ Seiko 5 Sport New อย่างชัดเจน ซึ่งจุดสังเกตความโดดเด่นในครั้งนี้แน่นอนต้องเริ่มจากสายผ้าหรือไนล่อนที่ทำให้ลุคของนาฬิการุ่นนี้ดูง่ายต่อการสวมใส่ ถัดมาคือหน้าปัดที่เน้นสีเข้มเน้นความดุดันช่วยขับให้หลักชั่วโมงนั้นโดดเด่นขึ้นมาสะดวกต่อการอ่านค่า ตัวเรือนของรุ่นนี้จึงได้รับการขัดด้านให้สัมผัสเช่นเดียวกับผิวของปืน ท้ายที่สุดความทนทานที่ต้องยกความดีงามให้กับเครื่องระบบอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 4R36 ที่สามารถสำรองพลังานได้กว่า 40 ชั่วโมง และเป็นหนึ่งในเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน
ข้อมูลจำเพาะ:
– กลไก : 4R36
– ความถี่ในการเดิน : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)
– พลังงานสำรอง : 41 ชั่วโมง
– จำนวนทับทิม : 24
รายละเอียดทางเทคนิค :
– ตัวเรือนสเตนเลสสตีล
– สายไนลอน
– กระจกแบบ Hardlex
– ฝาหลังแบบขันเกลียวและโปร่งใส
– เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน : 39.38 มิลลิเมตร , ความหนา : 13.22 มิลลิเมตร
– ระดับการกันน้ำ : 10 บาร์
– ระดับการป้องกันสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
– ราคา 10,500 บาท
Contact us :
Facebook : SeikoThailandOfficial
Instagram : seiko_Thailand
Line : @Seiko_Thailand
Website : https://www.seikowatches.com/global-en/products/5sports
Twitter : SeikoThailand
For more information 02-2551245-50 Ext. 888
RECOMMENDED CONTENT
‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย