ว่ากันด้วยเรื่องรีโนเวทบ้านที่ช่วงนี้หลายต่อหลายคนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ จนเรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ใครยังไม่ทำคงต้องเริ่มวางแผนในระยะใกล้ๆ นี้ได้แล้ว เช่นเดียวกับบ้าน SIRI HOUSE ย่านบางรัก ที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบไอเดียให้กับบ้านใกล้เรือนเคียงย่านนี้ ยิ่งใครเคยผ่านมาก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านแต่ละหลัง จากอาคารพาณิชย์เก่าๆ กลายเป็นตึกที่มีจุดเด่นสวยงามดูทันสมัยขึ้นในแบบฉบับของตัวเอง
SIRI HOUSE เป็นชื่อที่บางคนอาจเคยได้ยินผ่านหูเห็นผ่านตามาบ้าง แต่วันนี้ dooddot จะมาเจาะลึกไอเดียการรีโนเวทสุดอลังการของบ้านหลังนี้อีกครั้ง แม้จะผ่านมา 2 ปีกับการใช้งานเป็นทั้งโฮมและออฟฟิศทำธุรกิจจิวเวลรี่ของครอบครัว “ศิริวัจนางกูร” ที่ถือเป็นที่มาของชื่อบ้านนั้น ทาง “คุณหลี สุรีย์ ศิริวัจนางกูร” ตัวแทนสมาชิกในบ้านที่ดูแลโปรเจกต์การสร้างตั้งแต่ต้นจนเสร็จร่วมกับสถาปนิกผู้ออกแบบจากบริษัท IDIN Architects บอกกับเราว่า บ้านหลังนี้คือความภาคภูมิใจของเธอ เพราะนอกจากงานดีไซน์เพชร ก็มีบ้านที่ได้ร่วมออกไอเดียถึงแม้จะไม่ได้เรียนสถาปัตย์มาโดยตรง
“หลีชอบทำงานอยู่แล้ว ยิ่งมีทีมสถาปนิกเก่งมาช่วยทำโปรเจกต์นี้ก็ยิ่งง่าย ตัวเราเองเป็นกึ่งให้ไอเดีย ขอความเห็น ประสานงานแต่ละฝ่าย อย่างการก่อสร้างใช้เวลา 2 ปี ก็ออกมาช้านิดหน่อย เพราะรีโนเวทไม่เหมือนสร้างบ้านใหม่ จึงมีปัญหาหน้างานเกิดขึ้นเยอะต้องแก้ปิดจุดที่บกพร่อง ส่วนไหนไม่แข็งแรงก็ต้องทุบทิ้ง เหลือเฉพาะโครงสร้างเก่าที่แข็งแรงไว้”
ทำไมจึงรีโนเวทแทนการสร้างใหม่
เรียกได้ว่าคุณหลีมีส่วนร่วมและใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ เนื่องจากต้องเป็นคนตัดสินใจ และใส่คาแรกเตอร์ของบ้านตามทัศนคติของคนในบ้าน โดยเฉพาะสิ่งที่สมาชิกแต่ละคนอยากให้ใส่ลงไปใน SIRI HOUSE ก็จะบอกไว้บ้างตั้งแต่แรก และเหตุผลที่ครอบครัวนี้เลือกการรีโนเวทตึกแถวเก่าแทนการสร้างใหม่ มาจากการมองหาบริเวณที่เป็นย่านธุรกิจจิวเวลรี่ เพื่อเปิดร้าน “Petch Thailand” จนมาเจออาคารเก่าบนถนนสุรวงศ์ที่เหมาะจะจัดส่งสินค้า แถมมีร้านประเภทเดียวกันเยอะ
SIRI HOUSE สะท้อนตัวตนของคนในบ้านได้อย่างไร
“เราดึงคาแรกเตอร์ความสนุกสนาน และค่อนข้างแฮปปี้ในไลฟ์สไตล์การอยู่แบบนี้ คือลักษณะคล้ายการอยู่คอนโด ที่ทุกคนจะได้ใช้ facility ร่วมกันสามารถมองเห็นกัน แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัว บ้านมีมุมให้เล่นเยอะเหมาะกับพวกเรา 4 พี่น้อง ทุกคนจึงสนุกกับการอยู่ที่นี่ เพราะไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ซึ่งในทางกลับกัน คือมีเซอร์ไพรส์ทุกครั้งที่เปิดประตู จนกลายเป็นความสุขของสมาชิกในบ้านที่ได้ใช้ร่วมกัน”
จุดเด่นของ SIRI HOUSE
โครงสร้างของตัวอาคารเดิมเป็นตึกแถว 2 คูหา พอเริ่มรีโนเวทก็รวมทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยแบ่งพื้นที่เป็น 6 ส่วน ได้แก่ พื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน 4 ยูนิต ซึ่งแต่ละยูนิตจะมีทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องครัวแบบแพนทรี และมีส่วนกลาง 1 ยูนิต ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นหลักกับห้องรับประทานอาหาร
ส่วนสุดท้ายเป็นออฟฟิศรวมถึงเป็นโชว์รูมเครื่องเพชรอีกด้วย แต่ละโซนจะเป็นบล็อกคล้ายกับเล่นตัวต่อสลับเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละยูนิตจะถูกแบ่งแยกกัน จึงต้องใช้ลิฟต์ที่อยู่ด้านหลังขึ้นลงแต่ละห้อง นอกจากนี้แกนกลางและบริเวณระเบียงชั้นบนสุดยังมีต้นไม้ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างสัมผัสจากธรรมชาติ ส่วนช่องเปิดรับแสงก็มีหลายจุดด้วยกันทั้งช่องตรงกลางและด้านหลัง กับหน้าต่างบานใหญ่ด้านหน้า ทั้งนี้ จุดเด่นอย่างฟาซาดด้านหน้าอาคาร ที่ยังได้แรงบันดาลใจมาจากหน้าตัดของเหลี่ยมเพชร แต่ละส่วนจึงสอดคล้องลงตัว
“โจทย์ตอนแรกที่ให้กับผู้ออกแบบ คืออยากจะทำให้ดูโมเดิร์น ไม่เหมือนใคร ซึ่งคุณพ่อก็เปิดทางให้ทำเต็มที่ ลุยตามไอเดียที่สถาปนิกเสนอมา พอเราฟังดูก็คิดว่าน่าสนุกนะ อีกอย่างได้แก้ปัญหาพื้นที่แต่ละชั้นที่ความสูงไม่เท่ากันให้เวลาอยู่แล้วไม่ต่างกันเกินไป เพิ่มลูกเล่นในการออกแบบด้วยข้อจำกัดของพื้นที่รวมถึงใส่ฟังก์ชั่นต่างๆ”
การตกแต่งและฟังก์ชั่น
เน้นการตกแต่งให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะเข้าอยู่มามาแล้วกี่ปีก็ยังต้องทำให้บ้านเรียบอยู่เสมอ เพราะทุกห้องถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นเยอะมากทั้งชั้นวางของ ช่องใส่ของ ซ่อนของได้ในหลายมุม เช่น ช่องใส่ของใต้บันได ห้องครัวแบบแพนทรีที่ถูกเจาะช่องมีประตูบานพับเปิดปิด และห้องนั่งเล่นภายในยูนิตชั้น 2 บริเวณโซฟาเบาะนั่งที่ด้านในเป็นช่องเก็บบานประตูโรงรถชั้นล่าง
ประสบการณ์ที่ได้จากการรีโนเวทบ้าน
สิ่งที่ต้องตอบโจทย์การรีโนเวทของตัวเจ้าของบ้านอันดับแรกเป็นโลเคชั่น ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ควรรู้ว่าจะรีโนเวทอย่างไร ซึ่งข้อเสียเป็นเรื่องโครงสร้างกับเวลาที่ต้องเสียไป ต้องใส่รายละเอียดเพิ่มขึ้นและขีดจำกัดก็จะมีมากตาม แต่เมื่อเจ้าของบ้านได้เข้าไปมีส่วนร่วมในไอเดียก็จะสนุกท้าทาย แถมได้ในสิ่งที่ชอบแบบตรงจุด
นับว่าการรีโนเวทต้องใส่ใจ ค้นหาไอเดียและนำสิ่งที่ชอบมาปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่มากจริงๆ ซึ่งเราเห็นด้วยกับประโยคที่คุณหลีทิ้งท้ายก่อนจะจบบทสนทนานั่นคือ “การทุ่มใจทำบ้านจะได้สิ่งที่ตรงใจเรามากกว่าการโยนทุกอย่างให้ผู้ออกแบบจนบางทีอาจไม่หลงเหลือความเป็นตัวเราอยู่เลย”
SIRI HOUSE และร้าน Petch Thailand
ถ.สุรวงศ์ บางรัก กรุงเทพฯ
Facebook : www.facebook.com/patchthailandstore
Tel : 02-101-6909
ภาพบางส่วน : Spaceshift Studio
RECOMMENDED CONTENT
เนื่องจากคุณฟูจิตระหนักถึงปัญหาการผลิตสินค้าด้วยพลาสติกจำนวนมากที่เติบโตขึ้นในชีวิตประจำวันของเราเหมือนดอกเห็ดตั้งแต่ยุค 70 ในปีค.ศ. 1997 เขาจึงได้เริ่มเก็บสะสมของเล่นพลาสติกที่ไม่เล่นแล้วตามบ้านเรือน