ภาพ Office ที่เรานำเอามาฝากกันในวันนี้ เป็นผลงานของ “Design Blitz” กับโจทย์ยากในครั้งนี้คือ การออกแบบสำนักงานใหญ่ให้กับบริษัท Skype โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้สื่อสารกันในคอมพิวเตอร์ ที่ตอนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสาหลักแห่งวงการ Social Network ของยุคสมัยเลยทีเดียว ด้วยความที่ลูกค้าเป็นบริษัทที่พนักงานจำเป็นต้องใช้ความครีเอทีฟสร้างสรรค์อย่างสูงนี้ืเอง ทาง Design Blitz จึงต้องคิดรูปแบบ Office ของงาน Creative Thinking (ลักษณะเหมือนกับพวก Agency โฆษณาชื่อดัง ที่ไม่เคยมี Officeธรรมดาๆเลยสักที่)
เริ่มจากเรื่องของสถานที่ พวกเขาแปลงโฉมมันขึ้นมาจากโกดังโล่งๆ ข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยก็คือเรื่องของเลือกใช้พื้นที่ใช้สอยที่ดูโล่งสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้สะดวกสบาย บวกกับมีหน้าต่างหลายบานที่แต่ละบานใหญ่ๆทั้งนั้น (คล้ายกับพวกสตูดิโอแนว Loft ของ Artist) ช่วยแต่งเติมให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มๆ ส่งผลให้พนักงานหรือคนที่อยู่ในห้องมองไปรอบๆ รู้สึกโปร่งสบายตา สบายสมอง หัวไม่ตันไม่ปิดกั้นความคิด อีกทั้งยังมีลูกเล่นสร้างสรรค์ๆน่ารักๆเอาไว้ให้ เป็นสวนเล็กๆทรงวงกลมที่ปูพื้นด้วยหญ้า มีเก้าอี้ กล่อง หิน หมอนนั่งนิ่มๆ วางรอไว้ เอาไว้สำหรับเวลาอยากเปลี่ยนบรรยากาศคิดงาน นั่งประชุมกัน ได้ความรู้สึกเหมือนคุยกันข้างนอก สามารถเลื่อนปรับวางเก้าอี้ได้ตามใจชอบ นอกจากนั้นยังมีอีกห้องที่เป็นไม้ตายเด็ดสำหรับเอาใจมดงานนักคิดทั้งหลายของ Skype เลยก็คือ ห้องพักผ่อน ที่มีโต้ะพูล ช่วยคลายเครียด และยังช่วยสร้างเสริมมิตรภาพกันในหมู่พนักงานอีกด้วย การออกแบบของ Office นี้ ทาง Design Blitz เลือกจะทำมันให้ออกมาในมูดโทนที่ทันสมัย สมกับที่เป็น Office ของบริษัทในศตวรรษที่ 21 จริงๆ มีกลิ่นอายความเป็น Minimal จากการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงแบบน้อยชิ้น และเลือกใช้สีที่สดใสสบายตา ดูไม่อึมครึมและไม่ทำให้ง่วงนอนกัน
จากที่พูดๆมาใครเป็นพนักงานคงอยากไปทำงานทุกวัน Office สำนักงานใหญ่ของ Skype ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่า Palo Alto ใน California ที่ตอนนี้กำลังเป็นจุดศูนย์รวมใหม่ของบริษัทชื่อดังๆที่เกิดในยุคนี้ทั้งหลาย คงไม่ต้องสืบเลยว่าบริษัทรุ่นใหม่อื่นๆในละแวกนั้นจะมี Office ที่สร้างสรรค์ๆมาอวดกันขนาดไหน สำหรับเราๆ ดูเสร็จแล้วเกิดไอเดียดีๆก็เก็บเอาไว้ก่อนไม่เสียหลาย ไม่แน่เหมือนกันนะว่าในอนาคต พอตั้งบริษัทตัวเองก็เก็บแนวคิดไปสร้าง Office เท่ๆขึ้นมาในประเทศไทยเราบ้างก็ได้
Credit : Designboom
RECOMMENDED CONTENT
เบื้อหลัง The Fast and the Furious: Tokyo Drift ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2006 กำกับโดย Justin Lin เป็นหนึ่งภาคที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ถึง 5,300 ล้านบาท