นานๆ ทีจะซื้อ Performance Basketball Shoe สักคู่นึง เพราะตัวเองเปลี่ยนไม่ค่อยบ่อยนัก ตอนเล่นบาส อีกทั้งที่ผ่านๆ มา Jordan Brand คือแบรนด์ที่เราใส่ค่อนข้างบ่อยมากที่สุด แต่ด้วยพักหลังๆ ตัวเองไม่เคยได้ถูกใจ “รองเท้ารุ่นหลัก” ที่ออกมาเลยจริงๆ จนกระทั่งการมาถึงของ XXXI ซึ่งก็จะเล่าถึงรายละเอียดของโมเดลนี้ที่เคยโพสต์ไปแล้วให้อีกทีคร่าวๆ ละกันเนอะ

Tate Kuerbis ซึ่งเป็น Senior Designer ของ Jordan Brand คือดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบ XXXI โดยนำเอาแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก Air Jordan I ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์รองเท้าแบรนด์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความเคารพต่อดีไซน์ต้นฉบับของ Air Jordan I หรือการเลือกใช้สีดำ-แดงเป็นสีไฮไลท์ในการโปรโมท ซึ่งครั้งที่ Michael Jordan ใส่และถูกปรับครั้งละ 5000 เหรียญทุกครั้งที่ใส่รองเท้าสีนี้ลงเล่น (หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า รองเท้าจริงๆ แล้วที่ Jordan ใส่เล่นนั้น มันคือ Nike Air Ship สีดำ-แดงต่างหาก เพราะในช่วงเวลานั้น Air Jordan I ยังอยู่ในขั้นตอนของการออกแบบ) ถือเป็นรองเท้าคู่แรกที่มีทั้งโลโก้ Swoosh, Wing Logo และ Jumpman อยู่ในคู่เดียวกัน เป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่นำเอาเทคโนโลยีอย่าง Flyweave พัฒนาเชื่อมรวมเข้าด้วยกันกับ Synthetic Leather เพื่อสร้าง Upper ในลักษณะแบบ One Piece โดยที่ยังมี Flywire Cable ซ่อนในเลเยอร์ด้านใน นอกจากนั้นยังมี Full-Length Zoom Air Unit และเทคโนโลยี Flightspeed ซัพพอร์ทกับพื้น Outsole แบบก้างปลาที่ออกแบบมาให้มีพื้นรองเท้าที่มีผิวสัมผัสกับพื้นมากที่สุด

มาพูดถึงรายละเอียดต่างๆ ที่รู้สึกประทับใจของ XXXI กัน เริ่มตั้งแต่กล่องรองเท้าที่มีกิมมิคเล็กๆ ที่ฝากล่องบนด้านนอกพิมพ์ลายโลโก้ ​XXXI สีดำล้วน ขณะที่ใต้ฝาด้านในมีโลโก้ Nike Air แบบกล่องของ Air Jordan I ในลักษณะกลับด้าน ซึ่งคงจะสื่อถึงภาพสะท้อนของ Air Jordan I ที่เป็นแรงบันดาลใจของตัว XXXI ส่วนของกระดาษห่อรองเท้าพิมพ์ลาย Wing Logo และ XXXI Logo ตัวรองเท้าสำหรับความคิดเรานั้น ค่อนข้างประทับใจกับคุณภาพของวัสดุที่ใช้บนรองเท้าคู่นี้มาก ทั้ง Flyweave Upper ที่มีแพทเทิร์นน่าสนใจในแบบการไล่ Gradient และเย็บเชื่อมกับ Synthetic Leather ได้แบบไม่ดูแปลกจนเกินไป อีกส่วนที่ชอบคือ ส่วนของข้อเท้าด้านในที่ยังมี Ankle Collar แยกออกมาอีกชั้น นอกเหนือจากตรงหนังชั้นนอกที่ดูแล้วเป็น Neoprene Sleeve ด้านในและมีฟองน้ำที่ยื่นออกมาซัพพอร์ทพื้นที่ข้อเท้าในช่วงต่างๆ ป้ายไซส์ถูกซ่อนเอาไว้ตรงนี้ด้วย เส้น Flywire Cable มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยๆ เห็นกันมา Tag ตรงลิ้นรองเท้าเป็นหนังพิมพ์ลาย Jumpman Logo ด้านหน้าและพิมพ์ Banned Logo ด้านใน เชือกแบบ ​Rounded Lace ขนาดใหญ่ให้มา 2 สีดำและแดง

ครั้งตั้งแต่เปิดตัวรองเท้ารุ่นนี้ ก็ตั้งความคาดหวังกับโมเดลนี้ค่อนข้างสูง เนื่องด้วยดีไซน์ที่เราชอบส่วนตัวในความที่มันดูเป็น Pure Performance Shoe แบบ On Court จ๋าๆ ที่อัดเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของแบรนด์เข้าไป แต่ในขณะเดียวกัน มันก็สามารถกลายเป็น Lifestyle Shoe แบบ Off Court ที่ดูดีด้วยเหมือนกัน ดังที่เราได้เห็น Lookbook จากบรรดา Influencers ที่อเมริกาใส่โปรโมทกันไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านๆ มาพักหลังๆ เราอาจจะเห็นบรรดารองเท้า Performance Shoe ต่างๆ ที่นำเอามา Mix & Match กับการแต่งตัวได้ค่อนข้างลำบาก แต่ไม่ใช่กับตัว XXXI นี้แน่นอน ซึ่งเราพออนุมานได้ว่าดีไซน์เนอร์คงต้องการที่จะออกแบบให้โมเดล XXXI นี้สามารถเป็นทั้ง On Court และ Off Court ได้ในคู่เดียวกัน

เรื่องของ Performance นั้น ยังไม่ได้ลองใส่เล่นจริงๆ (น่าจะประเดิมกับแมตช์วันพฤหัสนี้เลย) และก็คงจะไม่ขอพูดถึง เพราะตัวเองเล่นบาสแค่พอใช้เท่านั้น ไม่สามารถเป็นคนรีวิวประสิทธิภาพของรองเท้าได้ เอาเป็นว่าเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว 185 USD แล้วเนี่ย สำหรับเราถือว่าคุ้มค่าและถูกลงกว่าบรรดา 3-4 ตัวหลังๆ ที่ผ่านมาในขณะที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่อัพเดทที่สุดแล้ว ใครที่ยังลังเลก็คิดว่าน่าจะพอตัดสินใจกันได้แล้วว่า จะลุยหรือจะถอย

contributor : Jeed S. Muangsirikwan