BARRY X BALL: Portraits and Photos
“Barry X Ball: Portraits and Photos” นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในเอเชียของศิลปินอเมริกันชื่อดัง Barry X Ball กับการจัดแสดงผลงานประติมากรรมหินโอนิกซ์ “Matthew Barney Dual Portrait” ซึ่งเป็นภาพแกะสลักใบหน้าของศิลปินเองคู่กับ Matthew Barney ศิลปินร่วมสมัยชื่อดังชาวอเมริกัน ประดับบนแท่งทองคำ รวมไปถึงคอลเลคชั่นภาพถ่ายบันทึกผลงานชิ้นสำคัญต่างๆ ของ Ball ที่จัดแสดงไว้ในปราสาทและวังต่างๆ ในอิตาลี เช่น the Ca’ Rezzonico ใน Venice และ the Palazzo Mansi ใน Lucca
Barry X Ball คือหนึ่งในประติมากรที่มีชื่อเสียงทางด้านฝีมือมากที่สุดของศตวรรษนี้ ด้วยความสามารถเหนือชั้นในการสร้างสรรค์ผลงานที่ผสมผสานความเป็น contemporary และ classic art ในทุกชิ้นงานได้อย่างลงตัว ตั้งแต่การรังสรรค์ผลงานด้วยระบบ Digital Scanning ที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเทคนิกการแกะและขัดหินแบบดั้งเดิม งานประติมากรรมทุกชิ้นของ Ball สะกดผู้ชมงานด้วยความประณีตของพื้นผิว สี และรูปทรง ที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนและการใช้ทักษะประติมากรรมชั้นสูงในกระบวนการทำงาน
ผลงานของ Ball ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ และเทศกาลศิลปะที่สำคัญในระดับโลกมากมาย อาทิ 54th Venice Biennale, MoMA-PS1, และ the Lucca National Museums อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของ Museum และ Private Collection สำคัญๆ ทั่วโลก อาทิ SFMOMA (USA), Museo Cantonale d’Arte (Switzerland), และ the Thomas Olbricht Collection (Germany) และอีกมากมาย
100 ต้นสนแกลเลอรี่ ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมชมงาน “Barry X Ball: Portraits and Photos” ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2558 นี้ และในวันแรกของงาน (First Preview Day) แกลเลอรี่จะเปิดให้เข้าชมได้จนถึง 9.30 น พร้อมอาหารและเครื่องดื่มตลอดงาน
และพบปะพูดคุยศิลปิน Barry X Ball ได้ในงาน Closing Party สุดพิเศษในวันที่ 19 มีนาคม 2558 ณ 100 ต้นสนแกลเลอรี่
วันที่: 15 มกราคม – 29 มีนาคม 2558
First Preview Day: 15 มกราคม 2558 เวลา 19.00 – 21.30 น.
Closing Party: 19 มีนาคม 2558 เวลา 19.00
สถานที่: 100 Tonson Gallery, 100 ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต (BTS เพลินจิต)
Website: www.100tonsongallery.com
………………………………………………………………………………………………..
A Part of You, A Part of Me 2
สิ่งใหม่ (New Thing) ที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ล้วนแล้วเกิดจากการต่อยอดความคิดซึ่งกันและกัน รวมทั้งการเชื่อมโยง จับคู่ระหว่างสิ่งสองสิ่ง แรงบันดาลใจก็เช่นกัน นิทรรศการ A Part Of You, A Part Of Me จึงเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดว่า เราต่างเป็นแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน ถึงแม้จะต่างสาขาอาชีพกันก็ตาม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในรูปแบบใหม่ๆ และ ขับเคลื่อนลมหายใจของศิลปินหน้าใหม่ไปพร้อมๆกัน
จากความสำเร็จของนิทรรศการ A Part Of You, A Part Of Me ที่จัดขึ้นณ WTF Gallery และ SOL Space เมื่อปี พ.ศ2554 มีส่วนช่วยให้เราได้เห็นแนวทางการทำงานของศิลปินรุ่นใหม่ โดยเฉพาะความหลากหลายทางสื่อแสดงออก ที่ศิลปินเลือกเพื่อแสดงความคิดและทัศนคติของตัวเอง ซึ่งนิทรรศการA part of you, A part of me ครั้งแรกริเริ่มขึ้นโดย โตคิณ ทีฆานันท์ ผู้กำกับและนักจัดกิจกรรมดนตรีอิสระ จากความชื่นชอบในเสียงดนตรี และแนวทางศิลปะของคนรุ่นใหม่ โตคิณใช้เวลากับการบันทึกและสร้างกิจกรรมทางดนตรีนอกกระแสในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีความต้องการที่จะทำให้วัฒนธรรมดนตรีนอกกระแส รวมไปถึงศิลปะร่วมสมัย สามารถมีกิจกรรมร่วมกันผ่านนิทรรศการ เริ่มจากสังคมเล็กๆ รอบตัวเองก่อนในครั้งแรก โดยมีความเชื่อว่าหากทำต่อไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เห็นผลงานสร้างสรรค์ศิลปะ ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงตัวตนของพวกเขาเหล่านี้ได้ปรากฏ มีพื้นที่หรือเวทีแสดงออก ซึ่งนอกจากจะช่วยเชื่อมโยงสร้าง แรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน ในโลกแห่งการสร้างสรรค์แล้ว ยังสามารถเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ในโลก ความเป็นจริงด้วย
สำหรับนิทรรศาการ A Part of You, A Part of Me ครั้งที่ 2 นี้ โตคิณ ทีฆานันท์ ได้ชักชวน ชล เจนประภาพันธ์ ภัณฑารักษ์อิสระเข้ามาร่วมออกแบบนิทรรศการ ทำให้แนวคิดของนิทรรศการมีความชัดเจนมากขึ้น โดยโตคิณได้คัดเลือก นักดนตรีให้รับหน้าที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงหรือผลงานศิลปะทางเสียงขึ้นมาก่อน และผลงานที่ได้จะถูกส่งต่อ เพื่อสร้าง แรงบันดาลใจให้กับศิลปินทัศนศิลป์รุ่นใหม่ที่คัดสรรค์โดยชลอีกทอดหนึ่ง การทำงานร่วมกันเช่นนี้ จะทำให้เกิดพื้นที่ ตรงกลางของการส่งต่อการสร้างสรรค์ ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่องว่างของการตีความระหว่างดนตรีและศาสตร์ทัศนศิลป์ สาระของ A Part of You, A Part of Me ก็คือการแลกเปลี่ยนความคิด ผลงานของศิลปินทั้งสองกลุ่ม ที่จะนำ เสนอร่วมกัน พร้อมกับกิจกรรมการแสดงสดของนักดนตรีในวันเปิดนิทรรศการ ซึ่งผลงานของศิลปินทั้งสองกลุ่ม จะมีทั้ง รูปแบบ แนวคิด ที่สอดคล้องกัน หรืออาจจะขัดแย้งกัน คล้ายกับเป็นบทสนทนาที่มีทั้งการถกเถียง และส่งเสริมซึ่งกันและกัน จากมุมมองของศิลปินวัยแสวงหาเหล่านี้
วันที่: 16 – 31 มกราคม
สถานที่: The Jam Factory (ท่าเรือคลองสาร)
Website: https://www.facebook.com/events/422313121254853/
………………………………………………………………………………………………..
[un] forgotten อยากลืมกลับจำ อยากจำกลับลืม
นิทรรศการภาพถ่ายร่วมสมัยโดย เล็ก เกียรติศิริขจร และ สเตฟานี บอร์คาร์/ นิโคลา เมโทร ศิลปินช่างภาพไทยและสวิส ที่บันทึกเรื่องราวความเป็นไปที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจากสายตาศิลปินไทยเเละศิลปินต่างชาติที่มองเข้ามายังความเป็นไปที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ความทรงจำนั้นบางครั้งก็ควรค่าที่จะจดจำ เเต่บางครั้งก็ควรที่จะให้จืดจางหายไปจากหัวใจ นิทรรศการในครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่อาจจะคนละเรื่องเดียวกัน หากเเต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานในเรื่องของความทรงจำที่ทั้งอยากที่จะจำเเละอยากที่จะลืม
เล็ก เกียรติศิริขจร ถ่ายทอดเรื่องราวความเจ็บปวดที่สังคมไทยได้ประสบเจอเมื่อน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ. 2554 ที่คร่าชีวิต คร่าความสุขของผู้คน ผลงานชุดนี้ถ่ายทอดออกมาด้วยภาพถ่ายที่เเน่นิ่งเเต่แฝงไปด้วยนัยต่างๆทางการเมืองสังคม ความเจริญที่มาจากภาวะบริโภคนิยมที่เกินพอดีของคนเมือง ที่ท้ายสุดก็จมดิ่งอยู่ในบาดาลนานหลายเดือน ภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้สร้างคราบตะกอนน้ำที่ฝังลึกในจิตใจที่อยากจะลบออกถึงเเม้อยากลบลืมเเค่ไหนก็ตาม
สเตฟานี บอร์คาร์/ นิโคลา เมโทร ศิลปินคู่ชาวสวิสที่พำนักอยู่ในไทย ได้ตามติดเเละบันทึกภาพอริยาบทต่างๆของผู้ป่วยที่กำลังเผชิญภาวะสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์) ณ บ้านพักฟื้นผู้ป่วยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ด้วยภาพถ่ายเชิงสารคดีที่แฝงนัยเรื่องราวความเจ็บปวดด้านความทรงจำ บ้านพักแห่งนี้ก่อตั้งโดยชายชาวสวิสซึ่งมีบุคคลในครอบครัวที่ต้องเผชิญสภาวะของโรคนี้ ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในบ้านพักแห่งนี้ล้วนเป็นผู้สูงอายุต่างชาติที่อยู่ในภาวะสมองเสื่อมในระดับต่างๆกัน สถานที่เเห่งนี้คือเคหะสถานที่วนเวียนเเละคุกรุ่นไปด้วยชีวิตในเเบบที่ผ่านไปเพียงวันๆโดยปราศจากความทรงจำ ถึงเเม้เขาเหล่านั้นอยากจะจดจำอดีตและปัจจุบันเเค่ไหนก็ตาม
นิทรรศการในครั้งนี้ คือการถ่ายทอดเรื่องราวเล็กๆที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่สำหรับสังคมไทยที่ได้เคยเกิดขึ้นเเละเป็นอยู่ในขณะนี้ ภาพถ่ายที่ปรากฏในนิทรรศการนี้ยังคงถ่ายทอดเรื่องราวของบทสนทนาที่สวนทางกันที่ว่าด้วยเรื่องความทรงจำที่เเม้อยากจะจำเเค่ไหนกลับลืม เเละอยากลืมเเค่ไหนกลับจดจำ
ภัณฑารักษ์ : กฤษฎา ดุษฎีวนิช หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร
พิธีเปิดนิทรรศการ วันพฤหัสที่ 15 มกราคม เวลา 18.00 น. ณ ท้องพระโรง หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
วันที่: 15 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์
สถานที่: หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
Website: https://www.facebook.com/events/438267289660338/?ref=44&unit_ref=related_events
________________________________________________________________________________