กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา Starbucks ได้จำหน่าย ‘Unicorn Frappuccino’ กาแฟลิมิเต็ดอิดิชั่นที่น่าเอ็นดูที่สุดใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ทั้งการโหมกระแส PR อย่างหนักหน่วงเอย ทั้งสารพัดรีวิวในโลกโซเชียลฯ เอย เล่นเอาสายฟุ้งฟริ้งติ่งยูนิคอร์นกรี้ดกันอยู่พักใหญ่ สวนทางกับดราม่าจากพนักงานคนหนึ่งที่ออกมาแฉผ่านทวิตเตอร์ (ซึ่งแน่นอนว่าโดนอุ้มหายไปแล้วเรียบร้อย) ถึงเบื้องหลังของความหายนะกว่าจะมาเป็นเมนูตะมุตะมิแก้วนี้ รวมถึงบรรดาบาริสต้าที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเผ็ดร้อน และข่าวบางสำนักที่บอกว่านี่ไม่ใช่ฝันหวานในทุ่งยูนิคอร์นแน่ๆ แต่มันคือ ‘ฝันร้าย’ ของสุขภาพต่างหากละ!
แล้วก็ดราม่าอีกจนได้ เมื่อร้านกาแฟแห่งหนึ่งในย่านบรูคลินชื่อ The End Brooklyn ทำการฟ้องร้องเชนกาแฟยักษัใหญ่เป็นเงินกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ว่าสตาร์บัคส์ ‘ก๊อป’ เมนูกาแฟยูนิคอร์นของตัวเองไปเห็นๆ โดยทางร้านจำหน่ายเจ้า ‘Unicorn Latte’ นี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน และตามรายงานของศาลก็ระบุว่าได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นที่เรียบร้อยไปตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วด้วย
แต่จะว่าไปมันก็อาจไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะนอกเหนือจากชื่อและไอเดียที่คล้ายกันอย่างกับยูนิคอร์น! แบรนด์กาแฟจากบรูคลิน เจ้าของเดียวกับ Montauk Juice Factory โปรดักซ์น้ำผลไม้ออร์แกนิกเจ้าดังแห่งนิวยอร์ก บอกว่า เมนูลาเต้ยูนิคอร์นของเขานั้นดีต่อใจกว่า เพราะไม่มีส่วนผสมของนมวัว ครีม สีผสมอาหาร ไซรัปแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ รวมถึงไม่มีน้ำตาลจำนวนมาก แถมยังมีส่วนผสมของพืชผัก เช่น น้ำขิง น้ำมะนาว อินทผาลัม และสาหร่าย (Algae) แบบที่สามารถเรียกว่าเป็น ‘Healthy Beverage’ ได้เต็มปาก
ติดตามกันว่าดราม่ายูนิคอร์นนี้จะจบลงอย่างไร…
RECOMMENDED CONTENT
ออกมาแล้วกับ Official Trailer หนังดีกรีเมืองคานส์ A Prayer Before Dawn ผลงานจากผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ฌอง-สเตฟาน ซูแวร์