หลังจากที่เราได้ข่าวคราวของแบรนด์สุดมินิมอลประจำดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง MUJI กำลังจะแตกไลน์ใหม่ ให้เข้าถึงวิถีชีวิตของผู้คนให้มากขึ้น ผ่านการเปิด MUJI Hotel และก็ไม่ปล่อยให้เราคอยนาน เพราะ MUJI Hotel Shenzhen ซึ่งเป็นสาขาแรกของโลก ได้เปิดให้บริการแล้วนะเออ!

เสินเจิ้น คือเมืองแรกที่ทางแบรนด์มิวจิเลือกตั้งโรงแรมขึ้น ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ เดิมที่นั้น เสินเจิ้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงที่มีประชากรอยู่ราว 3,000 คน ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นเมืองมหานครขนาดใหญ่ ที่มีประชากรอยู่มากกว่า 14 ล้านคน! และเป็นทั้งเมืองท่าและเมืองเศรษฐกิจชั้นนำ ด้วยเพราะอยู่ไม่ไกลจากเกาะฮ่องกงนั่นเอง

เสน่ห์ของเสินเจิ้นนั้นคือความเจริญและความเก่าแก่ที่อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน ในย่านธุรกิจหรือ CBD –Central Business District ก็เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานสุดทันสมัย ในขณะที่ย่านเก่าแก่ของเมืองก็ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิมและความเป็นจีนเอาไว้อย่างมีเสน่ห์ ทั้งวิถีชีวิต ผู้คน หรือแม้แต่อาหารข้างทาง

มาดูที่ตัวโรงแรมกันบ้าง เริ่มตั้งแต่ส่วนต้อนรับ (2F) ที่ออกแบบอย่างเรียบง่ายด้วยผนังไม้ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบไร้ช่องว่าง ให้ความรู้สึกสงบ และถือเป็นการต้อนรับเข้าสู่ดินแดนแห่งมิวจิที่แท้จริง

ห้องนอนของ MUJI Hotel Shenzhen มีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน ดังนี้

• Type A : ขนาด 26–28 ตารางเมตร : จำนวน 16 ห้อง
• Type B : ขนาด 32–35 ตารางเมตร : จำนวน 26 ห้อง
• Type C : ขนาด 38–39 ตารางเมตร : จำนวน 21 ห้อง
• Type D : ขนาด 42–46 ตารางเมตร : จำนวน 12 ห้อง
• Type E : ขนาด 51–61 ตารางเมตร : จำนวน 4 ห้อง

ส่วนสิ่งของที่มีให้ในห้อง แน่นอนว่า ทั้งชุดเครื่องนอน ชุดรับแขก เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งหมดก็ต้องเป็นของแบรนด์ MUJI อยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีของที่มีให้ทุกห้อง อย่าง ชุดเครื่องอาบน้ำ ชุดชงน้ำร้อนและเครื่องดื่ม ตู้เซฟ ตู้เย็น ไดร์เป่าผม ฟรีไวไฟ ตามมาตรฐานโรงแรมชั้นนำทั่วไป แต่สิ่งที่เรารักเป็นพิเศษ ก็เห็นจะเป็นเครื่องเล่น CD ติดผนังในตำนาน ที่รับรองว่าห้องของคุณจะรื่นรมย์ยิ่งกว่าเดิม

พื้นที่ตั้งของ MUJI Hotel Shenzhen นั้น ตั้งอยู่ในย่าน Upper–Hill ซึ่งเป็นย่านฮิปและกำลังพัฒนาของเมือง ก็เลยทำให้การออกแบบที่นี่ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม หากแต่เป็นเหมือน MUJI Village ที่มีทุกสิ่งทุกอย่างของความเป็น MUJI รวมอยู่เอาไว้ ตั้งแต่นอกไปจนในอาคาร เอาง่ายๆ ก็คือ แค่จุดเด่นที่ชัดที่สุดของรูปทรงของโรงแรม ที่สร้างเหมือนกับยกบ้านแบบมินิมอลหลังใหญ่เอามาไว้ใจกลางเมือง

นอกจากส่วนต้อนรับของโรงแรมที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 แล้ว ที่นี่ยังมี MUJI Flagship Store สาขาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองตั้งอยู่ที่ชั้น 2–3 ส่วนห้องพักทั้ง 79 ห้องนั้นจะตั้งอยู่ที่ชั้น 4–6

เรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่ยังมี MUJI Diner (3F) ที่ให้บริการอาหารทั้งสามมื้อ เช้า กลางวัน เย็น ในแบบ local–homemade กับเมนูอาหารท้องถิ่นที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพ รสชาติและหน้าตาเหมือนกับที่บ้านมาทำให้ทาน ส่วนภาคดึกแขกที่มาพักก็สามารถเอ็นจอยกับบาร์ได้

นอกจากนี้ ก็มีทั้งฟิตเนส (3F) ห้องประชุม (3F) รวมถึงห้องสมุด MUJI BOOKS (3F) ที่เรากรี๊ดจริงจัง เพราะคัดสรรหนังสือมาอย่างดี แถมยังเปิดสาธารณะให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย!

นี่อาจเป็นหมุดหมายใหม่ล่าสุดของธุรกิจโรงแรม ที่อาจไม่ใช่แค่ที่พักซุกหัวนอนต่อคืนอีกต่อไป เพราะนี่กำลังจะเป็นปนิธานในแบบที่ MUJI บอกไว้ตั้งแต่เริ่มประกาศโปรเจ็กต์นี้ว่า MUJI ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน การท่องเที่ยวก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น

และ MUJI Hotel ก็ถือเป็นการสร้างความสุขและประสบการณ์ที่ดี ที่จะทำให้คุณพึงพอใจกับชีวิตได้นั่นเอง