แม้จะไม่ได้ชมหรือชื่นชอบการกีฬาเป็นพิเศษแต่ Super Bowl รายการถ่ายทอดสด NFL (National Football League) เกมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลลีคอาชีพที่มีประจำทุกปีก็เป็นหนึ่งในรายการโทรทัศน์ที่เราตั้งตารอดูเสมอ เพราะนี้คือการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกาที่มาพร้อมกับเรตติ้งรายการที่สูงแบบหารายการใดๆมาเทียบยาก แน่นอนว่าไฮไลต์สำคัญของ Super Bowl คือการแข่งขันอเมริกาฟุตบอลที่สุดจะเข้มข้นและการแสดงคอนเสิร์ต Half-Time Show ที่ปีนี้ได้ Lady gaga มาโชว์เมดเลย์เพลงฮิตประกอบแสงสีสุดตรัการตาตลอด 13 นาที นอกจากสองสิ่งนี้อีกสิ่งที่หลายคนจับตามองคือบรรดาโฆษณาต่างๆที่เหล่าบริษัทครีเอทีฟงัดไอเดียเด็ดออกมาโชว์ให้คุ้มค่าโฆษณาที่สูงกว่า 5.02 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 170ล้านบาท) / 30 วินาที ท่ามกลางการต่อต้านและแสดงจุดยืนทางการเมืองของชาวอเมริกัน โฆษณาหลายตัวของปีนี้ก็มุ่งไปโฟกัสที่ประเด็นทางสังคม แต่หลายตัวก็ยังสามารถดึงดูใจได้โดยไม่ต้องกินมาม่า มาดูกันว่าปีนี้มีโฆษณาสินค้าแบรนด์ไหนที่เราประทับใจและดูคุ้มค่ากับค่าโฆษณาที่ลงทุนไปบ้าง

Audi – #DriveProgress

หลายๆคนค่อนข้างเซอร์ไพส์เมื่อแบรนด์ Luxury Car อย่าง Audi ไม่ทำโฆษณาที่นำเสนอภาพรถยนต์สุดหรูหราแต่โฟกัสไปที่ประเด็นเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศแทน  “Daughter” พูดถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมในการจ้างงานของชาวอเมริกันที่มีมาอย่างเนิ่นนาน (จากวิจัยพบว่าหญิงในอเมริกาได้รับค่าจ้างน้อยกว่าเพศชายถึง 21% ) ผ่านคำพูดของพ่อที่ต้องการจะพูดกับลูกสาว “ผมต้องบอกเธออย่างไร ต้องบอกว่าคุณตาเธอมีค่ามากกว่าคุณยาย ให้พูดว่าพ่อมีค่ามากกว่าแม่ หรือจะต้องบอกว่าการศึกษาของเธอ ทักษะของเธอ ความฉลาดของเธอ จะถูกให้คุณค่าน้อยกว่าเด็กผู้ชายที่เธอเคยเจออย่างอัตโนมัติ? หรือบางทีผมอาจจะสามารถบอกเธอในสิ่งที่แตกต่าง”

แน่นอนว่าคนดูเห็นด้วยและทราบซึ้งกับประเด็นที่โฆษณานำเสนอ แม้จะมีผู้กดดิสไลค์ในยูทูปกว่า 6 หมื่นซึ่งไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับโฆษณาแต่มาจากการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในบริษัทที่ดูจะไม่ตรงกับจุดยืนที่ออดี้ประกาศซักเท่าไหร่ (บอร์ดผู้บริหารของออดี้มีผู้หญิงแค่ 2 จาก 14 คน ) คงต้องดูต่อไปว่าออดี้จะสามารถทำตามสัญญาที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมในการทำงานและความเท่าเทียมในค่าจ้างได้อย่างที่พูดหรือไม่

Budweiser – Immigrant’s Journey

ต้องบอกว่าโฆษณาตัวนี้ช่างมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ เพราะหลังจากทรัมป์ประกาศนโยบายแบน 7 ประเทศหลักของอิสลามและผู้อพยพ Budweiser ก็ปล่อยโฆษณาที่เกี่ยวกับ Anheuser-Busch หนึ่งในผู้ก่อตั้งที่เดินทางจากเยอรมันเพื่อมาทำความฝันการเป็นคนหมักเบียร์ที่อเมริกาในปี 1857 แน่นอนว่าเขาไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีนักจากคนท้องถิ่น แต่ด้วยความฝันอันแรงกล้าเขาก็ยังเดินทางต่อไปยัง St Louis ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ Eberhard Anheuser คู่หูที่ก่อตั้ง Budweiser มาด้วยกัน แม้ว่าทางแบรนด์จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจทำโฆษณาเรื่องนี้ให้เกี่ยวกับการเมือง แต่แมสเสจที่บอกว่า “ When Nothing Stops Your Dreams” กับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันของอเมริกา ก็สามารถทำให้โฆษณาของ Budweiser เข้าถึงผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น

84 Lumber – The Entire Jouney

เหตุผลหลักที่หลายคนตั้งตารอโฆษณาของบริษัท supplier ก่อสร้างจาก Pennsylvania ตัวนี้เพราะตัว Original ของ 84 Lumber ถูก Fox ปฏิเสธการออกอากาศเนื่องจากมันดูการเมืองมากเกินไป “The Entire Jouney” เล่าเรื่องการเดินทางของสองแม่ลูกจากเม็กซิโกเพื่อไปยังอเมริกา ตัวคลิปที่เราเห็นอยู่ในงาน Super Bowl คือฉบับเซนเซอร์แล้วด้วยการเปลี่ยนบทพูดและฉายเพียง 90 วินาที และให้ผู้ชมไปติดตามต่อในเว็บไซต์ของแบรนด์

ทันทีที่โฆษณาตัวเต็มปล่อยลง Youtube ผู้คนจำนวนมากเข้าไปดูเพื่อคลายความสงสัยว่า “สร้างข้อถกเถียงมากเกินไป” ของ Fox คืออะไร และคำตอบที่ได้คือภาพของแม่ลูกที่ฝ่าฝันความยากลำบากมาเพื่อเจอกับกำแพงขนาดมหึมา (ก็คือประกาศแบนของทรัมป์) แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็พบกับประตูที่เปิดไว้ให้ข้ามไปได้พร้อมกับข้อความ “The will to succeed is always welcome here.” ซึ่งก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการต้อนรับผู้อพยพของ แต่ถึงอย่างนั้น 84 Lumber ก็ให้เหตุผลที่ควรสนับสนุนว่า “ถ้าพวกเขาหากพวกเขาจะทำงานหนักทและทำให้ประเทศนี้ดีขึ้น ประตูก็ควรเปิดให้เขา”

Airbnb – #WeAccept

เราไม่แปลกใจที่ Airbnb จะทำโฆษณาที่พูดถึงสิทธิพื้นฐานของมนุษย์อย่างเรื่องความเท่าเทียม การถ่ายทอดคอนเซ็ปท์ #WeAccept อย่างเรียบง่ายผ่านภาพผู้คนที่แตกต่างทั้งเพศ เชื้อชาติ สีผิว สีผม สีตาและเสียงบรรยายว่า “เราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน รักใครหรือนับถือศาสนาอะไรเราคือพวกเดียวกัน โลกนี้จะสวยมากขึ้นถ้าคุณยอมรับมากขึ้น” เมื่อโฆษณาตัวนี้ปล่อยออกมา หลายคนบอกว่านี่เป็นการกวนทรัมป์หรือเปล่า ซึ่ง Rob Schwartz ซีอีโอของ Airbnb ให้คำตอบว่า “ผมไม่คิดว่านี่คือการกวนทรัมป์นะแต่อยากจะตบหน้าแรงๆแล้วบอกว่า พวกที่นี่มันอเมริกา”

Squarespace – Who Is JohnMalkovich.com?

พักเรื่องการเมืองมาดูโฆษณาสุดเจ๋งจาก Squarespace เว็บไซต์ขาย Domain เจ้ายักษ์ เมื่อ John Malkovich ดาราใหญ่อยากจะจดโดเมนในชื่อของตนเพื่อขายคอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายของเขา แต่กลับพบว่าชื่อ JohnMalkovich.com ถูกใครก็ไม่รู้ชื่อโดเมนไปก่อนแล้ว และจบด้วนสโลแกนสโลแกนขายตรง “ Get your domain before it’s gone” แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่า John Malkovich คือใครแต่โฆษณาตัวนี้ก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้แน่นอน ปล.ลองเข้าไปเว็บJohnMalkovich.com  ดูก็ได้เผื่อใครจะสงสัยว่ากลายเป็นเว็บของนักตกปลาไปแล้วจริงๆหรือเปล่า

Honda – Yearbook

เวลาที่เห็นโฆษณาพูดเกี่ยวกับความฝัน ผลลัพท์มักจะอยู่สุดทางไม่ปังก็แป๊กไปเลย สำหรับ “Yearbook” ซึ่งเป็นหนึ่งในแคมเปญ “Power of Dreams” ของ Honda เราต้องบอกว่าปัง เพราะนอกจากเราจะได้เห็นภาพตอนเด็กๆของคนดังระดับ A-list ทั้ง 9 คนได้แก่  Tina Fey, Robert Redford, Amy Adams, Magic Johnson, Steve Carell, Missy Elliott, Stan Lee, Jimmy Kimmel และ Viola Davis ที่มาพูดถึงการทำตามความฝันในรูปที่อาจจะแปลกๆบ้างเช่นการถือดอกไม้ทำไมไม่รู้ของ Tina Fey หรือ Amy Adams กับผมที่บังหน้า ไปถึงการวาดรูปจักรวาลในหนังสือรุ่นที่น่าประทับใจของ Stan Lee พร้อมกับประโยค “If you want to make a universe, make a universe.”  ต้องบอกว่าโฆษณาตัวนี้น่าประทับใจเพราะมันทำให้เรารู้สึกอินได้โดยไม่ต้องสร้างสตอรี่ให้ยืดยาว

Go Daddy – The Internet Wants You

Go Daddy เคยได้รับฉายาจากผู้ชมว่าคือ Bad Boy แห่ง Super Bowls ด้วยคอนเซปท์ของโฆษณาที่ผ่านมามักจะเชื่อมโยงกับเรื่องเพศ แต่ในครั้งนี้ Go Daddy กลับมาพร้อมกับโฆษณาที่ปราศจากเรื่องเพศอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับนำเสนอชีวิตประจำวันของ “The Internet” ชายหนุ่มที่ตื่นเช้ามาพร้อมกับเมลจำนวนมาก อาบน้ำด้วย Ice Bucket เลือกเดรสที่มีสีน้ำเงินดำและขาวทอง และอื่นๆอีกมากมายที่เสมือนการรีรันปรากฏการณ์บนโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อปีที่ผ่านมา

แต่อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือพ่ออดีตแบดบอยนำเสนอ #GHC17 การชุมนุมของผู้หญิงในวงการเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก Barb Rechterman , GoDaddy CMO บอกว่า “เราอยากให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของผู้หญิงในวงการเทคโนโลยี” ไม่เพียงแค่ตัวโฆษณาแต่การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตัวเองครั้งยิ่งใหญ่ของ GoDaddy ทำให้เรารู้สึกว่าเมื่อ “Show the Internet what you’ve got” แล้วอาจจะสามารถส่งผลอะไรบางอย่างได้มากกว่าเป็นแค่กระแสเหมือน Ice Bucket

Writer : Chalisa Methaupap