ตั้งแต่สตีฟ จอบส์เปิดตัว iPad ตัวแรกออกมาให้โลกได้รู้จักเมื่อหลายปีก่อน เส้นแบ่งวิธีการใช้งานและตลาดผู้บริโภคของ Tablet กับ Notebook นั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง เราสามารถรับรู้ได้ว่าการใช้งานแบบไหนต้องซื้อ Tablet การใช้งานแบบไหนต้องซื้อ Notebook แต่เมื่อเวลาผ่านไป Tablet ได้พัฒนาความสเปคและความสามารถของตัวเองอย่างก้าวกระโดด จนเส้นแบ่งเขตแดนของแก็ดเจ็ตสองหมวดนี้คลุมเคลือลงไปทุกวัน ทำเอาผู้บริโภคเองถึงกับสับสนว่าตัวเองต้องซื้ออะไรถึงจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด

คีย์บอร์ดกับเม้าส์เหมือนจะเป็นข้อได้เปรียบที่สุดของ Notebook ที่คนซื้อมาทำงานยังไงก็ต้องมี แต่คีย์บอร์ด เมาส์ไร้สายเดี๋ยวนี้ก็มีให้เกลื่อนกันไปหมด กลายเป็นว่าสองสิ่งนี้ไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบของ Notebook อีกต่อไป ข้อได้เปรียบทางกายภาพที่เหลืออาจมีเพียงไดรฟ์ DVD ที่อ่านและเขียนแผ่นได้ แต่ในยุคนี้เราก็ส่งงานทาง Cloud หรือแฟลชไดรฟ์กันบ่อยขึ้นเรื่อยแล้วจริงไหม?

โปรแกรมการใช้งานและความบันเทิงหลักๆ ของทั้งสองอุปกรณ์นี้แทบจะไม่แตกต่างกัน โปรแกรมพิมพ์งาน นำเสนองาน Microsoft Office ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊ค ในด้านความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ก็ทำได้เหมือนกัน จะมีแต่การใช้งานเฉพาะทางเช่นงานด้านกราฟฟิค ตัดต่อวีดีโอ เล่นเกมส์ ไม่กี่อย่างเท่านั้นที่ Tablet ไม่สามารถทำได้ แต่เอาเข้าจริงแอพเด็ดบางตัวบน Tablet บน Notebook เองก็เล่นไม่ได้เหมือนกัน

ยิ่ง Surfacebook กับ iPad Pro ออกมาในปีที่ผ่านมา ตลาด Notebook ก็ยิ่งกระเทือนเข้าไปใหญ่ เพราะความสามารถของแท็บเล็ตทั้งสองตัวนี้ดูเหมือนจะเกินหน้าเกินตา Notebook ไปอีกขั้น มันคือแก็ดเจ็ตที่รวมข้อดีของทั้ง Notebook และ Tablet เข้าด้วยกัน ทำทุกอย่างได้เหมือนโน๊ตบุ๊คแถมจอสัมผัสและปากกา มีแอพเด็ดของ Tablet ให้ใช้งานได้เต็มไปหมด

ปิดท้ายด้วยความสนใจของเด็กรุ่นใหม่ที่แทบจะเลือก Tablet ก่อนหน้า Notebook เสมอ ไม่ว่าจะด้วยความคุ้นเคยหรือความใช้งานง่ายแค่สัมผัสหน้าจอของมันก็ตาม แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้า Notebook ไม่สามารถสร้างตลาดใหม่ๆ ได้ หรือไม่มีนวัตกรรมอะไรที่จะดึงคนคืนจาก Tablet แล้วล่ะก็ ปี 2016 นี้รับรองได้ว่า Notebook จะโดน Tablet แย่งลูกค้าจนเหนื่อนแน่นอน

Writer: Shiraz
Image by http://www.gizmag.com/