Negroni Week ถูกจัดครั้งแรกในปี 2013 ด้วยความร่วมมือของ Imbibe Magazine และ Campari เพื่อเป็นการระดมไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุทอร์นาโด ในรัฐโอคลาโฮมา ของสหรัฐอเมริกา ปีแรกมีบาร์ประมาณ 100 แห่ง เข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบาร์ในสหรัฐอเมริกา และประเทศใกล้เคียงในย่านนั้น โดยกำหนดให้แต่ละบาร์ที่ร่วมโครงการ บริจาคเงินอย่างน้อย 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30 บาท ต่อการขาย Negroni 1 แก้ว เพื่อช่วยกันระดมทุนไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ปี 2014 ไม่ได้มีพายุที่ไหน แต่ทาง Immibe Magazine กับ Campari เห็นว่าควรคงไว้ซึ่งโปรแกรมการกุศล จึงได้ทำเวบไซต์ Negroni ขึ้นมาเพื่อให้บาร์ต่างๆ ทั่วโลกสามารถเข้าร่วมโปรแกรมได้อย่างเป็นระบบ โดยครั้งนี้ต่างจากปีแรกคือ เงินที่ได้จากการขาย Negorni ในช่วง Negroni Week แต่ละร้านสามารถเลือกที่จะบริจาคให้กับองค์กรใดก็ได้ตามสะดวกหรือเห็นว่าเหมาะสม แต่ยังคงไว้ซึ่งคอนเซปต์เดิมคือ “บริจาคเงินอย่างน้อย 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อการขาย Negroni 1 แก้ว”
ในต่างประเทศปี 2013 – 2014 ความร่วมมือของบรรดาบาร์ต่าง ๆ เติบโตอย่างมาก จากปี 2013 ประมาณ 100 บาร์ ขณะที่ปี 2014 เพิ่มเป็นประมาณ 1,200 บาร์รอบโลก และยอดบริจาคมีมูลคาถึง 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปี 2014 ประเทศไทย ไม่ได้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีเหตุจำเป็นบางประการ กระทั่งปี 2015 ประเทศไทยเข้าร่วมโปรแกรมอย่างเป็นทางการ โดยมีบาร์ประมาณ 10 กว่าบาร์เข้าร่วมโปรแกรม จากจำนวนบาร์ทั้งหมดทั่วโลกประมาณ 3,500 กว่าบาร์ พร้อมยอดเงินบริจาคประมาณ 320,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ปี 2016 Negroni Week ในวันที่ 6-12 มิถุนายนนี้ มีรายงานว่ามีบาร์และร้านอาหารทั่วโลกเข้าร่วมรายการประมาณ 6,000 แห่ง รวมทั้งประเทศไทยซึ่งมีบาร์และร้านอาหารเข้าร่วมการกุศลนี้ประมาณ 40 กว่าแห่ง และมีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาที่ The House on Sathorn โรงแรม W Hotel Bangkok
Negroni กำเนิดครั้งแรกในช่วงปี 1999 – 20 โดยเคานท์ กามิลโล เนโกรนี (Count Camillo Negroni) ผู้ชื่นชอบค็อกเทล วันหนึ่งท่านเคานท์ไปเยือนร้านกาฟเฟ กาโซนี (Caffè Casoni) หรือชื่อเดิม Caffè Giacosa ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นกาฟเฟ กาวัลลี (Caffè Cavalli) อยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ปกติท่านจะชอบค็อกเทลชื่ออเมริกาโน (Americano) แต่วันนั้นเกิดเบื่อขึ้นมา จึงบอกบาร์เทนเดอร์ชื่อฟอสโก สการ์เซลลี (Fosco Scarselli) ให้ช่วยทำค็อกเทลใหม่ ๆ ให้สักแก้ว แต่ต้องมีแคแลกเตอร์ของ Americano อยู่ด้วยบาร์เทนเดอร์จึงปรับแต่งด้วยการใส่จิน (Gin) และส้มลงไป 1 ชิ้นลงไป ท่านเคานท์ได้ชิมถึงยกหัวแม่โป้งชมว่าอร่อยมากอ้ายน้อง !!!!
จากนั้นไม่นาน Negroni ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ครอบครัว Negroni มองเห็นช่องทางทำธุรกิจ จึงก่อตั้ง Negroni Distillerie ในเมืองเตรวิโซ (Treviso) แคว้นเวเนโต (Veneto) ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ผลิตเครื่องดื่มพร้อมดื่มภายใต้ชื่อ Antico Negroni 1919
ไม่ควรพลาดสำหรับ Negroni Week ดื่มเพื่อการกุศล วันที่ 6-12 มิถุนายนนี้
ไปดูสูตรการทำ Cocktail NEGRONI จาก บาร์เทนเดอร์ระดับแนวหน้าได้เลย
.
RECOMMENDED CONTENT
ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีผลงานเพลงสุดปังให้แฟน ๆ ได้ฟังตลอดทั้งปี 2021 จริง ๆ สำหรับศิลปินแร็ปเปอร์วายร้ายอย่าง “URBOYTJ” (ยัวร์บอยทีเจ) ที่ปีนี้เป็นปีทองของหนุ่มทีเจจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะเพลงไหนก็ปังดังเปรี้ยงปร้าง