Ciudad de México (CDMX) หรือที่รู้จักกันในนาม “เม็กซิโกซิตี” เมืองหลวงของเม็กซิโก จุดมุ่งหมายทางการท่องเที่ยว และมหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นไม่กี่เมืองในโลกที่สามารถนำเสนอความหลากหลายในทุกรายละเอียด ในทุกๆ ปี เม็กซิโกซิตีเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 12.5 ล้านคนต่อปีให้เข้าไปสัมผัสเมืองหลวงอันเก่าแก่ที่ยังคงมีคุณค่าและชีวิตชีวาจากวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งได้รับอิทธิพลของยุคก่อนอารยธรรมสเปน ยุคล่าอาณานิคม และยุคสมัยใหม่ ที่ต่อเนื่องยาวนาน และแน่นอน สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย การเดินทาง มักเริ่มต้นที่อาหารเสมอ
อาหารการกินคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
เม็กซิโกซิตี เปรียบเหมือนสวรรค์บนดินของเหล่าผู้รักอาหาร เป็นเมืองหลวงที่รวมเอาเมนูอาหารจากทั้ง50 แหล่งสำคัญทั่วประเทศเม็กซิโก และต่างประเทศมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชิม ตั้งแต่แผงอาหารริมถนน จนถึงร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสุดหรู สำหรับเม็กซิโกซิตีแล้ว อาหารคือหัวใจ และจิตวิญญาณของที่นี่ โดยอาหารเม็กซิกัน ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2553
จากนั้นเป็นต้นมา อาหารเม็กซิกันจึงเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับโลก และได้รับการขนานนามจากสื่อต่างชาติอย่างหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ค ไทมส์ และ ฟอร์บส์ ว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเม็กซิโกซิตี้ ปัจจุบัน อาหารเม็กซิกันได้แผ่ความนิยมออกไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ไม่ว่าจะจากร้านอาหารเม็กซิกัน คาเฟ่สไตล์เม็กซิกัน หรือแม้แต่ฟู้ดทรัคที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อาหารอย่างทาโก้ กัวคาโมเล่ ฟาฮิต้า ไปจนถึงเครื่องดื่มอย่างมาการิต้า กลายมาเป็นคำศัพท์คุ้นหูที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในกรุงเทพฯ
ความนิยมในอาหารเม็กซิกันในประเทศไทยอาจจะไม่ใช่เรื่องน่าตกใจนัก เพราะทั้งสองประเทศมีทัศนคติเกี่ยวกับอาหารที่คล้ายคลึงกัน ทั้งไทยและเม็กซิโกต่างมองว่าอาหารเป็นดั่งมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของประเทศ การจะทำความเข้าใจวัฒนธรรมอาหารเม็กซิกันนั้น จะต้องเริ่มจากการมองย้อนไปยังขนมธรรมเนียมที่ส่งต่อกันมาหลายศตวรรษ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่ถูกเล่าขานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ค้นพบความตระการตาของวัฒนธรรมอาหารในเม็กซิโกซิตี
เม็กซิโกซิตีมีร้านอาหารมากถึง 51,000 ร้าน โดยนับเป็นร้านขายทาโก้และตอตีญ่ากว่าหนึ่งหมื่นร้าน นอกจากทาโก้และกัวคาโมเล่ที่โด่งดัง นักท่องเที่ยวยังสามารถลองลิ้มรสอาหารเม็กซิกันรสชาดจัดจ้านอื่นๆ ที่อาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนได้ทั่วเมืองด้วย เช่น ซุปตอตีญ่า ไก่งวงอบซอสโมเล่ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายหน่อย อาจะลองลิ้มรสอาหารเม็กซิกันดั้งเดิมที่มีรสสัมผัส กลิ่น และรสชาดอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นหนอนมาไกว มด หรือตั๊กแตนทอด สำหรับผู้ที่ไม่กล้าพอ อาจเริ่มต้นด้วยเม็กซิกันซัลซ่า เครื่องจิ้มสำหรับรับประทานคู่กับอาหารเม็กซิกัน ที่ช่วยเพิ่มรสชาดกลมกล่อมให้กับอาหารทุกจาน
และห้ามพลาดโปรแกรมเดินเที่ยวตลาด ซาน ฮวน (San Juan Market) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพื่อลิ้มลองประสบการณ์การชิมอาหารที่น่าจดจำ ตลาดซาน ฮวน เป็นจุดมุ่งหมายของทั้งนักท่องเที่ยว และชาวเม็กซิกันพื้นเมืองในการจับจ่ายทั้งของสดและอาหารสำเร็จพร้อมรับประทาน ทั้งยังเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอีกด้วย โดยอาหารที่ขึ้นชื่อที่นี่มีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นตอตีญ่าทำสดร้อนๆ ไปจนถึงชีสโฮมเมดจากทั่วประเทศ
“Pujol Quintonil”
“Biko”
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการรับประทานอาหารแบบไฟน์ ไดน์นิ่ง อย่าลืมแวะไปชิมอาหารในร้านอาหารชื่อดังในย่าน Polanco ไม่ว่าจะเป็นร้าน Pujol Quintonil หรือ Biko ทีได้รับการยกย่องให้ติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ร้านอาหารส่วนใหญ่ในย่านนี้เสิร์ฟอาหารเม็กซิกันที่มีการพลิกแพลงเล็กน้อย เพื่อจับคู่กับไวน์รสเลิศที่เข้ากับอาหารแต่ละจานได้เป็นอย่างดี เรียกว่าหากคุณเป็นคนรักอาหารแล้ว เม็กซิโกซิตี คือจุดมุ่งหมายที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางของคุณเลยทีเดียว
CDMX หรือ เม็กซิโกซิตี เป็นจุดหมายทางการท่องเที่ยวสำคัญที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 12.5 ล้านคนต่อปี โดยมีกองทุนส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งเม็กซิโกซิตี (Fondo Mixto de Promoción Turística del Distrito Federal) ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเม็กซิโกซิตี ได้ทาง: facebook.com/MexicoCityLive และทวิตเตอร์ @MexicoCityLive
RECOMMENDED CONTENT
ย้อนรอยสู่จุดกำเนิดแห่งดนตรีเทคโนกับผลงาน Black to Techno โดยผู้กำกับฯ หญิงชาวอังกฤษ - ไนจีเรียน Jenn Nkiru ผู้จะพาเราไปสัมผัสวัฒนธรรมดนตรีเทคโนจากจุดกำเนิดที่เมืองดีทรอยท์ สหรัฐอเมริกา จากดนตรีกระแสรองสู่ความนิยมสุดขีดช่วงปลายยุค 1980s นำไปสู่ดนตรีที่สะท้อนต่อสู้เพื่อบทบาทในสังคมและเสรีภาพของกลุ่มคนผิวสีในดีทรอยท์