fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#TastingNote | เรียน Single Malt Scotch Whisky by ‘ปาล์ม-ศุภวิชญ์’ บาร์เทนเดอร์ระดับโลก ทั้งความรู้ และ Cocktail Recipe ที่คุณทำได้เองที่บ้าน
date : 16.ธันวาคม.2021 tag :

วันนี้เราชวน คุณปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์เทนเดอร์ระดับโลก อดีตแชมป์ Worldclass ที่ตอนนี้รับตำแหน่ง Beverage Director ของ Watermelon Group ซึ่งดูแลร้านอาหารและบาร์ชั้นนำระดับ Fine Dining มาพูดคุยขอเทคนิคกันหน่อย หลังจากที่เรา LockDown กันมาหลายเดือน ให้หลายๆคนได้ไอเดียและสามารถดื่มได้อย่างมีความรู้ ตอบโจทย์ Trend New Normal ที่คุณไม่จำเป็นต้องไปบาร์หรูๆ แต่สามารถเลือกซื้อ และลองวิธีต่างๆได้ด้วยตัวเอง

และในวันนี้ทางคุณปาล์มก็ได้นำซิงเกิลมอลต์ตัวโปรด จากเขต Speyside ประเทศสก็อตแลนด์ ที่มาพร้อมรางวัลการันตีมากมายอย่างรางวัล Double Gold จาก World Spirit Competition, San Francisco มาเป็นตัวอย่างในการแนะนำการดื่ม การเลือกซื้อ การทำค็อกเทล รวมถึงเมนูอาหารแนะนำที่เหมาะทานคู่กับ The Singleton มาให้เป็นแนวทาง

Single Malt Scotch Whisky

Single Malt Scotch Whisky เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ได้รับการยกย่องให้เป็นเครื่องดื่มระดับพรีเมียมแบบดั้งเดิมของประเทศสก็อตแลนด์ จนมาเป็นกระแสหลัก และเป็นที่นิยมทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน การใส่ใจรายละเอียดของการผลิต และความพิเศษของ Single Malt Scotch Whisky ที่ทำจากข้าวบาร์เลย์มอลต์เพียงชนิดเดียว กลั่นจากโรงกลั่นโรงเดียว ใช้ทั้งแรงงาน กรรมวิธีเฉพาะทาง และเวลาในการการหมัก กลั่น บ่มในถังไม้โอ๊คตามจำนวนปีต่างๆ ซึ่งจะทำให้ได้บุคลิกหรือคาร์แร็คเตอร์ของ Single Malt Scotch Whisky ที่แตกต่างกันไป ใครที่ชื่นชอบและหลงไหลในความคราฟต์และการดื่มเป็นต้องเทใจให้กับศิลปะที่น่าหลงไหลของการดื่ม Single Malt Scotch Whisky

Trend การดื่ม Single Malt Scotch Whisky

วัฒนธรรมการดื่ม Single Malt นั้นเป็นเครื่องดื่ม Classic ที่อยู่ในภาพจำของใครหลายๆคน ซึ่งก็เริ่มเป็นเทรนด์ในบ้านเรามาสักพัก เราจะเห็นภาพจำในภาพยนตร์ Hollywood เวลากลุ่มสุภาพบุรุษนั้นต้องจิบ Single Malt พูดคุยเรื่องธุรกิจ หรือในบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เป็นเครื่องดื่มต้อนรับการประชุมธุรกิจ  หรือจะใช้ในงานสังสรรค์  ทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่ดูมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากเครื่องดื่มประเภทอื่น

“อย่างวิสกี้ ส่วนตัวก็ชอบ Single Malt Scotch Whisky นะครับ ผมเอาไว้ดื่มกับหลังอาหารช่วยย่อย เป็น Digestive 1 อย่าง  หรือดื่มกับซิการ์ ก็เป็นภาพจำจากวัฒนธรรมที่เราเห็นมาคู่กัน รสของ Spice และควันของซิการ์ นั้นก็เข้ากันได้ แต่จริงๆ ตอนนี้ก็ดื่มได้หลากหลายโอกาสมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นก่อนอาหารเผื่อเรียกน้ำย่อย หรือคู่กับอาหาร”

“จริงๆ แล้ว Single Malt นั้นเป็นเครื่องดื่มที่เราเลือกดื่มได้ง่ายๆนะครับ เพราะทั้งดื่มได้ไม่ยาก ได้หลายโอกาส แต่ก็เป็นเครื่องดื่มที่ซับซ้อน น่าค้นหา และมีเรื่องราวมากมายให้ผู้ดื่มตามหา ทั้งรสชาติที่แตกต่างกันในแต่ละเขต ระยะเวลาการหมักบ่ม หรือการดื่มด้วยวิธีต่างๆ”

รู้จัก Single Malt Scotch Whisky จากเขตต่างๆ

พื้นฐานคนไทยส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับ ‘Blended Scotch Whisky’ หรือวิสกี้ผสมจากสกอตแลนด์เป็นอย่างดี เป็นการผสมผสานผลผลิตของหลายหลายโรงกลั่นเข้าด้วยกัน ส่วน ‘Single Malt Scotch Whisky’ คือผลผลิตจากโรงกลั่นเดียว ที่ทำจากข้าวบาร์เลย์มอลต์เพียงชนิดเดียว  จะทำให้ได้บุคลิกของ Single Malt Scotch Whisky ที่ค่อนข้างชัดไปทางใดทางหนึ่ง รสชาติที่ได้ก็จะนำเสนอคาแรกเตอร์ของภูมิภาคนั้นๆออกมา

Speyside

ในบรรดาภูมิภาคที่มีการผลิต Single Malt Scotch Whisky ของสก๊อตแลนด์ Speyside ถือเป็นเขตที่มีชื่อเสียง มีการผลิตซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้ที่เป็นที่นิยมที่สุด เพราะเป็นเขตที่เต็มไปด้วยโรงกลั่นคุณภาพสูง เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของดิน อากาศ และที่สำคัญคือมีแม่น้ำ Spey ตัดกลางภูเขา ทำให้มีน้ำที่บริสุทธิ์และคุณภาพสูงจากแม่น้ำ Spey ที่เป็นหัวใจหลักของการผลิตวิสกี้ที่ดีที่สุดของโลก ดังนั้น Single Malt Scotch Whisky ที่มาจากเขตนี้จะมีรสชาติครบรส โดดเด่น ดื่มง่าย และมีจุดเด่นคือความฟรุ๊ตตี้ ของแอปเปิ้ลเขียว ติดวานิลลาเล็กน้อย จึงทำให้มีสเน่ห์ไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับนักชิมซิงเกิ้ลมอลต์หน้าใหม่ที่อยากเริ่มค้นหาความชอบของตัวเอง และผู้นิยมซิงเกิ้ลมอลต์คุณภาพสูง โดยล่าสุดซิงเกิ้ลมอลต์จากเขต Speyside ที่เป็นที่รู้จัก และนิยมไปทั่วโลก ซึ่งหลายๆ โรงกลั่นในเขตนี้ ก็ได้รับรางวัลระดับโลก เช่น รางวัล Double Gold (The Singleton) จาก World Spirit Competition, San Francisco มาการันตีโปรไฟล์อีกด้วย

Highland
ถ้าเราไปดูเขตของสก๊อตแลนด์ อย่าง Highland ตามชื่อก็จะนึกถึงภูเขาอากาศเย็นๆ ต้นไม้เยอะกลิ่นของใบไม้ ก็จะมีคาแรคเตอร์ที่เข้มข้นมากขึ้น ที่นี่ถือเขตยอดฮิตของวิสกี้จาก Scotland โปรไฟล์นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้ Floral Aromas และโอ๊ค แต่เป็น Single Malt Scotch Whisky ที่ดื่มง่าย

Lowland
ให้นึกภาพทุ่งหญ้าเขียว มีดอกไม้ ที่นี่เป็นเขตที่มีโรงกลั่นวิสกี้อยู่เหลือเพียง 2 แห่งเท่านั้น แต่เป็น Single Malt Scotch Whisky ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นของหญ้า ชินนาม่อน และ Honeysuckle หรือดอกสายน้ำผึ้ง

Islay
ดินแดนเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตก ของสกอตแลนด์ที่เต็มไปด้วยลมจากทะเล และกลิ่นไอเกลือ ที่แน่นอนเขตที่ลมทะเลแรงเราจะได้รสชาติ Single Malt Scotch Whisky ที่มีกลิ่นของเกลือ และควันที่ฟุ้งอยู่เต็มจมูกและกระพุ้งแก้ม

Campbeltown
Campbeltown นั้นเมื่อก่อนมีโรงกลั่นถึง 34 โรง แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 3 โรงกลั่นเท่านั้น

วิธีการเลือก Single Malt

ในเมื่อ Single Malt Whisky มีหลากหลายสไตล์ เราถามคุณปาล์มว่า แล้วถ้าคนไม่เคยดื่มหรือมีประสบการณ์ไม่เยอะควรเลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง “อย่างแรกผู้ดื่มต้องเข้าใจคาแรกเตอร์ตัวเองก่อนว่าชอบอะไร รสชาติแบบไหน แล้วตัวผู้ดื่มเองเปิดใจแค่ไหน?”

“บางคนอาจจะไม่ได้อยากแอดเวนเจอร์มาก เราอาจจะเลือกตัวที่เราเคยดื่มแล้วชอบหนึ่งตัวแล้วลองอีกโรงกลั่นข้างๆ ว่าเราชอบไหมแตกต่างกันอย่างไร แล้วลองเปรียบเทียบสไตล์ในเขตเดียวกัน” คุณปาล์มเน้นย้ำว่าอยากให้ลองเปิดใจในรสชาติต่างๆ ในภูมิภาคอื่นด้วย เช่นถ้าเราไปเจอกลิ่นสโมค เราชอบไหม? เจอกลิ่นวนิลา เราชอบไหม? “เราต้องชาเลนจ์ตัวเองในการสนุกกับมัน”

Single Malt 12, 15 หรือ 18 ปี?

รวมถึง Age Statement ที่คุณสามารถสังเกตได้ที่ฉลากข้างขวด เช่นตัวเลข 12, 15 หรือ 18 นั้นก็คือระยะเวลาในการบ่ม ถ้าคุณเริ่มหัดดื่มหรือไม่มั่นใจในการเลือกซื้อ Single Malt Scotch Whisky สามารถเริ่มจากจำนวนปีต่ำก่อน แล้วค่อยๆขยับขึ้นมา ซึ่งจำนวนปีที่สูงขึ้นก็มักจะมีบอดี้ที่หนักขึ้นมา และยังสามารถเลือกจากแหล่งผลิตในแต่ละเขต เพราะสภาพแวดแล้วของแต่ละเขต จะให้เอกลักษณ์ รสชาติ กลิ่นสัมผัสที่ต่างกันอย่างชัดเจน

นอกจากแหล่งผลิตแล้วรางวัลการันตีจากการแข่งขันระดับโลก อย่างรางวัล World Spirit Award Competition ก็เป็นอีกตัวช่วยในการตัดสินใจเลือก Single Malt Scotch Whisky ได้เช่นกัน เพราะเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก

วิธีการดื่ม Single Malt Scotch Whisky

1. Neat –
การดื่มเพียว ไม่ใส่น้ำแข็งแบบสกอตแลนด์ เพื่อรับรู้รสชาติและเข้าใจถึงสิ่งที่โรงกลั่นต้องการสื่อสารผ่านสัมผัสของ Single Malt Scotch Whisky โดยตรง

2. On the Rock –
การดื่มแบบใส่กับน้ำแข็งก้อนใหญ่สักก้อน ตัวน้ำแข็งจะค่อยๆ ละลาย รสชาติของวิสกี้ก็ค่อยๆ พัฒนาไปอีกขั้น  วิธีนี้คุณสามารถเอนจอยโมเมนท์ของซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ ขวดนั้นได้หลากหลายขึ้น ตั้งแต่เริ่มใส่น้ำแข็ง รสชาติจะค่อยๆ ถูกปล่อยออกมา อุณภูมิที่เปลี่ยนไปขณะอยู่ในแก้ว

3. Drop Water –
หยดน้ำลงไปสัก 1 – 2 หยด จะทำให้คุณจับรสชาติของซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ ได้ดีขึ้น เพราะน้ำเพียงนิดเดียวสามารถเปิดกลิ่นให้ตัวคาแรกเตอร์ออกมาชัดขึ้นให้คุณจะจับ Nose ได้ชัดเจน ทั้งยังเปิดรสชาติของวิสกี้ให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประสาทการรับรสของเราทำงานได้ง่ายขึ้น

4. การดื่มแบบค็อกเทล –
เครื่องดื่มที่มีรสชาติชัดเจนอย่าง Single Malt Scotch Whisky ก็สามารถนำมาสร้างเป็นค็อกเทลได้ไม่ยาก คุณปาล์มบอกว่าลองเริ่มจากการผสมกับโซดาก่อนก็ได้ แล้วฝานผิวส้มหรือมะนาวลงไปเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมมากขึ้น แบบ Highball Style หรืออาจจะผสมกับ Ginger Beer ก็ได้ เพราะตัวขิงมีความเผ็ดร้อนก็เข้ากับวิสกี้ได้ดี

แต่ถ้าอยากดื่มแบบที่ได้รสชาติแตกต่าง คุณปาล์มแนะนำให้ใส่ Vermouth ลงไปนิดนึง แค่นี้ก็จะได้รสชาติที่ลึก ซับซ้อนขึ้นไปอีก หรือจะดื่มแบบค็อกเทล Plus 2 คือการผสม Single Malt Scotch Whisky + Still + Fizz ด้วย Concept นี้ที่จะช่วยเป็นแนวทางในการคิดค็อกเทลทำเองได้ที่บ้านง่ายๆ ก็ผ่อนคลายไปอีกแบบ


BARTENDER’S RECIPES AND FOOD PAIRING AT HOME

เทรนด์การดื่มที่บ้านนั้นก็เป็นที่นิยมขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะนอกจากสถานการณ์ในปัจจุบัน การดื่มที่บ้านยังให้คุณเรียนรู้สูตรต่างๆ และทดลองดื่มคู่กับอาหารเพื่อเพิ่มอรรถรส โดยที่วันนี้คุณปาล์มจะมาแนะนำวิธีการทำค็อกเทลแบบ Plus2 ซึ่งเป็นการผสม Single Malt Scotch Whisky + Still (น้ำผลไม้) + Fizz (เบสโซดา) ในอัตราส่วน 1:1:1 จะได้ค็อกเทลแบบใหม่ที่เป็น Long Drink ดื่มง่าย และสามารถนำส่วนผสมในครัวมาสร้างสรรค์ค็อกเทลใหม่ๆ ได้ง่ายๆ สำหรับดื่มชิลล์ที่บ้าน

Cocktail Name : “ORCHARD”
เป็นค็อกเทลสำหรับสายที่ชอบเครื่องดื่มสดชื่น หอมผลไม้ของแอปเปิ้ล และได้ความซ่า สดชื่นจากส่วนผสมของโซดา ความฟรุตตี้จาก Single Malt Scotch Whisky ที่เราเลือก นำมาผสมเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รสชาติออกมาอย่างลงตัว

ส่วนผสม :
– 50ml The Singleton 12 Years
50ml น้ำแอปเปิ้ล 
– 50ml โซดา
ตกแต่งด้วยใบมิ้นต์

Paring Idea : แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล หรือ ฟรุ๊ตเค้ก

Cocktail Name : RIVERSIDE”
ค๊อกเทลแบบคลาสสิก ที่บุคลิกแบบขรึมๆ เหมาะกับวันสบายๆ รสชาติ Complex สามารถชิวได้ แต่ไม่ชอบเครื่องดื่มหวาน

ใช้ส่วนผสม :
– 50ml The Singleton 12 Years
– 50ml ชาเขียวเย็น คุณสามารถใช้ชาเขียวที่ชงใหม่ หรือถ้าไม่สะดวกสามารถซื้อชาเขียวขวดตามซูเปอร์มาร์เก็ตได้ แต่อาจจะเลือกรสชาติที่ไม่หวาน
– 50ml Ginger Ale
– ตกแต่งด้วยใบไทม์

Paring Idea : แซลม่อน ซาชิมิ หรือ พาม่าแฮม 

______________

 

Drink Better Not More !!!

อาจจะดีกว่าไหมถ้าผู้ดื่ม ดื่มอย่างมีความรู้ ความเข้าใจในองค์ความรู้ของวัฒนธรรม ข้อมูลของสินค้า และพูดถึงสิ่งนั้นด้วยความเข้าใจ รับรองว่าถ้าคุณมีความรู้มากขึ้น จะทำให้การกินดื่มมีคุณภาพ มาพร้อมกับความสนุกและความหลากหลายมากขึ้นแน่นอน

“วัฒนธรรมการดื่มและกินในบ้านเราสุนกมาก มีความหลากหลายในแต่ละภูมิภาค ถ้าเราศึกษาลงลึกไปจริงๆ จะรู้ได้เลยว่าบ้านเรามีความพร้อมทุกๆ อย่าง มีวัฒนธรรมย่อยของเครื่องดื่ม และโอกาสต่างๆ ของพื้นถิ่นที่น่าตื่นเต้นมาก”

คุณปาล์มย้ำถึงความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมในบ้านเรา ก่อนทิ้งท้ายถึงผู้ดื่มให้ดื่มอย่างมีสติ “ผมว่าคนเรามักติดภาพการดื่ม คือการเมาล้มพับ แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือการดื่มเราต้องเข้าใจขอบเขต ต้องมีความรับผิดชอบในสังคมด้วยครับ”

“เวลาผมทำงาน ถ้าผมเห็นลูกค้าว่า ดื่มแก้วเดียวแล้วจบ ผมก็จะไม่เสริฟต่อให้เขาครับ เราต่างได้รับการฝึกสอนมาให้มีความรับผิดชอบและดูแลลูกค้า และเราหวังว่าจะสามารถพบกันได้เร็วๆนี้ครับ”

 

RECOMMENDED CONTENT

30.เมษายน.2021