fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#TastingNote – อิ่มพุงไปกับอาหารไทยแซ่บๆ สไตล์สตรีทฟู้ดจากวัตถุดิบในท้องถิ่น ที่ The Eatery at Siwilai City Club 
date : 17.มกราคม.2020 tag :

ในยุคหนึ่งวงการอาหารอาจตื่นเต้นกับบรรดาวัตถุดิบนำเข้าต่างๆ เพราะความเชื่อที่ว่า ‘ของอิมพอร์ตย่อมดี’ นอกจากราคาวัตถุดิบที่สูงจะทำให้ราคาอาหารต่อจานสูงขึ้นอีกโดยอัตโนมัติ เมื่อคนขายบอกให้เชื่ออย่างนั้น วัตถุดิบอิมพอร์ตเลยกลายเป็นจุดขายให้กับร้านอาหารได้เป็นอย่างดี ผู้บริโภคอย่างเราก็อ่ะ… ใครว่าดี บุ๋มก็ว่าดี ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปก็ได้

แต่เมื่อโลกเปลี่ยน เทรนด์ของอาหารก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อคนกลุ่มหนึ่งหันกลับมามองหาวัตถุดิบอะไรก็ตามท่ีเรามีในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของมัน นำมันมาเพิ่มมูลค่าให้เทียบเท่าหรืออาจจะมากกว่าวัตถุดิบนำเข้าเสียด้วยซ้ำ 

วันนี้เรามาชิมเมนูใหม่ล่าสุดที่ The Eatery at Siwilai City Club เขานำวัตถุดิบท้องถิ่นของดีของเด็ดจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย มาครีเอทเป็นเมนูอาหารไทยอบอุ่นใจรสชาติจี๊ดจ๊าด สไตล์สตรีทฟู้ด (Street food) แต่ทวิสต์ให้เก๋กว่านั้น แบบที่ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน รับรองเลยว่ากินง่าย เสพง่าย รสชาติเป็นมิตร! 

เมนูแรกเป็นออร์เดิร์ฟเคี้ยวเล่นๆ Pickled Muchroom Fries เห็ดพอร์โตเบลโล่ (Portobello) ที่เชฟได้มาจากจังหวัดโคราช ใช้เฉพาะส่วนขาเห็ดอวบอูม นำไปดองในน้ำกระเทียมและเครื่องเทศต่างๆ ชุบแป้งทอดกรอบกรุบ กินคู่กับครีมซอสรสเปรี้ยวอ่อนๆ กรอบนอก กัดเข้าไปเจอเห็ดฉ่ำๆ ไม่เหนียวเลย ความเห็ดทอดอ่ะนะ ยังไงก็อร่อย

จานต่อมาเป็น Chicken Meatballs ลูกชิ้นไก่สับคลุกกับพริกขี้หนูสดและกระเทียม นำมาย่างในไสตล์อิซากายะแบบญี่ปุ่น แต่ตอนย่างทาด้วยซอสแจ่วแบบอีสาน คือดีงาม 

จานนี้ทำเราตายสงบมาก Thai Style Salmon Tartar มันคือเนื้อปลาเเซมอนดิบหั่นเป็นเต๋าเล็กๆ เอาไปคลุกเคล้าด้วยซอสสมุนไพรต่างๆ แล้วใส่น้ำปลาร้าลงไปคลุกด้วย บีบมะนาวหน่อยสะใจ กินคู่กับพริกขี้หนู ผักสดและหนังปลากรอบ นัวๆ ไปเลยจ้า

ตามมาติดๆ กับ Ox Tongue (Sakon Nakhon) with Red Holy Basil ผัดกะเพราลิ้นวัว มันไม่ใช่วัวธรรมดา แต่เป็นวัวมาจากสกลนคร! เชฟนำลิ้นวัวไปตุ๋นกับสมุนไพรจนนุ่มแล้วจับไปผัดกะเพรา จานนี้รสชาติจัดจ้าน ค่อนข้างเผ็ดเลยแหละ หอมกลิ่นพริก กระเทียม และรากผักชี กินกับใบกะเพรากรอบ หอมเจียว และข้าวสวยร้อนๆ 

SIWILAI Dan-Dan Noodles จานนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งที่เส้นทำจากแป้งข้าวสาลี นำไปผัดกับน้ำมันพริกเผาและซีอิ๊ว ราดหน้าด้วยหมูสามชั้นที่เอาไปคั่วจนเปื่อยนุ่ม รสชาติเหมือนหมูหวาน เบาๆ ไม่เผ็ด เวลากินก็คลุกๆ เส้นกับหน้าเข้ากั๊นเข้ากัน

เมนูปลา Fillet สไตล์ไทย Cobia Fillet Grilled on Betel Leaf ได้ปลาช่อนทะเลจากจังหวัดพังงาหนึ่งจานที่เราประทับใจมาก เพราะปกติแล้วปลาช่อนทะเลที่เคยกินบางร้านจะคาว หรือมีกลิ่นแรง แต่ปลาช่อนทะเลจานนี้ไม่คาวเลย เนื้อเเน่น ไม่ถึงกับเหนียว ตัวปลานำไปจี่ไฟให้หนังกรอบ ซึ่งเมนูนี้ส่วนใหญ่เรามักจะเจอกับปลาที่โรยเกลือมาจนเค็ม ครีมซอสก็เค็ม แต่จานนี้เนื้อปลาไม่เค็ม ทำให้กินกับซอสไวน์ขาวที่นำไปผสมกับสมุนไพรอย่างตระไคร้ มะกรูด ข่า แล้วออกมาพอดีลงตัว กินคู่กับใบชะพลูย่างไฟหอมๆ 

และจานสุดท้ายในดวงใจ ข้าน้อยขอพลีชีพให้จานนี้เลย Jasmine Wagyu Beef Rice Bowl ข้าวหน้าเนื้อ ใจเสือ เอ้ย! ไม่ใช่ ข้าวหน้าเนื้อวากิว ซึ่งเนื้อนี้ก็อิมพอร์ตจากจังหวัดขอนแก่นบ้านเฮานี่เอง นำไปย่างหอมกรุบ เนื้อนุ่มกำลังดี และที่บอกว่ายอมพลีชีพก็เพราะว่าเชฟทำเหมือนเป็นข้าวหน้าเนื้อแบบญี่ปุ่นๆ แต่กินแบบไทยๆ มีป่นเห็ด (หรือที่บางคนเรียกว่า แจ่วเห็ด เป็นน้ำพริกเห็ดแบบอีสาน) ใส่น้ำปลาร้าหอมฉุยวางมาเป็นเครื่องเคียง กินคู่กับไข่ดองน้ำปลาหนึบหนับ และหอมเจียว พริกขี้หนู ผักชี กินกับข้าวสวยร้อนๆ อีก เอาไป 10 ดาวเลยจ้ะแม่ ปลาร้าเยียวยาทุกสิ่งจริงๆ ฮรืออ

ส่วนของหวานก็ไม่น้อยหน้า เขามีเมนูใหม่ที่นำวัตถุดิบโลคัลมาใช้เหมือนกัน ซึ่งเชฟมีไอเดียอยากดึงความทรงจำของขนมที่เราเคยกินตอนเด็กๆ มีความอบอุ่น และมีเรื่องราวของแต่ละท้องถิ่นอยู่ในนั้น อย่าง Phu rua Macadamia Chocolate Flourless Cake ถั่วแมคคาดาเมียจากอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย เชฟนำมาทำเป็นเค้กช็อกโกแล็ตแบบใช้แป้งน้อย และที่เลิฟมากคือมันหวานน้อยด้วย ซึ่งตัวช็อกโกแลตก็มาจากจังหวัดจันทบุรี เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมรสนม และเมอแรงค์คาราเมล 

ขนมจานสุดท้าย เป็นของดีจากภูเก็ต นั่นก็คือสับปะรด Tossed Pineapple with Rum and Fried Coated Kalamae สับปะรดภูเก็ต นำไปเคลือบเหล้ารัมกับน้ำตาลที่เคี่ยวจนไหม้ แล้วนำไปย่างให้หอมอีกที เนื้อสับปะรดที่ได้ยิ่งหวาน กรอบ ฉ่ำไปอีก เสิร์ฟมากับกาละแมที่นำไปคลุกมะพร้าวแล้วทอด อารมณ์เหมือนข้าวเม่าทอด โรยด้วยข้าวเม่ากรอบ 2 สีที่มาจากจังหวัดสุรินทร์ด้วย 

ไปชิมเมนูใหม่จากวัตถุดิบดีๆ ทั่วไทยกันได้ที่ : The Eatery at Siwilai City Club ชั้น 5 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี (BTS เพลินจิต / ชิดลม)

เปิดบริการทุกวัน เวลา 11:00 – 00:00 น.

โทร. 02-160-5631

Facebook : https://www.facebook.com/siwilaicityclub/

RECOMMENDED CONTENT

28.ธันวาคม.2017

หลายสื่อยกให้ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เป็น ‘นัก […]