เหมือนเป็นเรื่องที่คอเหล้าทุกคนตั้งตาคอย กับงานประกาศรางวัลสุดยอดแห่งวิสกี้ – World Whiskies Awards 2018 รางวัลแห่งศักดิ์ศรีของเหล่าผู้ผลิตวิสกี้จากทั่วทุกมุมโลก กับการประกาศว่าใครจะได้รางวัลที่สุดในด้านต่างๆ ไป โดยงานประกาศรางวัลนี้จัดขึ้นโดยนิตยสาร Whisky คัดเลือกวิสกี้มากกว่า 1,000 แบรนด์ เพื่อรับรางวัลในสองสาขาใหญ่อย่าง Taste Winner และ Design Winner
อธิบายกันอย่างคร่าวๆ ก่อนว่า รางวัลนี้เปรียบได้กับรางวัลที่มอบให้กับเหล่าวิสกี้ ในฐานะของงานศิลปะที่ออกแบบได้ทั้งรสชาติและหน้าตา ดังนั้นการมีรางวัลสาขาใหญ่อย่าง Design Winner นั้นจึงให้รางวัลที่รูปลักษณ์ภายนอกที่น่าสนใจ ทั้งเรื่อง Brand Design, Label Design หรือจะเป็น Limited Edition Design ก็มี
ส่วนอีกสาขาอย่าง Taste Winner ก็แบ่งออกเป็นสาขาย่อยต่างๆ ทั้ง Blended, Blended Malt, Bourbon, Grain, Single Malt, Wheat และอื่นๆ อีกมากมาย
ความน่าสนใจก็คือ รางวัล World’s Best Blended ในปีนี้ตกเป็นของ Johnnie Walker Gold Label Reserve ซึ่งเป็น Blended Whiskey ที่ไม่ได้ตั้งใจวางขายโดยเฉพาะ แล้วทำไมเหล้าที่ไม่ได้วางขายถึงได้รางวัล มันมีดีอะไรกัน?
จุดเริ่มต้นของ Johnnie Walker Gold Label Reserve คือการทำเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ยิ่งเมื่อเจอกับคำว่า Reserve ก็ยิ่งต้องร้องว้าวเข้าไปใหญ่ เพราะตอนแรกที่ทำนั้น ตั้งใจทำขายให้แบบ exclusive เฉพาะสมาชิกราชวงศ์เท่านั้น ความพิเศษมียิ่งขึ้นมากไปกว่านั้นคือการมีอยู่ของ ‘Clynelish‘ (ไคนาลิช) ซึ่งหายาก และราคาแพง เพราะเป็นการผลิตวิสกี้ในแหล่งผลิตที่ทำเคยเป็นเหมืองทองคำโดยเฉพาะ เป็นส่วนผสมหลักของ Gold Label
มากกว่านั้นคือการที่ Johnnie Walker Gold Label Reserve คือการรวมวิสกี้ที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษเอาไว้ถึง 14 ตัวเข้าด้วยกัน เหมือนกับการรวมญาติเพื่อมาร่วมด้วยช่วยกันเฉลิมฉลองให้กับเบลนด์วิสกี้ที่ดีที่สุดในโลกนี้ด้วยกันอย่างแท้จริง ผ่านการประณีตในการปรุงขึ้นมาให้ได้รสชาติอย่างที่ต้องการและเที่ยงตรงในทุกๆ ครั้งที่ผลิต
และนี่แหละคือความลับที่ทำให้ Johnnie Walker Gold Label Reserve กลายเป็นวิสกี้สุดพิเศษทั้งเรื่องราวและรางวัลที่การันตีนั่นเอง
RECOMMENDED CONTENT
แซมรู้สึกว่ายังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของแซมมากๆ แซมยังเป็นคนนึงที่แซมมองเรื่องดนตรีเป็นเรื่องของความสนุกอยู่ แซมชอบที่จะได้ทดลองเพลงต่างๆ วิธีการเขียนต่างๆ เหมือนกับดนตรีมันยังเป็นงานอดิเรกของแซมด้วย แล้วพอเราได้ออกมาทำเป็น Job ด้วยจริงๆ มันก็แฮปปี้ดี ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าศิลปินเต็มตัวได้ไหม แต่ว่าก็ทำอยู่เรื่อยๆ