คิดว่าอย่างไรก็อยากที่จะเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นที่ไปแคมป์เมื่อวานนี้ออกมา อย่างที่จะแบ่งประสบการณ์ให้กับทุกคนที่อยากรู้ได้อ่าน
View this post on Instagram
ออกตัวก่อนว่า โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบการวางของ Brand Apple อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์เรื่องการใช้งาน หรือประสบการณ์ของลูกค้าที่เข้ามาในร้านของ Apple เองก็ตาม การเอาใจใส่และการนำเสนอต่างๆที่ถูกฝึกมาอย่างดี และมีระบบขั้นตอน
แต่สิ่งที่อยากจะแชร์คือเรื่องของการไปแคมป์กับ Apple เพื่อที่จะเข้าคิวเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเข้าร้านกลุ่มแรกกับสาขาแรกในเมืองไทยของ Apple Store ที่ ICONSIAM ตั้งแต่ได้รู้ข่าวว่าจะมีการเปิดตัวร้านนี้ ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไปลองแคมป์ดู อยากรู้ว่ามันจะแค่ไหนกันเชียว เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย เมื่อก่อนที่ได้เห็นจากข่าวผ่านสื่อต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการเปิดสาขาใหม่ของ Apple Store ของที่ต่างประเทศ ก็ได้แต่ดูว่า fanboy ทั้งหลายได้ไปนั่งเฝ้า เพราะวันแรกนั้นนอกจากจะมี event ที่พิเศษกว่าปกติ คุณยังจะได้รับของที่ระลึกที่แสนพิเศษจางทาง Apple เองกลับไปบ้านด้วย โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องซื้อของสักชิ้นเลยก็ได้ จาที่ได้เห็นภาพแบบนี้หลายๆครั้ง ก็กลับกลายเหมือนเป็นหนึ่งในความฝันของ fanboy อย่างผมว่าอยากจะไปลองแคมป์งานเปิด Apple Store สักครั้งในชีวิต อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกอย่างไร และจะรู้สึกดีแบบนั้นไหม
พอใกล้ที่จะถึงวันจริงก็เกิดอาการลังเล เนื่องจากความพร้อมของร่างกายตัวเองและไม่รู้ว่าเราจะไปเจออะไรบ้าง แต่ก็ยังคิดเสมอว่าอยากที่จะไปลองให้ได้แต่อาจจะไปใกล้เช้าวันที่ 10 หน่อย โดยส่วนตัวไม่ได้หวังว่าจะมีใครมาช่วยจัดคิวหรือว่าทาง Apple จะมาดูแลเราแค่ไหน พวกคนที่มาแคมป์อาจจะต้องดูแลกันเอง มีความเชื่อเล็กๆว่า fanboy ของ Apple จะต้องไม่ทิ้งกัน
พอมาถึงในวันที่เปิดตัวของห้าง ICONSIAM ก็ได้ไปลองเดินดูในร้านที่ทางห้างอยากให้เปิดให้กับลูกค้ากลุ่มแรกที่เชิญมาในงานเปิดตัวของห้าง ได้เห็นทุกซอกทุกมุมและก็บอกกับตัวเองว่าพรุ่งนี้วันเปิดตัวร้าน มันจะต้องสุดยอดมากแน่ๆเลย ผมกับน้องนิกส์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผม ได้มีการนักแนะะกันผ่านสเตตัสในเฟสบุคว่าอยากจะลองไปแคมป์ ก็ได้เจอกันที่ห้างในวันนั้น เราสองคนตัดสินใจว่าอยากจะแค่เดินไปดูแถวว่าถูกจัดที่ไหนอะไรอย่างไร ผมได้ข่าวผ่านมาจากน้องมิตรที่เป็นลูกศิษย์อีกคนว่า มีการจัดที่ให้แคมป์ในบริเวรของโรงแรม Millenium Hilton ที่อยู่ใกล้ๆ พอเดินไปถึงที่โรงแรมก็ได้เห็นป้ายที่บอกว่า การแคมป์ครั้งนี้จะเกิดขึ้นที่ห้อง ballroom หนึ่งของโรงแรม ก็แอบรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดๆ อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องตากฝน และมีห้องน้ำที่สะอาดแน่นอน พอขึ้นไปถึงที่บริเวรลงทะเบียน ก็เห็นสายรัดข้อมือ เห็นแถวลงทะเบียน พวกผมสองคนรู้สึกเหมือนโดนป้ายยาว่า เราไปลงทะเบียนเพื่อให้ได้สายรัดข้อมือนั้นกันเถอะ หลวมตัวต่อแถวกันแบบง่ายๆ จากแค่ที่ต้องการมาเช็คสถานที่ กลายเป็นว่าเข้าไปอยู่ในแคมป์ไปซ่ะแล้ว
21.30 ลำดับที่ 114
ว่ากันด้วยสถาณที่อาจจะไม่เหมือนแคมป์เท่าไหร่ เป็นห้องบอลลูมโล่งๆ มีน้ำเปล่ากับเครื่องทำกาแฟ ซึ่งทาง Apple ให้โรงแรมเป็นผู้จัดเตรียมให้ และมี รปภ. มาคอยเดินดูแล ประจำจุด นับว่าเป็นการดูแลที่ดีประมาณนึง พวกเราก็ต่างยึดมุมใดมุมหนึ่งของห้องบอลลูมเป็นที่นั่งนอน รอเวลากันไป แต่ที่ทำให้รู้สึกเหมือนแคมป์กักตัวเพราะมันมีกฏอยู่ว่าห้ามออกนอกบริเวรเกิน 1 ชั่วโมง และ สามารถใช้สิทธิ์ออกไปได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น พวกผมสองคนรู้สึกเหมือนหลวมตัวเข้ามาโดยที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไร แล้วก็กลับออกไปไม่ได้แล้ว และคนก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ โชคดีที่บ้านผมอยู่ไม่ไกลเลยให้พี่สาวกับพี่เขยขับรถเอากระเป๋ามาส่งให้ได้ เลยยังได้มีเสื้อผ้าเปลี่ยนจากงานที่ต้องใส่สูทผูกไทด์เมื่อตอนเย็น ขอบคุณที่ช่วยเหลือครับ
บอกตามตรงครับ ทางทีมของ Apple ดูแลเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่ให้หลุดบรรยากาศการแคมป์มากเกินไป ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในแถวตลอดเวลา เพราะมีสายรัดข้อมือที่มีตัวเลขลำดับอยู่ ทางทีม staff Apple ยังดูแลแม้กระทั้ง รปภ ด้วย ให้มีการเดินหมุนเปลี่ยนตำแหน่งกันจะได้ไม่เบื่อ หาเก้าอี้มาให้นั่ง และผมเชื่อว่าทีมงานก็ไม่ได้นอนหรือพักเลย เดินตรวจ ถ่ายรูปตลอดทั้งคืน
พอเที่ยงคืนพวกเราได้รับประกาศจากทางทีมงานว่าให้พักผ่อนและทางทีมจะมาปลุกตอนช่วงตี 4 ครึ่งเพื่อเตรียมพวกเราให้พร้อมและเคลื่อนย้ายออกไปหน้าร้าน Apple store ด้วยความที่ส่วนใหญ่ fanboy ทั้งหลายรู้จักกันบ้าง บางคนก็มาทักทายทำความรู้จักกันในนี้ พูดคุยกันง่ายเพราะทุกคนคือแฟนของ Apple และคนหน้าใหม่ๆก็ทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ บางคนก็ออกไปทางข้าวจากการเรียกใช้บริการเมสเสนเจอร์เจ้าต่างๆให้เอาอาหารมาส่ง หรือเดินออกไปซื้อเองใกล้ๆที่ร้านสะดวกซื้อ บางคนก็เดิน Live ผ่าน social network ไปเรื่อย ยอมรับครับว่าผมนอนไม่หลับเลย มีรุ่นน้องผมชื่อโป้มาเพิ่มอีกคนหนึ่งจากที่เค้าได้เห็นผมโพสต์ว่าผมได้เข้ามาในแคมป์แล้ว เราได้พูดคุยกันอยู่สักพักแล้วต่างก็แยกย้ายไปหามุมพักผ่อนของตัวเอง
ตัดภาพมาที่ตอนตี 4 ทีมงานเริ่มเข้ามาปลุกด้วยการทักทายและ เรียกตามหมายเลขเพื่อมากรอกข้อมูลเพิ่มเติมและเซ็น Media Release ที่หน้าของเราอาจจะไปโผล่ใน media ของทาง Apple เองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริ่มตั้งแถวตามลำดับเลขและทยอยขึ้นรถบัสไปที่หน้าร้านตอน 7 โมงเช้า จากเบื่อๆโงนเงน ผมกับเริ่มตื่นเต้นที่จะได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว จุดที่เราเคยฝันว่าจะได้ไปยืน พอมาถึงที่หน้าร้านก็มีการจัดทุกคนให้ยืนเข้าแถวตามลำดับเลขไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเป็นเวลา 7โมงครึ่ง ครับผมต้องยืนรอต่อไปจนถึงร้านเปิดตอน 10 โมง แต่ในใจก็คิดว่า เอาหว่ะ จากสามทุ่มครึ่งมาถึงตอนนี้ อีกสองชั่วโมงกว่าเอง ผมยังเห็นทางทีมงานย้ายคนจากโรงแรมมาเรื่อยๆ และต่อด้วยคนที่มารออยู่ทางด้านตรงหน้าห้างในตอนเช้า
View this post on Instagram
เมื่อใกล้ถึงเวลา ทางทีม Apple ก็เริ่มที่จะออกมาพูดคุย และส่งเสียงเชียร์ สิ่งที่ผมประทับใจคือการที่ได้ยิน กลุ่ม staff ที่วิ่งออกมาส่งเสียงร้องทักทายวิ่ง hi five กับคนที่มายืนรอ และมีอีกกลุ่มที่ร้องตะโกนว่า “บีเคเค บีเคเค บีเคเค ….” มันเป็นความรู้สึกสุดยอดมาก เป็นเหมือนการตอกย้ำว่าร้านของ Apple Store ได้มาอยู่ที่กรุงเทพแล้ว
และแล้วประตูก็เปิด เวลาที่นับถอยหลังก็มาถึง ผมนึงว่าจะนับ “เทน ไนน์ เอก์ท…” แต่ไม่ครับนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้ผมยิ้มออกมา เพราะกลับกลายเป็น “สิม เก้า แปด … สาม สอง หนึ่ง” ทุคนต่างส่งเสียง เฮ้! การที่ได้วิ่งเข้าไปตีมือพร้อมกับได้ยินเสียง “welcome” “yeah” “hey!” “woohooo” เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นมาก การได้รับการต้อนรับในฐานะ fanboy เป็นความประทับใจ และรู้สึกอิ่มใจขึ้นมา ทุกคนต่างยิ้ม ทีม staff energy ไม่ตกเลยกับการที่ต้องต้อนรับคนเป็นพันที่จะเดินผ่านประตูเข้ามา เป็นเรื่องที่น่านับถือมาก
ขอบคุณ มิตร นิกส์ โป้ ที่อยู่ด้วยกันจนจบ โอม มิ้นท์ ที่มาทักทายหลังจากเดินตลาดเข้าโรงพักในตอนเช้า
ขอบคุณ Apple และทีม ที่ทำให้หนึ่งในความฝันได้เป็นจริง
ขอบคุณทุกคนที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ ทีแรกกะว่าจะตัดออกแต่ไม่ดีกว่า
9-10 November 2018
contributor : Pobe M.
Credit Image:
Po Adisorn
https://www.facebook.com/adisorn.chongphanitkul
(Nick Plus) Yannapat Boonkate
https://www.facebook.com/TheNickplus
Mint Natchanon
https://www.facebook.com/mintclub
RECOMMENDED CONTENT
“Epic Worlds” โปรเจ็กต์ภาพยนตร์สั้นสุดพิเศษซึ่งถ่ายทำด้วย Galaxy S23 Ultra สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างคอนเทนต์โดยใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งการถ่ายทำผ่านขั้นตอนการระดมทุนจากมวลชนก่อนจะนำมาตัดต่อเข้าด้วยกันและเผยแพร่สู่สาธารณะ โดย “Epic Worlds” เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการทำงานร่วมกัน