เรื่องสำคัญอย่างมากของคุณภาพชีวิตดีๆ ในเมืองใหญ่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็คือเรื่องของ ‘อาหารการกิน’
สาทรคือย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่รวบรวมไปด้วยร้านอาหารโด่งดังติดอันดับโลก วันนี้เราจะพาไปดูว่า การอยู่ดี กินดีมากที่สาทร ย่านที่รวบรวมวัฒนธรรมของนานาชาติเข้าด้วยกันนั้นเป็นอย่างไร
♦ Good Breakfast and Coffee ♦
— Rocket Coffeebar
อาหารเช้าและกาแฟดีดี เพื่อเริ่มวันใหม่ที่ดี
เริ่มกันที่ร้านแรกถือว่าเหมาะสำหรับคนทำงานในเมืองใหญ่ แน่นอนว่ามื้อเช้าที่สดชื่นกับกาแฟดีๆ นั้นสำคัญจริงๆ และเราเชื่อว่าหลายคนจะต้องเคยได้ยินชื่อคาเฟ่เก๋ๆ ‘Rocket Coffeebar’ นี้มาไม่มากก็น้อย เพราะร้านนี้ถือว่าเป็นคาเฟ่ ฮิป คูล และเป็นที่นิยมมากที่สุดร้านหนึ่งในกรุงเทพฯ หลายๆ คนเห็นรูปถ่ายสวยๆ ของร้านนี้ตามหน้าโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ต่างๆ มาหลายครั้งหลายครา
โดย Rocket นั้นจะเสิร์ฟอาหารสไตล์นอร์ดิก หรือสแกนดิเนเวียน เน้นความสดชื่น ดีต่อสุขภาพ และทานง่าย ทั้งยังมีกาแฟดีๆ ให้ได้ดื่มกันตอนเช้า ทั้ง Espresso based และ Single origin ที่ดริปกันแก้วต่อแก้ว ให้ยามเช้านั้นสดใสกว่าใครๆ
♦ Great and Healthy Lunch ♦
— Luka
อาหารกลางวันที่ทำให้เมืองร้อน สดชื่นมากกว่าเดิม
เชื่อเลยว่าคนรุ่นใหม่เรานั้นเป็นคน healthy มากๆ แล้วยิ่งเป็นอาหารด้วยแล้ว บอกเลย… ชอบ! Luka ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ Modern Comfort Food ที่ต้องบอกว่าคุณภาพของอาหารที่นี่เกิดมาจาก การเลือกสรรของวัตถุดิบที่ดีที่สุด เช่น ผักจากฟาร์มออร์แกนิค แซลมอนธรรมชาติ ซึ่งร้านอาหารส่วนใหญ่จะใช้แซลมอนฟาร์ม รวมถึงเมนูอาหาร Healthy มากๆ เหมาะสำหรับคนเมืองที่ดูแลเรื่องอาหารการกินของตัวเอง
แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะมีแค่สลัดหรือผักนะ เพราะที่ Luka การกินคลีน หรือ healthy eating นั้นไม่ใช่ว่าคุณจะกินของทอดไม่ได้ แต่ของที่คุณกินต้องมีคุณค่าทางอาหารจริงๆ รวมถึงความอร่อยที่ต้องมาควบคู่กัน ซึ่งเรารับรองว่า Luka นั้นทำอาหารออกมาได้น่ารับประทานจริงๆ
♦ Extraordinary is for Thai food ♦
— Nahm
ทานอาหารไทยอันดับต้นๆ ของเอเซีย
ถ้าหากวันธรรมดาคุณวุ่นวายกับการทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน แล้วกำลังหาร้านอร่อยๆ กินกับครอบครัวในวันหยุด เรามีร้านอาหารไทยที่อยากให้คุณไปลอง ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ร้านอาหารไทยชื่อ ‘น้ำ’ ถือกำเนิดขึ้นโดย David Thompson เชฟชาวออสเตรเลียนผู้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการทำความรู้จักอาหารจากโลกตะวันออก
ต้องบอกว่าเขาคือคนที่หมกมุ่นกับตำราอาหารไทยโบราณอย่างมาก และใช้ชีวิตศึกษาและทดลองตลอดมา เขาพาให้อาหารไทยได้รับรางวัลมิชลินสตาร์เป็นครั้งแรก นั่นยังไม่รวมถึงการเป็นหนึ่งในลิสต์ World’s 50 Best Restaurants ที่วงการ culinary ทั่วโลกยอมคำนับให้ ซึ่งร้านอาหาร ‘น้ำ’ ที่โรงแรงเมโทรโพลิแทนสาทร ตอนนี้ดูแลโดย เชฟปริญญ์ ผลสุข ที่รักษาความเป็นไทยและรสชาติของอาหารไทยให้มีคุณค่าและมี ‘ชีวิต’
♦ Eat The Modern Contemporary ♦
– Eat Me
กินโมเดิร์นและร่วมสมัยในแกลอรี่
ถนนพิพัฒน์ซอย 2 จากซอยคอนแวนต์ ย่านสีลม กรุงเทพฯ มีร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัยชื่อว่า ‘Eat Me’ ร้านอาหารมาตรฐานระดับโลกที่ผสมผสานบรรยากาศของ art gallery รวมไว้อยู่ด้วยได้อย่างลงตัว มีเจ้าของร้านคือ Darren Hausler และน้องสาวของเขา Cherie Hausler ด้วยอายุของร้านกว่า 18 ปี สั่งสมชื่อเสียงว่าเป็นร้านอาหารชื่อดังระดับนานาชาติแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ปัจจุบันดูแลโดยหัวหน้าเชฟชาวอเมริกัน Tim Butler ผู้ใส่ใจรายละเอียดกับทุกส่วนผสม เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก นำมารังสรรค์ออกมาเป็นอาหารจานเด็ด รับประกันว่าทุกจานที่เสิร์ฟในร้านนี้สามารถนำเสนอความเป็น Eat Me ได้อย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้แนวคิดที่ชัดเจนของร้าน ‘Great Food Gives You Good Life’ ทำให้ทุกวันนี้พวกเขาเป็นขาประจำของอันดับ ‘Asia’s Top 50 Best Restaurants’
♦ Inspired By Thai Eating ♦
– Le Du
กินอย่างรากฐานไทยในสไตล์โมเดิร์น
เย็นวันไหนที่คุณมีนัดกับลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ แล้วอาจจะเป็นวันเดียวกับที่คุณยุ่งมากๆ และอยากหาร้าน Dinner ดีๆ เราอยากแนะนำร้าน Le Du แห่งย่านสีลม ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงในวงการนักชิมและคนรักอาหารทั้งไทยและเทศ กับก้าวสำคัญก้าวใหม่ของเมนูอาหารไทย ซึ่งพวกเขากล่าวว่ามันคือสไตล์ modern ประยุกต์อาหารไทยที่เราคุ้นเคยให้ออกมารูปร่างหน้าตาและรสชาติแปลกใหม่
เราพบกับ เชฟต้น (ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร) ผู้อยู่เบื้องหลังเมนูสร้างสรรค์เหล่านี้… “สำหรับฤดู เราเรียกตัวเองว่าเป็น Modern Thai Inspired คืออาหารไทยทุกอย่างในจานของเราจะยังคงมีรากฐานมาจากอาหารไทยหมด เพียงแต่เรานำเสนอออกมาให้อยู่ในบริบทและการนำเสนอที่ต่างออกไป ทำให้มันโมเดิร์นและดูทันสมัยขึ้น คนอาจจะมองแล้วคิดว่าเป็นอาหารแปลกหรือเป็นอาหารยุโรป แต่จริงๆ มันคืออาหารไทยแท้ๆ ที่เราคุ้นเคยนี่ละ”
♦ A Drink and A Nightout ♦
– Naamsaah Bottling Trust
แวะดื่มน้ำซ่าสักแก้วหน่อยเป็นไร
Namsaah Bottling Trust หรือ น้ำซ่า บอทเทอลิ่ง ทรัสต์ คือเอเชียนแกสโตรบาร์ (Asian Gastro Bar) ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองกรุงเทพฯ อย่างย่านสีลม เป็นร้านอาหารและบาร์ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างเชฟเอียน กิตติชัย เชฟมือทองชื่อดังของบ้านเรา กับ Frederic Meyer ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีชาวฝรั่งเศส Jeremy Opritesco นักการฑูตชาวฝรั่งเศส และ Justin Dunne กูรูทางด้านไนท์ไลฟ์จากแคลิฟอร์เนีย ผู้เคยดูแล Bed Supperclub อดีตไนท์คลับอันโด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
แน่นอนว่าถ้าร้านนี้คือผลงานของเหล่า influencers ตัวฉมังทางด้านไลฟ์สไตล์ขนาดนี้ ประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับกลับไปจาก Namsaah Bottling Trust จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ขอบอกอีกอย่าง ร้าน Namsaah Bottling Trus อยู่ใกล้มากกับร้าน Le Du ซึ่งถ้าหากคุณ Dinner เสร็จแล้ว แล้วอยากสนุกต่อแวะดื่มสักแก้วสองแก้วกำลังดี
♦ Till Late Nightout ♦
– Bamboo Bar
จิบค็อกเทลในบาร์แจ๊ซระดับตำนาน
ร้านสุดท้ายที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก และถือเป็น ‘ตัวจริง’ ของค็อกเทลบาร์ในบ้านเรา นั่นก็คือ ‘Bamboo Bar’ ได้ยินชื่อแล้วนักดื่มบ้านเราคงร้อง อ๋อออ กันเป็นแถว คือนอกจากคอนเซ็ปต์ การตกแต่งร้าน และเรื่องราวประวัติอันยาวนานเก่าแก่ที่น่าสนใจแล้ว แน่นอนว่ารสชาติของค็อกเทลที่นี่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบดื่มพวกคลาสสิกค็อกเทล ยิ่งต้องมาเช็กอินที่นี่สักครั้ง รับรองว่าคุณจะติดใจจนต้องหาโอกาสมาแฮงเอาต์ที่นี่อีกบ่อยๆ
Bamboo Bar ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของโรงแรม Mandarin Oriental โรงแรมอันเก่าแก่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ปัจจุบันอยู่มาถึง 139 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1876 แรกเริ่มนั้นโรงแรมแห่งนี้เป็นที่พักของชาวต่างชาติซึ่งเดินทางโดยเรือเข้ามาในสมัยก่อน ต่อมาภายหลังได้ต่อเติมสถานที่กินดื่มให้กับแขกที่มาพักในโรงแรม จนกระทั่งปี ค.ศ. 1953 – Bamboo Bar จึงถือกำเนิดขึ้น ถึงทุกวันนี้ก็มีอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว
และยังถือเป็นแจ๊สบาร์แห่งแรกของเมืองไทยอีกด้วย โดยปัจจุบันจะมีการแสดงดนตรีสดจากศิลปินที่มีชื่อเสียงมากฝีมือมากมายผลัดเปลี่ยนกันไปทุกวัน ตั้งแต่เวลาสามทุ่มเป็นต้นไป โดยคุณสามารถดื่มด่ำทั้งเครื่องดื่มและเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่
RECOMMENDED CONTENT
แคมเปญล่าสุดของไนกี้ "Play New" เชิญทุกท่านมาค้นพบกับกีฬาในมิติใหม่ พร้อมเปิดตัวด้วยภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยนักกีฬาชื่อดัง ได้แก่ ซาบริน่า อิโอเนสคู (Sabrina Ionescu), ไดน่า แอชเชอร์-สมิธ (Dina Asher-Smith) และ เบลก ลีเพอร์ (Blake Leeper) รวมถึงศิลปินระดับโลกอย่าง โรซาเลีย (Rosalía) สิ่งที่ทั้ง 4 คนนี้มีเหมือนกันก็คือความชื่นชอบในการเคลื่อนไหว การเล่น และการแข่งขัน