fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

“The Great American Picnic” การจัดปิกนิกแบบง่ายๆเป็นกันเอง พร้อมกับอาหารสไตล์อเมริกันสุดคลาสสิคที่ทุกคนต้องรู้จัก
date : 27.ธันวาคม.2013 tag :

แนะนำปิกนิกสไตล์อังกฤษและสไตล์ญี่ปุ่นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ยังเหลือปิกนิกสไตล์ไหนที่เราควรจะมาแนะนำให้กับชาว Dooddot อีกน้า…ถ้าอย่างนั้นเราขอแนะนำปิกนิกสไตล์อเมริกันให้คุณผู้อ่านได้รู้จักก็แล้วกัน การไปปิกนิกถือเป็นธรรมเนียมสำคัญอย่างหนึ่งที่ฝังรากอยู่ในวัฒนธรรมอเมริกันไม่น้อยไปกว่าทางประเทศฝั่งยุโรปเลย เมื่อเข้าช่วงฤดูร้อน คนอเมริกันส่วนใหญ่จะมีความสุขกับการได้ไปนั่งทานแซนด์วิชริมชายหาด หรือจะเอาสลัดมันฝรั่ง (potato salad) ไปทานที่สวนสาธารณะ แถมยังมีการแข่งขันกินแตงโมริมทะเลสาบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการไปปิกนิกเงียบๆแบบคู่รัก หรือจะไปเป็นกลุ่มใหญ่สำหรับการจัด potluck (ความหมายจะคล้ายๆกับการไปปิกนิก แต่การไป potluck ก็คือการรวมกลุ่มคนประจำชุมชน ซึ่งแต่ละคนจะนำอาหารที่ตัวเองทำมาจากที่บ้าน มาแชร์จัดวางบนโต๊ะพร้อมกับอาหารของคนอื่นๆ) การจัดปิกนิกไม่มีแบบที่ตายตัวและส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน แต่อย่างไรก็ดี ความสุขที่ได้ทานอาหารข้างนอกต้อนรับแสงแดดบนเสื่อถักสไตล์ gingham blanket ปูบนหญ้าสีเขียวขจี หรือจะเป็นการนั่งทานบนโต๊ะปิกนิก ก็ล้วนแล้วแต่เป็นธรรมเรียมที่ถูกสืบทอดกันมารุ่นสูรุ่นในทุกๆรัฐของอเมริกา

ถึงแม้ว่าการจัดปิกนิกที่คนอเมริกันสมัยก่อนเรียกกันว่า “The Great American Picnic” จะถูกดัดแปลงมาจากการจัดปิกนิกในยุโรปในเรื่องของอาหาร ผสมผสานเข้ากับการทำอาหารแบบพื้นเมืองของเหล่าอินเดียนแดง หรือ American Indians สมัยก่อน แต่การจัดปิกนิกสไตล์อเมริกันนั้นได้ตัดความหรูหรามากพิธีของทางฝั่งยุโรปออก และเพิ่มความเป็น “ลูกทุ่ง” หรือความเป็นบ้านๆเข้ามาแทนที่ โดยอาหารที่เป็นที่นิยมในการจัดไปปิกนิก ส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าครัวทำกันเอง และเป็นอาหารที่สะดวกต่อการพกพา ธรรมเนียมการจัดปิกนิกนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปี ค.ส. 1800s ตอนกลาง โดยหลักๆถูกเผยแพร่จากโบสถ์ชุมชนและชาวเมืองที่ถือโอกาสรวมกลุ่มนัดสังสรรค์ แชร์อาหาร และเพิ่มความเป็นส่วนหนึ่งของ community มากขึ้น

ส่วนวาระโอกาสพิเศษที่ชาวอเมริกันเขานิยมจัดปิกนิกไปกันนั้น ก็คือวันที่ 4 กรกฏาคม ของทุกปี ซึ่งก็คือวัน “Fourth of July” หรือ วันประกาศเอกราช (Independence Day) ที่ถ้ายิ่งเป็นสมัยก่อนชาวอเมริกันจะไปเฉลิมฉลองกันริมแม่น้ำ พร้อมกับร้องเพลงชาติ “The Star Spangled Banner” และหม่ำอาหารจำพวกขนมปัง ถั่วต้ม เบค่อน และผลไม้แห้ง เรื่องอาหารปิกนิกสำหรับสไตล์อเมริกันนี่อันที่จริงแล้วมีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย สืบเนื่องมาจากที่ประเทศนี้มีผู้อพยพมาตั้งรกรากจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร Creole food ประจำรัฐลุยเซียนา ที่มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส อาหารสไตล์สเปนและเม็กซิกันในฝั่ง Southwest อาหารรสชาติเอเชียๆในรัฐแคลิฟอเนียร์ และอาหารสไตล์เยอรมันผสมดัตช์ในรัฐเพนซิลเวเนีย

ถ้าในเมื่ออาหารปิกนิกสไตล์อเมริกันมีให้เลือกอย่างหลากหลายจากอิทธิพลของประเทศต่างๆทั่วโลก แล้วอย่างนี้อาหารแบบไหนที่จะเป็นที่นิยมตลอดกาลในการจัดปิกนิกสำหรับทุกวันนี้กันล่ะ ชักน่าสนใจแล้วใช้มั้ย ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปดูลิสต์อาหารปิกนิกยอดฮิตที่ชาวอเมริกันเขาถือว่าเป็น “a must have” ในตะกร้าพวกเขากันเลยดีกว่า

1. แฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger)
แฮมเบอร์เกอร์ เจ้าขนมปังกลมสองแผ่นที่ประกบบนและล่างเนื้อสัตว์ สอดไส้ด้วยผักชนิดต่างๆนี้ คนอเมริกันต่างภูมิใจเรียกมันว่าเป็น “an American invention” ทั้งๆที่จริงๆแล้วคอนเซ็ปต์ของมันมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมัน ที่คนในประเทศนี้เขาหลงไหลในสเต็กฮัมบูร์ก และภายหลังผู้อพยพชาวเยอรมันก็ได้นำมาแพร่หลายในอเมริกา จนกลายเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งของประเทศนี้ไปโดยปริยาย ความอร่อยของแฮมเบอร์เกอร์อยู่ตรงที่เนื้อสัตว์ที่ปรุงรสและผสมไปด้วยเกล็ดขนมปัง ไขมัน หัวหอม ไข่ และจันทน์เทศ (nutmeg) บวกกับสอดไส้ผักชนิดต่างๆ เช่น มะเขือเทศ ผักกาดหอม หัวหอมใหญ่ และเครื่องปรุงรสอื่นๆ เช่น มัสตาร์ด มายองเนส และซอสมะเขือเทศ แค่พูดก็น้ำลายไหลแล้ว!

2. สลัดมันฝรั่ง (Potato Salad)
นี่คือสลัดยอดฮิตอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันเขาล่ะ กับสลัดมันฝรั่ง ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมันอีกเช่นกัน โดยผู้อพยพชาวเยอรมันนำมาแพร่หลายจนโด่งดังสุดๆในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงแม้ว่าจะมีสลัดแบบอื่นที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศสเปน หรือแม้กระทั่งสลัดมันฝรั่งสูตรฝรั่งเศสและอังกฤษ สลัดมันฝรั่งสูตรเยอรมันนี่แหละที่ครองใจชาวอเมริกันมากที่สุด โดยชาวอเมริกันนำมาดัดแปลงใส่มายองเนสให้เพิ่มรสชาติและดูเหมือนมีเนื้อครีมมากขึ้น

3. ข้าวโพดปิ้ง (Corn on the cob)
การทานข้าวโพดปิ้งในอเมริกานั้นได้รับอิทธิพลมาจากพวกอินเดียนแดงในช่วงปี ค.ส. 1770 กว่าๆ ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้นแบบสไตล์อเมริกันก็ลองบีบมะนาวราดบนฝัก ทามายองเนส เนย หรือโรยพริกตำ

4. ไก่ทอด (Fried Chicken)
พูดถึงไก่ทอดสไตล์อเมริกันนี่นึกถึงไก่ทอดกรอบแบบ KFC ขึ้นมาเลยใช่มั้ยล่ะ เราคงไม่ต้องอธิบายถึงความอร่อยของมันให้เสียเวลาหรอกนะ แค่นึกภาพก็ท้องร้องแล้ว

5. แอปเปิ้ลพาย (Apple Pie)
“As American as apple pie” คือคำพูดที่คนอเมริกันทุกคนรู้จักกันดี เพราะมันเป็นคำเปรียบเปรยที่หมายความว่า “typically American” หรือแปลเป็นไทยก็คือ อะไรที่เป็นอเมริกันจ๋า ประวัติความเป็นมาของแอปเปิ้ลพายในอเมริกานั้น มีมาตั้งแต่สมัยยุคอาณานิคมของชาวยุโรปในทวีปอเมริกา ตอนที่ชาวอังกฤษมาตั้งถิ่นฐาน สืบทอดต่อมาเรื่อยๆจนเป็นอาหารหลักของชาวรัฐเดลาแวร์ในช่วงศตวรรษที่ 18 และกลายมาเป็นซิมโบล (symbol) ของความเจริญรุ่งเรืองและความภาคภูมิใจของชาวอเมริกันในช่วงศตวรรษที่ 19 และศตวรรษที่ 20 จึงไม่แปลกที่แอปเปิ้ลพายจะกลายเป็นอาหารประจำชาติและเป็นหนึ่งใน icon ของวัฒนธรรมอเมริกันมาจนถึงทุกวันนี้

6. แตงโม (Watermelon)
อาจจะดูธรรมดาที่เอาแตงโมไปทานระหว่างปิกนิก แต่นี่คือผลไม้ที่ชาวอเมริกันนิยมเอาไปทานมากที่สุดในบรรดาผลไม้และของหวานตอนไปปิกนิก

7. เครื่องดื่ม
เครื่องดื่มที่ชาวอเมริกันนิยมเอาไปดื่มมากที่สุดสำหรับไปปิกนิกก็คือเบียร์ ก็ดูอาหารแต่ละอย่างที่คนอเมริกันเขานิยมทานกันสำหรับปิกนิกสิ แต่ละอย่างเข้ากับการดื่มเบียร์เย็นๆทั้งนั้น ส่วนเครื่องดื่มรองลงมาจากเบียร์ ก็มีไอซ์ที (iced tea) น้ำมะนาว โค้ก ไวน์ และน้ำพั้นช์

อันที่จริงเราได้ไปเจอลิสต์ของบรรดาอาหารที่ชาวอเมริกันนิยมนำไปรับประทานกันสำหรับปิกนิก ซึ่งมีรายชื่ออาหารอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นฮอทดอก ซี่โครงหมูทอด สเต็ก baked beans (ถัวอบในซอสมะเขือเทศ) ผักต้ม มักกะโรนีอบชีส โคลสลอว์ (coleslaw) คุกกี้ ไอศครีม เชอร์เบท เค้ก พุดดิ้ง มาร์ชเมลโล และอื่นๆอีกมากมาย แต่สำหรับสิสต์อาหารเจ็ดอย่างที่เราได้แนะนำไปนั้น รับรองว่าเป็นอาหารอันดับท็อปๆที่ถ้าคิดจะจัดปิกนิกสไตล์อเมริกันแล้วละก็ คุณต้องจัดเตรียมใส่ตะกร้าเสียเลย

Writer: Thip S. Selley
Image by: dailymailfoodnetworkeyechowbevyrichmond.blogspotpoweredbystarlight.wordpressparade

RECOMMENDED CONTENT

9.ธันวาคม.2022

เรื่องราวต่อจาก ภาค3 Parabellum ด้วยราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตำนานอย่าง John Wick จึงต้องต่อสู้กับ High Table กับเรื่องราวการต่อสู้ของวงการใต้ดิน ตั้งแต่นิวยอร์ก ปารีส ญี่ปุ่น ไปจนถึงเบอร์ลิน