ยกมือขึ้นถ้าคุณรู้สึกแบบนี้:
โอเค โอเค แน่นอนล่ะว่าคุณก็อยากมีผิวพรรณที่ขาวผ่องใสจากข้างในถึงข้างนอก ผู้หญิงคนไหนจะไม่อยากมีกัน แต่การที่จะต้องมาซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นสิบๆ ทั้งครีมเอย โทนเนอร์เอย มาสก์เอย แล้วไหนยังจะต้องมาคอยทำทั้งเช้า เย็น ทุกวี่ทุกวัน…โอย แค่นึกภาพก็เหนื่อยแล้ว ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณบีซี่ หรือขี้เกียจเกินกว่าที่จะต้องมาทำเรื่องจุกจิกอะไรแบบนั้นทุกๆวัน คุณคงต้องการวิธีที่ง่าย และรวดเร็วสำหรับการดูแลผิวพรรณของตัวเองใช่ไหม? เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับในสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ได้ผิวผ่องใสอย่างที่คุณต้องการแบบสไตล์ง่ายๆ มินิมอลสุดๆ แต่รับรองว่าได้ผลจริง จะมีวิธีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
อย่าลืมใช้ครีมกันแดด
ฮั่นแน่…รู้นะว่าสาวขี้เกียจ…เอ้ย! สาวยุ่งทั้งหลาย จะไม่ค่อยนึกถึงความสำคัญของครีมกันแดด คุณคงชอบคิดว่า ก็ฉันนั่งทำงานในออฟฟิศแทบจะทั้งวัน ไม่ได้จะไปเที่ยวชายทะเล อาบแดดที่ไหนสักหน่อย ไม่จำเป็นจะต้องใช้ครีมกันแดดหรอกมั้ง? ขอบอกว่าให้รีบเปลี่ยนความคิดด่วนเลยค่ะ เพราะจริงๆแค่ช่วงเวลาที่ผิวของคุณต้องเจอกับแสงแดดเวลาเดินไปทำงาน หรือเดินออกมาทานข้าวกลางวันในช่วงที่แสงแดดแรงๆทุกวันๆนั่นแหละ ก็สามารถทำให้ผิวพรรณของคุณหม่นหมอง และแก่เร็วได้ง่ายๆ แถมดีไม่ดีพวกฝ้า กระ จะถามหาด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากมีผิวสวยกระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย ก็อย่าลืมหมั่นทาครีมกันแดดทุกครั้งที่จะออกไปข้างนอก ยิ่งบ้านเราแดดแรงขนาดนี้ สาวๆทุกคนยิ่งต้องพกครีมกันแดดติดกระเป๋าตลอดเวลา แนะนำว่าให้ใช้แบบSPF 30 หรือแบบ 3 in 1 มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ SPF อยู่ด้วย
ใช้คลีนเซอร์ที่ถูกต้อง และปิดท้ายด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์ทุกครั้ง
สาวๆควรใช้คลีนเซอร์ทุกครั้งสำหรับการทำความสะอาดผิวหน้า แต่คลีนเซอร์ที่ว่านี่ก็มีให้เลือกเยอะเหลือเกิน หน้าตาก็คล้ายกันไปหมด เห็นแล้วปวดหัวจริงๆ แล้วอย่างนี้คุณควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณเองกันล่ะ? เราแนะนำว่าถ้าคุณมีผิวธรรมดา ให้ใช้แบบโฟม หรือที่เรียกว่า โฟมมิ่ง คลีนเซอร์ เพราะเป็นคลีนเซอร์ชนิดที่มีความอ่อนโยนต่อผิวปกติ แต่ก็แรงพอที่จะใช้กับความมันบริเวณทีโซนได้ หรือแบบคลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำ หรือวอร์เตอร์ คลีนเซอร์ ที่เน้นการดูแลผิวพรรณ อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง ส่วนถ้าคุณมีผิวผสม หรือผิวมัน แนะนำให้ใช้แบบเจล หรือ เจล คลีนเซอร์ ซึ่งเป็นคลีนเซอร์ที่ปราศจากน้ำมัน และมีค่าความเป็นด่างน้อยกว่าสบู่ หรือแบบโลชั่นปราศจากน้ำมัน (oil free cleanser) โลชั่นที่มีส่วนผสมของไกลโคลิค หรือถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้โลชั่น คลีนเซอร์ เพราะมีส่วนผสมของสารทำความสะอาดที่อ่อนโยน และมีสารความชุ่มชื้น เมื่อใช้ทำความสะอาดผิดหน้าและล้างน้ำเปล่าตาม จะยังคงรู้สึกลื่นๆ เพราะมีสารให้ความชุ่มชื้นเคลือบผิวเอาไว้เป็นฟิล์มบางๆ เหมาะแก่คนที่มีผิวแห้ง ระคายเคืองง่าย และสุดท้าย พอล้างหน้าจนสะอาดแล้ว ก็ให้ทามอยเจอร์ไรเซอร์ปิดท้ายทุกครั้ง เพื่อให้ผิวหน้าของคุณชุ่มชื้น
ล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนเข้านอน
ห้าม ขอย้ำว่า “ห้าม” นอนหลับทั้งๆที่มีเครื่องสำอางเด็ดขาด!! เพราะนั่นเหมือนเป็นการฆ่าผิวหน้าของคุณชัดๆ การทิ้งเครื่องสำอางบนใบหน้าค้างคืน จะก่อให้เกิดผิวอุดตันจนสิวบุกในยามเช้า ผื่นขึ้น อีกทั้งยังตื่นมาพร้อมกับหน้าตาที่แห้งเหี่ยว ไร้ความชุ่มชื้น บอกเลยว่าหน้าตาคุณจะดูไม่จืดเลยล่ะ แล้วมันคุ้มหรือที่จะเอาใบหน้าของคุณไปแลกกับสิ่งเหล่านี้ เพียงเพราะอยากนอนจนขี้เกียจลุกขึ้นมาล้างเมคอัพ? จริงๆแล้วการเช็ดล้างเครื่องสำอางนั้นง่ายแสนง่าย ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ ยิ่งถ้าคุณมีเมคอัพรีมูฟเวอร์ดีๆ เช็ดไม่ถึง 5 นาทีก็ออกหมดจดแล้ว หรือถ้าอยากใช้วิธีแบบรวดเร็วติดจรวดจริงๆ ก็ใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ในรูปแบบทิชชูเปียกก็ได้ ทั้งง่ายและประหยัดเวลา ตื่นมาผิวหน้าจะได้ใสกิ๊ก ไม่โทรมให้เสียเซลฟ์
หมั่นเปลี่ยนปลอกหมอน
เคยสงสัยไหมว่า ล้างหน้าให้สะอาดก็แล้ว ใช้ครีมบำรุงผิวก็แล้ว แต่ทำไมสิวยังชอบขึ้นบนใบหน้าให้กวนใจเป็นประจำ? นั่นอาจจะเป็นเพราะปลอกหมอน ผ้าห่ม หรือผ้าปูที่นอนที่คุณนอนทับอยู่ทุกวัน ที่อาจเป็นสาเหตุการเกิดสิวโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้ โดยเฉพาะกับปลอกหมอนที่คุณไม่ค่อยได้ซัก ที่มีทั้งฝุ่น น้ำลาย หรือแม้กระทั่งคราบครีมที่คุณทาที่ติดอยู่ที่ปลอกหมอน ซึ่งล้วนมีโอกาสทำให้เกิดสิวบนใบหน้าของคุณได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคุณควรซักทำความสะอาดผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนเป็นประจำ อย่างน้อยทุกๆสัปดาห์ และเวลาตากก็ควรเอาไปตากในแดดจัดๆทุกครั้ง เพื่อให้รังสี UV ฆ่าเชื้อโรคที่สะสมอยู่ให้หมด กันไว้ดีกว่าแก้จะดีกว่า
ทำทุกอย่างให้เป็น routine ประจำ
ทั้งหมดที่ลิสต์มาคือสูตรในการดูแลผิวพรรณที่คุณควรหมั่นทำเป็นประจำจนเป็น routine ในตอนเช้า ให้ล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนเซอร์ และทาครีมกันแดด ส่วนตอนเย็นให้ใช้คลีนเซอร์เหมือนเดิม และปิดท้ายด้วยการทาเรตินอล ครีม ที่จะคอยช่วยผลัตเซลล์ผิวใหม่ๆขึ้นมา เพื่อป้องกันการเกิดรอยย่น และความหมองคล้ำ ขอย้ำว่าถ้าอยากมีผิวสวย อมชมพู ก็ต้องหมั่นดูแลตัวเองเป็นประจำ ต่อให้เป็นวิธีง่ายๆอย่างที่เราแนะนำมาก็ตาม
Credit: Womenshealthmag
RECOMMENDED CONTENT
ลู่วิ่งสนามบินนาริตะ ✈️ กับทริปโตเกียว ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ? INSIDER JOURNY EP1 : Tokyo Marathon