fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Visit – นั่งคุยกับ 2 ผู้ใช้ TOYOTA C-HR ตัวจริง! รถยนต์ที่มีดีไซน์สุดล้ำ และความ “คุ้มค่า” ที่ทุกคนต่างพูดถึง
date : 18.กรกฎาคม.2019 tag :

ในช่วงที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนคงเห็นรถ TOYOTA C-HR บนท้องถนนกันบ้างแล้ว จุดเด่นของรถคันนี้คือดีไซน์ที่เท่มากๆ สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมจาก TNGA และประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ ไม่เชื่อลองหันไปถามเจ้าของรถคันนี้ดูสิว่าเขาจะตอบอย่างที่บอกมาหรือเปล่า

ถ้าหากรอบข้างคุณยังไม่มีใครใช้ TOYOTA C-HR ก็ไม่เป็นไร วันนี้ดู๊ดดอทของเราจะพาไปพูดคุยกับ 2 ผู้ใช้จริง ที่จุดเริ่มต้นของพวกเขามาจากการได้เอารถกลับไปทดลองใช้เพียง 7 วัน หลังจากนั้นก็กลายเป็นแฟนแบบเหนียวหนึบจนต้องถอย TOYOTA C-HR มาเป็นเจ้าของซะเลย

เรามาเริ่มที่คุณฝน “พิภาศรี จัยสิน” ผู้ช่วยผู้จัดการจัดซื้อในส่วนต่างประเทศ ของ “บริษัท เอแคม (ไทย) เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด” คุณแม่ลูกหนึ่งเจ้าของรถ TOYOTA C-HR 1.8 Hybrid High ที่เอ่ยปากชมตลอดว่า “ประหยัดน้ำมัน จนไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว” จนทำให้ครอบครัวคุณฝนตั้งเป้าหมายว่าจะไปเที่ยวให้ไกลกว่าเดิม

เริ่มสนใจ TOYOTA C-HR ได้ยังไง

ตอนนั้นเริ่มสนใจรถใหม่ค่ะ เพราะคันเก่าใช้มา 10 ปีแล้ว ปกติก็เดินดูรถตามห้างเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้สนใจค่ายไหนเป็นพิเศษ แต่พอได้เห็นแคมเปญ TOYOTA C-HR ให้ทดลองใช้ 7 วันโดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้เราสามารถทดลองขับจริงในชีวิตประจำวันได้ ก็เลยลงทะเบียนไป หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รถมาทดลองใช้จริงๆ

เป็นยังไงบ้าง 7 วัน กับ TOYOTA C-HR

ตอนไปรับรถมาทดลองขับ 7 วัน ก็พาลูกไปด้วยค่ะ คือปกติเวลาไปไหนก็จะไปกับลูกเสมอ ตอนนั้นพาลูกลองขับไปไกลถึงอยุธยา ก็ยังประทับใจ (ยิ้ม) แค่ได้ขับ 2 – 3 วันแรกก็รู้สึกได้เลยว่าชอบคันนี้ มันตรงกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ขนาดตอนเอารถไปส่งคืน ลูกยังถามเลยว่า “แม่จะคืนเขาแล้วเหรอ แม่จะซื้อไหมคะ”

หลังจากที่ได้ทดลอง อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณฝนรู้สึกว่า “คันนี้แหละ ใช่เลย”

รู้สึกเลยว่ามันประหยัดน้ำมันมากๆ คิดว่าเราใช้รถก็อยากได้รถที่มีความประหยัด อีกอย่างชอบดีไซน์ สวยทั้งภายในและภายนอก เป็นสองอย่างที่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

ใช้เวลาตัดสินใจนานไหมหลังจากที่ได้ทดลอง

7 วันเท่านั้น ก็คือปลายเดือนมีนาคมที่ได้ลอง วันที่ 7 เมษายน ก็ออกรถแล้ว

แสดงว่าตรงใจคุณฝนมากๆ

ก็มันตรงกับไลฟ์สไตล์ของเราจริงๆ ทั้งขับไปรับส่งลูก ไปทำงาน หรือไปต่างจังหวัด ค่อนข้างคล่องตัวมากๆ

หลังจากออกรถมาแล้ว ได้เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ รู้สึกยังไงบ้าง

ก็ซื้อตัว TOYOTA C-HR 1.8 Hybrid High มา พอได้เอามาใช้ในเมืองจริงๆ ก็รู้สึกสบายนะ ไม่ได้ดูอึดอัด เชื่อว่าบางคนคิดว่ารถมันดูใหญ่ แต่พอได้ใช้จริงๆ มันคล่องตัวมาก

ส่วนเรื่องน้ำมันก็แบบ “โห สบายมาก” ไม่ต้องคำนวณเลย ยิ่งเป็นไฮบริดอีก ไปที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องคิดอะไรเลย

ปกติใช้เวลากับ TOYOTA C-HR คันนี้ยังไง

วันธรรมดาก็จะไปส่งลูกที่โรงเรียน ส่วนวันเสาร์ช่วงเช้าก็จะมีขับรถพาลูกไปเรียนพิเศษ หรือบางครั้งช่วงบ่ายๆ ก็ขับเข้าออฟฟิศไปเคลียร์งานต่อ แล้วช่วงเย็นๆ ไปแฮงเอาท์กับเพื่อน ไปร้านอาหาร

นอกจากนี้ก็ชอบขับรถไปเที่ยวกับครอบครัว พาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อย แต่คันนี้ก็ยังไม่ได้ออกไปต่างจังหวัดเลย เพราะเพิ่งได้มาไม่นาน

Destination ที่จะไปกับ TOYOTA C-HR เร็วๆ นี้

แม่ฮ่องสอน เร็วๆ นี้ แน่ๆ อยากไปในที่ๆ เราไม่เคยไป อยากไปเที่ยวไกลๆ อยากไปขึ้นภูเขา อยากเอารถไปลองขับที่โค้งแม่ฮ่องสอนอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) 

สิ่งที่ชอบจากรถคันนี้

– ซื้อตัวไฮบริดมาสิ่งแรกก็เรื่องประหยัดน้ำมัน รถคันนี้ประหยัดมาก ชอบมากๆ และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย

– ระบบความปลอดภัยในรถ คือผู้หญิงขับรถอะนะ บางทีการเตือนเหล่านี้มันก็ช่วยเราได้เยอะเวลาขับรถในเมือง

– รูปลักษณ์ภายนอกมันโดดเด่น มันทำให้เรารู้สึกคล่องตัวขึ้น ดูเป็น Working Women มากขึ้น

–  ความจุในการขนของ เพราะตัวเองทำงานจัดซื้อ บางครั้งก็ต้องออกไปซื้อของข้างนอกต้องขนของขึ้นรถเอง แล้วรถคันนี้มันขนมาได้หมดเลย คือตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ

หลังจากนั้นเราบินมาที่ภาคอีสาน มาหาเจ้าของรถ TOYOTA C-HR 1.8 MID อย่างคุณปุ๋ง “รัฐไกร ถนัดค้า” เจ้าของร้าน “คุงยงมอเตอร์ อะไหล่รถยนต์” ในอำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด กับความรู้สึกของคนที่ไม่เคยคิดจะซื้อรถ TOYOTA เลย

ปกติใช้รถแบบไหน ทำไมถึงอยากเปลี่ยน

ผมเพิ่งขายรถคันเก่าไป ก็พยายามมองหาคันใหม่ ก่อนหน้านี้ผมใช้รถซีดาน 4 ประตูมานาน ก็เริ่มเบื่ออยากหาอะไรใหม่ๆ บ้าง แต่พอมองไปที่รถเอสยูวีผมรู้สึกว่าคันใหญ่ไป ก็เลยพยายามมองหารถไซส์ขนาดนี้ (TOYOTA C-HR) ก็มองหาในตลาดหลายรุ่นครับ แต่ก็ยังไม่มีตัวไหนที่มันตอบโจทย์เราจริงๆ

จนมาเจอแคมเปญ “ทดลองขับฟรี 7 วัน” ของ TOYOTA C-HR อันนี้น่าสนใจนะ ผมคิดว่าถ้าเอามาใช้ที่บ้าน ลองขับไปรับส่งลูกดูว่าเขาชอบไหม เห็นว่าที่ร้อยเอ็ดก็มีให้ลอง ผมก็เลยกดจองวันนั้นเลย ประมาณ 1 อาทิตย์ TOYOTA ก็ติดต่อกลับมา

เป็นยังไงบ้างในช่วง 7 วันนั้น

พอเอามาใช้จริงๆ ผมเอาคาร์ซีทมาติดตั้งให้ลูกนั่ง พาเขาไปส่งที่โรงเรียนกลายเป็นว่าเขาชอบ ผมก็โอเคลูกไม่มีประเด็น เราก็มาดูประเด็นอื่นๆ ว่าถ้าเราขับเร็วๆ ตามสไตล์เราจะเป็นยังไง ซึ่งมันก็ตอบโจทย์หมด ผมชอบช่วงล่างมาก มันแน่น หนึบดี ปกติผมใช้แบรนด์อื่นที่มันเด่นเรื่องช่วงล่าง ตอนที่เอามาขับก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันว่า TOYOTA ทำช่วงล่างได้ดีขนาดนี้เลยเหรอ ในราคาแบบนี้ มันดีกว่าที่เราคิดไว้นะอันนี้จุดหนึ่ง

อีกอย่างคือน้ำหนักพวงมาลัยโอเค ผมชอบรถพวงมาลัยหนักๆ เพราะเราชอบความเร็ว แต่แฟนผมจะไม่ชอบหนักๆ เพราะขับยาก แต่ TOYOTA C-HR มีโหมด Eco Mode, Normal Mode และ Sports Mode พอมาลองขับในแต่ละโหมดมันมีรายละเอียดพอสมควร ในส่วนตัวผมชอบ Sports Mode ทั้งการลากรอบของเกียร์ การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่กระชับขึ้น ทำให้เรากระชากรถง่าย เวลาเราวิ่งเร็วๆ เวลาเลย 150 -170 น้ำหนักพวงมาลัยมันต้องไม่เหวี่ยง ไม่งั้นมันไม่ปลอดภัย ส่วน Eco Mode ก็มีน้ำหนักพวงมาลัยที่เบา

ตอนแรกผมก็คิดว่า Drive Mode มันเป็นของเล่นหรือเปล่า แต่พอมาใช้งานจริงมันโอเคมากๆ เป็นอีกหนึ่งจุดที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ ส่วน Normal Mode ผมพบว่าความเร็วต่ำพวงมาลัยมันเบา พอขับความเร็วสูงขึ้น พวงมาลัยหนักตามความเร็ว อย่างนี้ใครมาขับก็เปลี่ยนโหมดตามที่ชอบได้

กลายว่าเป็นรถคันเดียวเหมาะกับทุกคน

ใช่ครับ สมัยเราเป็นโสดเราก็เอาตัวเองเป็นหลัก พอเรามีครอบครัว มีลูก ก็ต้องดูแลหลายอย่าง โจทย์มันจะยากขึ้น มันจะต้องตอบสนองคนอีกหลายคน รถต้องเซฟต่อครอบครัว เพราะผมขับค่อนข้างเร็ว แล้วมีลูกนั่งไปด้วย ก็ต้องเลือกรถที่ขับสนุก ปลอดภัย และตอบโจทย์ทั้ง 3 คน มันหายากนะ

หลังจาก 7 วันนั้น ใช้เวลานานไหมถึงออกรถ

ผมได้รถมาปลายเดือนกุมภาพันธ์ครับ ตอนเอารถไปคืนก็ตัดสินใจแล้วว่าซื้อแน่ๆ แต่รอหลังจากนั้น 2 เดือนครับ เพราะโปรโมชั่น เลยอดใจรอไปซื้อในงาน Motor Show ครับ ได้ทั้งของแถม ได้ทั้งส่วนลด (ยิ้ม)

ภรรยาและลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจไหม

มีส่วนครับเพราะไปเลือกด้วยกันทั้งครอบครัว ก่อนไปก็ให้ลูกดูในแคตตาล็อกก็ชี้รุ่นนี้ตลอด อาจจะเป็นเพราะดีไซน์เหมือนของเล่นก็ได้มั้ง (ยิ้ม) มันดูเท่ สะดุดตา ส่วนตัวผมไม่ได้สนใจภายนอกมากนัก สนใจแต่สมรรถนะ แต่แฟนกับลูกจะชอบดีไซน์มากๆ

หลังจากได้เป็นเจ้าของ TOYOTA C-HR จริงๆ ได้ลองใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นอย่างไรบ้าง

ประหยัดน้ำมันครับ ถ้าเป็นตัวไฮบริดจะโดดเด่นเรื่องนี้มากๆ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่เด่นเรื่องอัตราเร่งนั้น การประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดีเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนผมเลือกซื้อรุ่นนี้ครับ อย่างทุกวันนี้ผมขับรถรับส่งลูกไป – กลับประมาณ 150 กิโลเมตร ผมเหยียบเต็มที่อยู่นะ ก็ค่อนข้างประหยัดครับ

ส่วนตัวผมจะใช้ Sport Mode ตลอดเวลา กลับพบว่าประหยัดน้ำมันมากกว่าเวลาผมใช้ Mode อื่นๆ ผมว่าจริงๆ แล้วเราต้องเลือกใช้ Mode ให้เหมาะกับการขับขี่ของเรามากกว่า จะทำให้รถตอบสนองเราได้ดีกว่า

Destination ที่จะไปกับ TOYOTA C-HR เร็วๆ นี้

จริงๆ เราทำร้านแบบนี้ เราไม่มีวันหยุด ถ้าวันหยุดก็จะเข้าไปในอำเภอเมือง ปิดร้านไปกินข้าวกัน ซึ่งก็ไปได้นะ ผู้ใหญ่ 4 คน (รวมคุณพ่อคุณแม่) เด็ก 1 คน ก็ยังไปได้ ใส่คาร์ซีทด้วยนะ

จริงๆ เรื่องความกว้าง นี่ก็เป็นอีกจุดนึงที่เทียบกับคู่แข่งในไซส์เดียวกันถือว่าทำได้ดีครับ ด้วยความที่ผมเป็นคนตัวสูง ตอนไปลองผมไปนั่งข้างหลังเพราะอยากจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเรานั่งได้ไหม ปรากฏว่านั่งได้สบายไม่อึดอัด แล้วด้านบนเหนือศีรษะก็เหลือพื้นที่พอสมควร แต่แบรนด์อื่นที่เคยลอง ผมนั่งไม่ได้นะต้องงอเข่า หัวนี่ก็ชนเลย

แต่ถ้าถามว่าตอนนี้อยากไปไหนก็คงต้องรอลูกปิดเทอม คือแฟนผมบ้านเขาอยู่กรุงเทพฯ ลูกปิดเทอมก็คงต้องพาเขาไป คงแวะไปเที่ยวทะเลอะไรอย่างนี้ด้วยครับ

สิ่งที่ชอบจากรถคันนี้

เป็นรถที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนในบ้านหลายๆ คนได้ อย่างที่เราพูดมาทั้งหมด รวมถึงเรื่องการเปลี่ยนโหมดการขับได้ ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว

จริงๆ ผมก็ไม่เคยซื้อรถ TOYOTA เลย แล้วเราก็ไม่เคยคิดจะซื้อเลยนะครับ ที่ลองคันนี้ก็เพราะไปลองยี่ห้ออื่นมาหมดแล้ว ถ้าบังเอิญไปชอบคันใดคันนึงก่อน ก็คงไม่ได้มาถึงคันนี้ แต่ที่ไปลองมา คือติดโน่นติดนี่ตลอด จนมาถึงคันนี้มันโอเคมากๆ ครับ

การได้ลองขับ 7 วัน ถือเป็นจุดเปลี่ยนนะ คิดว่า TOYOTA ควรทำแคมเปญนี้ต่อไป เป็นโครงการที่ดี ผมว่าเขาจะได้ลูกค้าที่ไม่เคยเหลียวแล TOYOTA มาก่อน ผมกล้าพูดคำนี้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 2 ผู้ใช้จริง สำหรับคนที่กำลังมองหารถคันใหม่ คิดว่า TOYOTA C-HR น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่จริงๆด้วยสมรรถนะการขับขี่ ที่พร้อมเดินทางในเมืองและต่างจังหวัด ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำมัน แถมยังมีดีไซน์ที่โดดเด่นอีกด้วย

สำหรับคนที่สนใจทดลองใช้  TOYOTA C-HR ตอนนี้แคมเปญได้กลับมาอีกครั้ง แต่ขออนุญาตลดจำนวนวันจาก 7 วันเป็น 5 วัน เพื่อให้รองรับกับความต้องการของผู้ที่สนใจทดลองใช้ TOYOTA C-HR มากขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://www.toyotaactivity.com/CHR_testuse/

ติดตามกิจกรรมและรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่
Website : www.toyota.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/toyotamotor.th/

RECOMMENDED CONTENT

15.ธันวาคม.2017