จะดีแค่ไหนหากมีสถานที่ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน แถมยังเดินทางสะดวกสบายอยู่ใจกลางเมือง! ซึ่ง Dooddot จะบอกว่ามีแล้วจริงๆนะนั้นก็คือ Central Embassy ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าเขาเป็น Destination ที่จะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนได้ ซึ่ง Central Embassy เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมรสนิยมที่ถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษตั้งแต่แฟชั่นชั้นนำ ร้านอาหารหลากหลายไปจนถึงไลฟ์สไตล์สุดทันสมัย ที่ดึงดูดให้เรามาเปิดประสบการณ์สุด Exclusive ชนิดที่หาที่ไหนไม่ได้ วันนี้ Dooddot จึงจะไปทดลองให้ชีวิต 48 ชั่วโมงใน Central Embassy เพื่อหาคำตอบว่าอะไรที่ #thisbringsmehere
Day 1 / 10.00 น. เริ่มด้วยมื้อ Bruch สุดหรูสไตล์อังกฤษ
ถ้าพูดถึง Harrods แน่นอนว่าต้องนึกถึงน้ำชารสเลิศที่ทานคู่กับของหวานสไตล์อังกฤษได้อย่างลงตัวสุดๆ แต่สำหรับสาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซีแล้วเขาไม่ได้มีแค่มุมจิบน้ำชาชิคๆ แต่ยังมีบริการอาหารจานหลักสุดพิเศษ อย่างเช่นเมนู Egg Royale ที่สะดุดตาเราตั้งแต่การตกแต่งจาน ด้วยไข่สุดกำลังดีที่วางคู่มากับแซลมอนรูปกุหลาบพร้อมกับตกแต่งด้วยผักสลัดและขนมปังกรอบ นอกจากจะสวย อร่อยแล้วยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่ครบครัน เหมาะกลับเป็นจานอาหารเติมพลังในมื้อ Bruch สุดๆ นอกจากมุมอาหารแล้วเขายังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน อาทิ กระเป๋าถือ ตุ๊กตาหมี พวงกุญแจ และชาทุกรสชาติ ให้เลือกซื้อติดมือกลับบ้านไปเป็นของฝาก และน้องหมี Harrods ตัวโตที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้าร้านให้สาวๆได้แวะไปถ่ายรูปด้วย
Day 1 / 13.00 น. ช้อปปิ้งครบครัน ตั้งแต่ Luxury ถึง Street Style
หลังจากเติมพลังเรียบร้อยเราก็พร้อมที่จะลุยช้อปปิ้ง ! อยากไปช้อปสไตล์ไหนเรียกได้เลย เพราะเขามีตั้งแต่แฟชั่นสุด Luxury ไปจนถึงสินค้า Street Style จากหลากหลายแบรนด์ที่เราเห็นแล้วต้องว้าว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รองเท้าระดับพรีเมี่ยมอย่าง Christian Louboutin สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซีเป็นบูติกแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยหรือจะเป็นแบรนด์เครื่องหนังสไตล์ Modern Luxury ที่หลายคนรักอย่าง MCM เขาก็มี flagship store ที่ครบครันทั้งสินค้าตัวดังและคอลเลคชั่นพิเศษที่จะมาลงแค่ที่นี่ที่เดียวอีกด้วย
สำหรับสาวๆที่กำลังมองหาเครื่องแต่งกายใน Spring / Summer นี้ต้องไม่พลาดแบรนด์ alice + Olivia ส่วนหนุ่มๆก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรติดไม้ติดมีอเซ็นทรัล เอ็มบาสซีมีหลากหลายแบรนด์สำหรับบุรุษ ตั้งแต่ hi-end ไปจนถึง Multi-Label Sportwear อย่าง Seek ให้เลือกช้อปอย่างจุใจอีกด้วย
ไม่เพียงแค่ช้อปสนุก แต่ยังคุ้มสุดๆเพราะเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มักจะมี Promotion มากมายหมุนเวียนกันไปในแต่ละเดือนให้เราได้ร่วมสนุกง่ายๆ ทำให้ทุกการใช้จ่ายของเราคุ้มค่าสุดๆ
Day 1 / 17.00 น. ชิวยามเย็นที่ Siwilai City Club
ส่งท้ายวันด้วยทิวทัศน์ยามเย็นสุดฟินที่ Siwilai City Club ซิตี้คลับสัญชาติไทยบนชั้น 5 ของเซ็นทรัลเอ็มบาสซีกับพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตรที่มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่ง ส่วนไฮไลท์นั้นคงหนีไม่พ้น Terrace ระเบียงเอาท์ดอร์ที่มีท้องฟ้าและบรรยากาศเมืองของใจกลางกรุงเทพเป็นฉากหลัง แต่ถ้าให้เราแนะนำต้องนี้เลยโซน City Lounge กับบรรยากาศส่วนตัวสุดๆด้วยแสงสลัวและกำแพงไม้สีเข้ม เหมาะที่จะนั่งชิลดื่มค็อกเทลเพลินๆได้ตั้งแต่ยามบ่าย นอกจากนี้ยังมีมุมเอาใจคอบอลด้วย Sports Bar ให้คุณสามารถชมการถ่ายทอดสดกีฬาแมทซ์สำคัญ แถมยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวิสกี้และค็อกเทลสูตรคลาสสิกสำหรับหนุ่มๆ พร้อมกับบาร์ยาววางอยู่กึ่งกลางห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามแนวยาวที่ทำให้เราสามารถรับบริการจากบาร์เทนเดอร์ได้อย่างใกล้ชิด
Day 1/ 20.00 น. พักผ่อนสุดพิเศษที่ Park Hyatt
หลังจากใช้ชีวิตมาทั้งวัน ก็ควรได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ใช่ไหมล่ะ ขอบอกว่า Park Hyatt นี่เป็นเสมือนโอเอซิสแห่งใหม่ใจกลางเมืองที่วุ่นวายเชียวหล่ะ เพราะเขามีสระะว่ายน้ำพูลเดค สระน้ำเกลือกลางแจ้งที่ทอดตัวยาวถึง 40 ตารางเมตรล้อมรอบด้วย เตียงอาบแดด, ที่นั่งพัก, ระเบียงสวน, และวิวอันสวยงามของกรุงเทพฯด้วย
นอกจากนี้พื้นที่ภายในโรงแรมยังถูกออกแบบให้เรารู้สึกราวกับที่พักส่วนตัวอันเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสะท้อนถึงความเป็นไทย ผ่านการดีไซน์ที่เรียบง่ายและทันสมัยซึ่งได้ผสมผสานศิลปะลายเส้นสมัยใหม่เข้ากับอิทธิพลงานฝีมือแบบไทย รวมไปถึงการต้อนรับที่อบอุ่นเสมือนทีมงานคือเจ้าบ้านที่จะต้อนรับแขกผู้เข้าพักโดย ผนวกกับการให้บริการระดับเวิลด์คลาส และความจริงใจในแบบฉบับของ พาร์ค ไฮแอท รับประกันได้เลยว่าการพักผ่อนในคืนนี้ต้อง Exclusive สุดๆอย่างแน่นอน
Day 1 / Special Hour แวะชม Art Installation ซักนิด
ไม่เพียงแค่สถานที่ช้อป ชิม ชิวเท่านั้นแค่ที่นี้ยังมี Exhibition ที่จัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทุกๆ เดือนให้เราได้เดินชมเพลินๆ อย่างวันที่ 18 พฤษภาคม – 18 มิถุนายน 2560 นี้ก็มี THE BEACH ผลงานการออกแบบของสนาร์คิเทคเจอร์ สตูดิโอออกแบบจากนิวยอร์กบีชที่ได้จำลองชายหาดสีขาวให้เราสามารถเข้ามาร่วมเล่นสนุก ผ่อนคลาย และสัมผัสประสบการณ์ชายหาดที่ไม่เหมือนใครเป็นครั้งแรกในเอเชียด้วย
Day 2 / 11.00 น. สุดยอดอาหารไทยที่ไม่มีผิดหวัง Eat Thai
มาแก้ปัญหาโลกแตกอย่าง “วันนี้กินอะไรดี” ที่ Eathai กันเถอะ เพราะที่นี่เขาเป็นศูนย์รวมความอร่อยของ Street Food ชื่อดังจากทุกภาคทั่วไทย เช่น ร้านแสนยอด จากไชน่าทาวน์, ครัวหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์,อาหารฮาลาล ปักษ์ใต้จาก Makan Halal หรือร้านหมูปิ้งคุณทิพย์ก็มีให้เลือก แถมยังมีมุมอร่อยที่หมุนเวียนอาหารจากตลาดดังๆทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล มาให้เราได้ลิ้มลองกันถึงใจกลางเมือง ขอบอกว่าอาหารละลานตาแบบจนไม่อยากหยุดทานแค่เมนูเดียวแน่ๆ
Day 2 / 13.00 น. ตอบโจทย์กิจกรรมของทุกคนในครอบครัวที่ Open House
ต้องบอกว่า Open House บนชั้น 6 ของ Central Embassy เป็นพื้นที่ๆเหมือนบ้านจริงๆ หลายคนอาจจะคิดว่า Open House มีแค่หนังสือวางจำหน่าย แต่จริงๆแล้วเขามีโซนการใช้งานที่หลากหลายครอบคลุมสำหรับทุกวัยสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น Co-Thinking Space พื้นที่สำหรับทำงานที่ออกแบบและใส่รายละเอียดต่างๆ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และไอเดียใหม่ๆให้เกิดขึ้นตลอดเวลา ตั้งแต่ห้องประชุมที่เหมาะสำหรับการระดมความคิดและทำงานเป็นทีม ไปจนถึง Open Bar ที่มีอาหาร ขนม เครื่องดื่มค็อกเทลและแอลกอฮอล์ ไว้จุดประกายไอเดียของคุณ
หรือจะเป็นบริเวณ Open Playground สนามเด็กเล่นที่จะทำให้เด็กๆ สามารถสัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานกับเครื่องเล่นต่างๆ ให้รู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง แล้วยังสามารถสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช็อปและงานคราฟต์ดีๆ เอาใจเด็กๆ ที่จะจัดขึ้นตามโอกาสต่างๆได้อีกด้วย ถ้าหิวๆอยากได้อาหารลองท้องเขาก็มี Eating Deck โซนกึ่งบริการตนเองที่รวบรวมความอร่อยจากร้านอาหารหลากสไตล์ตั้งแต่ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นที่เน้นเสิร์ฟเมนูอาหารจีนแบบง่ายๆ จาก Bao and Buns หรือใครที่ทานมังสวิรัติก็มีตัวเลือกอย่าง Broccoli Revolution Embassy นอกจากนี้เขายังมี Egg My God ที่มาพร้อมความพิเศษด้วยจานลวดลายน่ารักเตรียมไว้สำหรับเสิร์ฟเมนูอร่อยเอาใจเด็กโดยเฉพาะ
Day 2 / 17.00 น. ลิ้มรสพิซซ่า Neapolitan Style ที่มาเสิร์ฟให้ถึงกลางเมือง Peppina
มาปิดท้ายทริปนี้ด้วยร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์นาโปเลียนชื่อดัง อย่าง Peppina ที่ครั้งนี้มาเปิดสาขาใหม่ถึงใจกลางเมือง ทำให้เราไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดไปถึงทองหล่อ ซึ่งพิซซ่าของ Peppina นั้นทำทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงอาหารเพื่อให้เราได้สัมผัสรสชาติของ Neapolitan pizza ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยแป้งพิซซ่าที่เบา เนื้อเหนียว และกรอบเล็กน้อยทำให้ได้รสชาติอาหารอิตาเลียนแบบออริจินัล นอกจากคุณภาพครบครันตามแบบฉบับของ Peppina แล้วที่สาขานี้เขายังมีเมนูพิเศษสำหรับ Central Embassy โดยเฉพาะ
Day 2 / Special Hour เติมเต็มทุกความต้องการ กับงานบริการสุดพิเศษ
ไม่ต้องกลัวว่าความสนุกจะสะดุดเพราะเขามีบริการพิเศษมากมายที่ช่วยให้การช้อปปิ้งของคุณคอมพลีทได้ทั้งวันด้วย อาทิ Mobile Charging service ที่ให้บริการชาร์จมือถือฟรีขณะที่เราเพลิดเพลินกับการช้อป หรือถ้าไม่อยากให้โทรศัพท์ห่างตัวเขาก็มีบริการให้ยืมแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ด้วยนะ เรียกว่าตอบโจทย์สิ่งมีชีวิตยุคดิจิทัลสุดๆ
นอกจากนี้ระหว่างช้อปเพลินๆ หากกลัวว่าร้านอาหารที่เราอยากทานจะเต็มก็สามารถจองร้านอาหารทั้งที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และห้างเซ็นทรัลชิดลมได้ด้วย จะติดต่อเองที่จุดบริการลูกค้าสัมพันธ์ (Concierge Counter) ชั้น G หรือ โทร.02-119-7777 ต่อ 2001-3 ก็ได้
ยังๆไม่หมด เพราะเราจะปิดท้ายความ Exclusive ด้วยบริการรถรับส่งสุดเก๋อย่าง Tuk Tuk Service ที่จะคอยรับส่งเราในสองเส้นทางคือรับ-ส่ง ระหว่าง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี, ห้างเซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ซึ่งสามารถขอใช้บริการได้ที่จุดรับ-ส่ง หน้าประตูทางเข้าฝั่ง Gucci ส่วนห้างเซ็นทรัลชิดลมใช้บริการได้ที่ประตูฝั่งลานมรกตตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. และอีกเส้นทางคือจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไปยัง 16 โรงแรมพันธมิตรตั้งแต่เวลา 11:00-19:00 น. ซึ่งสามารถขอรับบริการได้เลยที่จุดบริการลูกค้าสัมพันธ์ (Concierge Counter) ชั้น G หรือ Doorman เจ้าหน้าที่ประจำประตูทางเข้า-ออก ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซีและ 16 โรงแรมพันธมิตร นอกจากนี้หากใครเป็นสาย Eco ก็มีบริการ Free Charging สำหรับรถยนต์ Electric Hybrid Cars หรือ Plug-in Electric Vehicle ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรักษ์โลกด้วย!
ต้องบอกว่า Central Embassy นี้เป็นเป้าหมายสำหรับทุกคนจริงๆ เพราะที่เราพูดถึงนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เขามีให้เท่านั้น ถ้าจะเดินให้ครบเวลาเพียง 48 ชั่วโมงคงไม่พอ อย่างที่เขาบอกสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เพราะเช่นนั้นเราแนะนำให้ตรงดิ่งไปที่ Central Embassy เพื่อหาตำตอบว่าสำหรับคุณแล้วอะไรที่ #thisbringsmehere
ติดตามรายลเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่:
Website : www.centralembassy.com
Facebook : https://www.facebook.com/centralembassy
RECOMMENDED CONTENT
[Review] Dooddot : Under Armour HOVR Phantom RN รองเท้า […]