เวลานึกถึงย่านทองหล่อ ภาพในหัวเป็นต้องแว๊บไปที่แหล่งแฮงเอาต์ทุกที บ่อยครั้งเราเดินผ่านทองหล่อไปโดยไม่รู้ว่านอกจากผับบาร์แน่นเอียดในระแวกนั้น ที่นี่ยังมีสถานที่ดีงามซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยเต็มไปหมดรอให้เราไปค้นหา ลองใช้ชีวิตช้าๆ ลงรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ แล้วเดินทอดน่องแบบไม่เร่งรีบ เปลี่ยน 1 วันธรรมดาของคุณให้เต็มไปด้วยสีสัน และจัดจ้านไปด้วยรสชาติอันหลากหลายของชีวิต ไปค่ะ ลุย!
1. จิบโกโก้ขมกับขนมหวานที่ Thinking Outside the Fox
จะมีอะไรดีไปกว่าเริ่มต้นวันกับมื้อเช้าดีๆ ร้านขนมแสนน่ารักชื่อ Thinking Outside The Fox ซ่อนตัวอยู่ในซอยทองหล่อ 14 นี่ละตอบโจทย์สุด ไม่รอช้าเราสั่ง Signature Hot Cocoa โกโก้ร้อนที่มีมาร์ชเมลโล่กับคุ้กกี้มาอุ่นท้องก่อนจะชิมขนม I Mist Brownie ที่ใช้บราวนี่เข้มข้นอบร้อนๆ กินคู่กับไอศกรีมวานิลลาเย็นเจี๊ยบ มันช่างเข้ากั๊นเข้ากัน แต่ยังไม่หนำใจเราหรอก สั่ง Green Tea Matcha Cubes มาปิดท้ายตัดความหวานอีกนิด นอกจากจะเป็นคาเฟ่เล็กๆ ดีไซน์แน่นแล้ว ถ้ำสุนัขจิ้งจอกแห่งนี้ยังมีโซน Lifestyle Store สินค้าน่ารักให้แวะช้อปฯ กลับบ้านไปด้วย
Thinking Outside The Fox
ซอยทองหล่อ 14 สุขุมวิท 55 (BTS ทองหล่อ)
เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 12.00-20.00 น.
โทร. 02-390-2847
https://www.facebook.com/ThinkinOutsideTheFox/
2. หลุดไปในโลกเสียงเพลงที่ 8 Musique
หลังจากท้องอิ่ม ขาก็พาเดินเตร็ดเตร่มายัง Eight Thonglor คอมมิวนิตี้มอลล์อีกแห่งย่านทองหล่อ ด้วยเหตุผลเดียวคือร้าน 8 Musique เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักแผ่นเสียงก็คงได้ เพราะเขามีแผ่นเสียงและซีดีเพลงเพียบ เน้นไปที่ศิลปินนอกกระแส มีศิลปินอินดี้ไทย รวมถึงมีอัลบั้มหายากที่นักฟังเพลงบอกต่อกันว่าต้องมาโดนให้ได้สักครั้ง! แถมราคาก็สมเหตุสมผล ไม่ได้แพงเวอร์จนจับต้องไม่ได้ ในยุคที่การฟังเพลงเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย การกลับไปหาการฟังเพลงแบบละเมียดละไม ค่อยหย่อนแผ่นเสียงลงบนเครื่องเล่น แล้วมองมันหมุนไปเรื่อยๆ ก็อาจทำได้เสพความสุนทรีไปอีกแบบเหมือนกันนะ
8 Musique
ชั้นใต้ดิน โครงการ Eight Thonglor ซอยทองหล่อ 8 สุขุมวิท 55 (BTS ทองหล่อ)
โทร. 02-713-8366
https://www.facebook.com/8-Musique-311579032282608/
3. เดินเล่นหาแรงบันดาลใจใน The Commons
ถึง The Commons คอมมิวนิตี้มอลล์ย่านทองหล่อซอย 17 จะไม่ใช่แหล่งแฮงเอาต์ใหม่เอี่ยม ถ้าเทียบกับคอมมิวนิตี้มอลล์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันในกรุงเทพฯ ราวกับดอกเห็ด แต่เราก็ยังรู้สึกอินกับที่นี่อยู่ดี เพราะมันแตกต่างไปจากที่อื่น ยังไงน่ะเหรอ The Commons ให้ความรู้สึกว่าเวลาหนึ่งวันของเราช่างคุ้มค่าเหลือเกิน มีร้านอาหารดังจากทุกสารทิศมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ ว่าจะเป็นกาแฟ Specialty ร้าน รูทส์ (Roots), ขนมปังเหนียบนุ่มของ เมซง ฌอง ฟิลลิป (Maison Jean Philippe), เบียร์นานาชาติ จาก The Beer Cap, พิซซ่าจาก เป็ปปิน่า (Peppina) และอื่นๆ อีกเพียบ มาแชร์กัน กินไป สนทนาไปรับลมธรรมชาติ หรือจะหาหนังสือสักเล่มมาอ่าน เอางานมานั่งทำก็ไม่มีใครว่า พร้อมกับเดินดูงาน Architect ของอาคารเพลินๆ เพิ่มเติมแรงบันดาลใจก่อนกลับบ้านก็ยังได้
โครงการ The Commons ทองหล่อซอย 17 สุขุมวิท 55 (BTS ทองหล่อ)
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-00.00 น. (แต่ละร้านเปิดบริการไม่พร้อมกัน)
https://www.facebook.com/thecommonsbkk/
4. มื้อเที่ยงดีต่อใจที่ Endo Sushi
ร้านอาหารมีเยอะแยะไปหมดในซอยทองหล่อ แต่เมื่อเราเลือกมาที่ Endo Sushi ทันทีแบบไม่ ต้องคิดนานหลังจากเปิดดูรีวิว แล้วก็ตรงดิ่งมายังชั้น 2 โครงการ The Taste พิกัดของร้านซูชิโอมากาเสะ (Omakase) ตำรับโอซาก้าในตำนานที่คงความเก๋ามาตั้งแต่ปี 1907 โดยโอมากาเสะของที่นี่จะเสิร์ฟข้าวปั้นนิกิริแบบ 5 คำ มีให้เลือกด้วยกัน 4 เซ็ตแล้วแต่ว่าเชฟจะเลือกปลาอะไรมาเป็นพระเอกในวันนั้น เราเลยลอง สั่งเซ็ต A ที่มี อูนางิ (Unagi) อูนิ (Uni) เอ็นกาวะ (Engawa) โทโร่ (Toro) และฮามาจิ (Hamachi) นอกจากนั้นก็ยังมีซูชิแบบ A La Cart และ ซาชิมิเซ็ต ที่เราเลือกแบบรวม 5 อย่าง แล้วก็สั่งเบียร์ Asahi Super Dry มาแกล้มด้วย เนื้อปลาฉ่ำซอสกับเบียร์คลุกเคล้ากันอยู่บนลิ้นคือดีงามพระรามเก้า สดเด้งจนต้องร้องขอชีวิต แถมเชฟชาวญี่ปุ่นผู้ยืนยิ้มดูเรากินอยู่นี้ก็ไม่ใช่ใคร เพราะเขาคือเชฟใจดีคนเดิมผู้อยู่ประจำร้านเอ็นโดสาขาโอซาก้านั่นเอง ไปเหอะ อยากให้กิน!
เอ็นโด ซูชิ Endo Sushi
ชั้น 2 โครงการ The Taste ซอยทองหล่อ 11 สุขุมวิท 55 (BTS ทองหล่อ)
เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)
Lunch 11.30-14.00 น.
Dinner 17.30-22.00 น.
โทร. 02-712-5211
5. แวะตัดผมที่ Black Amber
ถ้ามีเวลาเหลือช่วงบ่ายๆ ลองแวะมา Black Amber ร้านตัดผมสุภาพบุรุษวินเทจ ตั้งแต่เครื่องไม้เครื่องมือของช่างไปจนถึงการตกแต่งบรรยากาศเหมือนเข้าไปอยู่ในหนังขาวดำ มีกลิ่นอายความ Classy แบบสุภาพบุรุษปี 1920s ในทุกอณู และมันไม่ได้เป็นแค่ร้านตัดผมคอนเซ็ปต์จัดทั่วไป นอกจากจะมีช่างผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Glooming หัวจรดเท้าแล้ว ความเก๋อีกอย่างของที่นี่อีกคือมีมุมบาร์ให้นั่งทอดอารมณ์ จิบชากาแฟ สูบซิการ์ หรือใครถนัดจิบวิสกี้มากกว่าก็ทำได้ เหมือน Social Club ที่สามารถมาสร้างบทสนทนากับเพื่อนและใช้เวลาอ้อยอิ่งหล่อๆ ได้ทั้งวัน
Black Amber Barber Shop & Tattoo
อยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 5 และ 7 สุขุมวิท 55 (BTS ทองหล่อ)
เปิดบริการทุกวัน เวลา 12.00-21.00 น.
โทร. 081-869-9393
https://www.facebook.com/blackamberbarber/
6. จิบเบียร์ กินปู ดูพระอาทิตย์ตกที่ Shinsen Fish Market
เรานั่งรถลัดเลาะซอยทองหล่อ 13 มายังสุขุมวิท 39 ด้วยเหตุผลเดียวคืออยากลองชิมอาหาร ทะเลที่ล่ำลือเรื่องความสด ณ ตลาดปลาใจกลางเมือง ‘ชินเซ็น ฟิช มาร์เก็ต’ ที่แบ่งเป็นโซนซูเปอร์มาร์เก็ต บาร์เครื่องดื่ม และโซนบ่อเลี้ยง มีทั้ง ล็อบสเตอร์ ปูขน ปูทาราบะตัวเบิ้ม สามารถจิ้มได้เลยว่าอยากได้ตัวไหน นอกจากจะว้าวกับบรรดากุ้งหอยปูปลา ที่โซนซูชิบาร์ เขายังมีเมนูอื่นๆ เช่น เสต็กเนื้อ ซี่โครงหมู สแกลลอป และสามารถสั่งปูทาราบะตัวใหญ่ที่เห็นในบ่อมาให้เชฟนึ่ง โดยเขาจะคิดราคาตามน้ำหนัก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบแล้วนั่งกินตรงนั้นเลยก็ได้ ว่าแล้วก็ขอสั่งเบียร์ Asahi Super Dry เย็นๆ มาจิบคู่กับเนื้อปูหวานฉ่ำ แกล้ม Sashimi Set นั่งดูพระอาทิตย์ตกในซอยสุขุมวิทก็ไม่เลวเหมือนกัน ปิดท้ายวันแบบชีวิตดีไปอี๊กกก
Shinsen Fish Market
ซอยสุขุมวิท 39 (เชื่อมต่อกับซอยเพชรบุรี 38/1) ติดกับตึกอิตัล-ไทย BTS พร้อมพงษ์
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.
โทร. 02-260-6522
https://www.facebook.com/Shinsenfishmarket
Asahi SuperDry
เสน่ห์อย่างหนึ่งของชีวิต คือการได้ค้นหารสชาติใหม่ๆ และเติมเต็มความกลมกล่อมได้ไม่รู้จบ ด้วย Dry Beer เบียร์ที่หมักจากยีสต์สายพันธ์ดีที่สุดของญี่ปุ่น อย่าง Asahi Super Dry ที่จะทำให้การผสมผสาน ความสุขกับเมนูโดนๆ ใหม่ๆ นั้นละมุนกว่าที่เคย
“โลกทัศน์ของรสชาติใหม่ เปิดได้ง่ายๆ แค่ลองเปิดเบียร์สักขวด ที่เหลือก็แค่เปิดใจเตรียมรับความฟินไว้ได้เลย”
Website : http://www.asahibeer.com/
Facebook : https://www.facebook.com/AsahiSuperDryBeer/
RECOMMENDED CONTENT
หลังจากห่างหายไปร่วม 2 ปี สำหรับสองคู่หูพี่น้อง Plastic Plastic ประกอบด้วย “เพลง ต้องตา-จิตดี (ร้องนำ,คีย์บอร์ด)” และ “ป้อง ปกป้อง-จิตดี(กีต้าร์)” วงดนตรีอินดี้ป็อปดูโอ้ จากสังกัด What the duck (วอท เดอะ ดัก) ที่สร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีมานานกว่า 12 ปี เจ้าของเพลงดังอย่าง “วันศุกร์” , “อยากรู้” , “Summer Hibernation” และ “ฮัม” พวกเขาได้หวนสู่วงการดนตรีอีกครั้ง พร้อมส่งเพลงฟีลกู๊ด ทำนองน่ารัก ที่ชวนทุกคนมาคลายความเหนื่อยล้าไปกับการล้มตัวลงบนหมอนสุดสบาย ในซิงเกิลใหม่ล่าสุดอย่าง “Pillow Pillow”