ขึ้นชื่อว่าแบรนด์ระดับท็อปของโลกอย่าง “วาเลนติโน” (Valentino) ลงมือทำอะไรแล้ว ต้องลงลึกถึงแก่นแท้วัฒนธรรม สัมผัสให้รู้สึกถึงขั้นจิตวิญญาน สะท้อนให้แฟชั่นนิสต้าแฟนวาเลนติโนทั่วโลกได้กระจ่างชัดอีกครั้ง กับดีไซน์ที่ครองใจทั้งชาวญีปุ่นแท้และนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อได้มีโอกาสไปส่องแฟชั่นไอเท็มเด็ด ที่ช็อปชื่อดัง เป้าหมายแรกของนักช้อปย่านกินซ่า “วาเลนติโน แฟลคชิป บูทีค” (Valentino Flagship Boutique) เพราะนอกจากจะเป็นช็อปที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ในตึก 4 ชั้น ที่ตั้งอยู่บนแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น อย่างกินซ่า ซิกซ์ ย่านกินซ่า กรุงโตเกียวแล้ว ยังผสานศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบเจแปนได้อย่างดีเยี่ยม ต้องปรบมือให้ทีมวาเลนติโนทุกคนทั่วโลก ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแฟชั่นนิสต้าชาวญี่ปุ่นผู้นำแฟชั่นของโลกฝั่งตะวันออก รวมถึงทุกเชื้อชาติที่ได้มีโอกาสไปเยือน
“Whit TKY Concept Store” ใน กินซ่า ซิกซ์ แห่งนี้ มร.ปิแอร์เปาโล ปิคชิโอลี (Pierpaolo Piccioli) ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ วาเลนติโน (Creative Director Valentino) และ วาเลนติโน (Valentino) เริ่มต้นงานที่น่าสนใจ ผสานแนวคิดสองแบบของญี่ปุ่น “ma” พื้นที่ที่มองไม่เห็น และ wabi-sabi ความคิดของความไม่สม่ำเสมอ และความไม่สมบูรณ์ด้วยความสามัคคีของพื้นที่ และ “Beauty” ของเบลเลซซา มร.ปิแอร์เปาโล ปิคชิโอลี สร้างสรรค์โลกของ Valentino TKY ร่วมกับ ซาร่า แอนเดลแมน (Sarah Andelman) ให้เป็นพื้นที่ที่มีศิลปะ ดนตรี วิสัยทัศน์และประเพณีที่อยู่ในทุกลมหายใจของผู้คน
แนวคิดหลักของการออกแบบช็อป มาจาก “Wakon Yosai” ความรู้ด้านจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น แสดงถึง Koubou รุ่นใหม่ Bottega Atelier การทดลองคุณภาพของรูปแบบและวัสดุจากมุมมองที่แตกต่างกัน ได้แก่ Italian และ Japanese ผสานกับจิตนาการในรูปแบบ “ตะวันตก” และความชำนาญในการปฏิบัติงานของชาวญี่ปุ่นยุคโบราณผ่านทางวิสัยทัศน์ของ Valentino จนถูกมองว่าเป็นแคปซูลเวลาที่วัฒนธรรมหัตถกรรมและศิลปะถูกรวมอยู่ในกรอบที่ไร้กาลเวลา ซึ่งไหลผ่านมาจากเวลาหลายพันปี จนกระทั่งปัจจุบันอันสดใส โดยได้เชิญศิลปินและแบรนด์ต่างๆ มาร่วมกันวาดภาพวิธีใหม่ในการแปลความหมายใหม่ๆ เกี่ยวกับประเพณีการแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์อันยาวนานของญี่ปุ่น สะท้อนแนวคิดการปฏิบัติที่หลากหลายและความเคารพต่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นและเป็นเอกลักษณ์ของสังคมญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ไฮไลต์น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกัน
การตีความในรูปแบบ “Valentino” ของ Doublet ช่วยให้วัฒนธรรมพื้นบ้านของเสื้อคลุมและเสื้อยืดมีมิติใหม่ ซึ่งภาพลักษณ์ของรอยสักถูกเปลี่ยนเป็นลวดลายที่สวยงามซึ่งสัญลักษณ์ของวาเลนติโนกลายเป็นป่าแห่งความหมายใหม่
“Undercover” ช่วยเติมเต็มความเป็นมาของศิลปะและการวาดภาพของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เพื่อสร้างกระเป๋า Valentino อันประณีตและแท้จริงด้วยจิตวิญญาณอันทันสมัย Kouroki นำคุณภาพที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์ของผ้ายีนส์ญี่ปุ่นหลังสงครามมาสู่ประเพณีผ้ายีนส์แบบ Valentino classic bespoke denim
คอลเลกชั่นของ “Valentino Capsule” จะสำรวจและฟื้นฟูความโดดเด่นของการ์ตูน Manga อันเปลี่ยนไปจากสัตว์ดั้งเดิมของ Valentino ผีเสื้อ มังกร เสือดำ เสือ และงู ในตัวการ์ตูนที่มีชีวิตชีวาใหม่ด้วยอัตลักษณ์อิสระของตนเอง
“Yosegi-zaiku” ศิลปะโมเสกไม้ที่มาจากยุคอีดีโอ เป็นผลงานของ Katsukiyo Tsuyuki ความแม่นยำและการประดิษฐ์งานศิลปะเหล่านี้ทำให้เรานึกถึงการแกะสลักหินที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือต้นแบบในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
. “Yuki Murabyashi” นำเสนอศิลปะของประตูบานเลื่อน Fusumae-shi ซึ่งเป็นพื้นผิวที่เป็นทั้งหน้าจอและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่แบ่งพื้นที่ออกไป
ศิลปะของ “Takayuki Miura” เป็นการตีความที่ละเอียดอ่อนของหมุดปักผม Kazar kanzashi.
“Ichiyu Terai” ทำงานร่วมกับหน้ากาก Nohmen-shi noh เพื่อสร้างตัวละครร่วมสมัย
“Tomizo Saratani” และ “Urushi HAKOSE” นำมาสู่ “ตอนนี้” เครื่องขัด Urushi จาก 5000 BC
ซาโตชิคามิยะตีความ “Origami Muromachi” จากยุคชินโต เพื่อสร้างสัตว์ที่ดูเหมือนจะเป็นหนังไซไฟหรือสัตว์ประหลาดที่แปรปรวนของ Transformer
รูปถ่ายของ “Tetsuya Noguchi” วางภาพ Samurai ให้เป็นท่าทางในชีวิตประจำวัน
ภาพ “Izumi Miyazaki” แสดงถึงความคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงว่า “วัฒนธรรมบนท้องถนน” หมายถึงการให้ค่ากับสภาวะจิตภายใน มากกว่า ทัศนคติที่ทันสมัย
RECOMMENDED CONTENT
แซมรู้สึกว่ายังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของแซมมากๆ แซมยังเป็นคนนึงที่แซมมองเรื่องดนตรีเป็นเรื่องของความสนุกอยู่ แซมชอบที่จะได้ทดลองเพลงต่างๆ วิธีการเขียนต่างๆ เหมือนกับดนตรีมันยังเป็นงานอดิเรกของแซมด้วย แล้วพอเราได้ออกมาทำเป็น Job ด้วยจริงๆ มันก็แฮปปี้ดี ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าศิลปินเต็มตัวได้ไหม แต่ว่าก็ทำอยู่เรื่อยๆ