fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#TRAVEL — สัมผัสสวรรค์บนดินที่มีอยู่จริง ‘ฮาลองเบย์’ มหัศจรรย์แห่งอ่าวมังกรร่อนลงในเวียดนาม
date : 21.กันยายน.2017 tag :

Vietnam Ha Long Bay Tour Dooddot Cover

01—

เวลาไฟในตัวคุณเริ่มมอด รู้สึกเฉื่อยๆ ชาๆ คุณมีวิธีชาร์จแบตให้กับตัวเองอย่างไร? สำหรับเราบอกได้เลยว่าคือการออกเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศ ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากได้หยุดยาว เราเลยถือโอกาสนี้ชาร์ตแบตให้กับตัวเองให้เต็มที่ โดยการจัดทริปไปเที่ยวเวียดนามรวมทั้งหมด 7 วันเต็ม

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่เราได้ไปเยือนเวียดนาม หลังจากที่เคยไปเที่ยวเมืองโฮจิมินห์เมื่อช่วงปลายปี 2013 สำหรับการไปเที่ยวช่วงปีใหม่นี้ เราเลยเลือกไปเที่ยวฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ซึ่งได้ยินมาบ่อยครั้งจากเพื่อนๆ ที่เคยไปเที่ยวกันว่า เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสีสัน และมนต์เสน่ห์ของความดั้งเดิม ที่ถ้าคิดอยากจะเที่ยวรอบๆ โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องห้ามพลาดเมืองฮานอยเด็ดขาด

สำหรับทริปนี้ เราเริ่มแพลนการท่องเที่ยวด้วยการไปทัวร์ ‘ฮาลองเบย์’ แบบ 2 วัน 1 คืน โดยจัดการจองทัวร์ผ่านทางโรงแรมที่เราพัก ว่ากันว่าถ้ามาเที่ยวเมืองฮานอยแล้ว ต้องห้ามพลาดไปเที่ยวฮาลองเบย์ เพราะนั่งรถจากฮานอยไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง แถมยังเป็นทริปที่ได้ค้างคืนล่องเรือชมอ่าวแบบสุดพิเศษอีกต่างหาก ถ้าไม่ไปต้องเสียดายมากแน่ๆ เย็นวันแรกที่เราไปถึงฮานอย เราเลยขอเก็บแรงนอนพักที่โรงแรม เพื่อเช้าวันใหม่จะได้รู้สึกสดชื่น เที่ยวฮาลองเบย์ได้อย่างเต็มๆ ตา

เช้าวันต่อมา เวลาแปดโมงตรง รถของบริษัททัวร์ Galaxy Cruise ก็มารับที่หน้าโรงแรม มีไกด์ลงจากรถมารับเราพร้อมกับแนะนำตัวว่าชื่อ ‘ฮวาน’ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนภาษาอังกฤษก็ถือว่าพูดใช้ได้ ถึงแม้พี่แกจะสำเนียงแปร่งๆ ฟังไม่ออกบ้างเป็นบางครั้งก็ตาม รถที่จะพาเราไปเที่ยวเป็นรถมินิบัสของทางบริษัททัวร์ ตอนเราขึ้นไปรถยังโล่งไม่มีใครนั่ง ไกด์ฮวานบอกว่าเดี๋ยวเขาจะต้องวนรับลูกทัวร์จากโรงแรมอื่นในละแวกใกล้ๆ กันก่อน ถึงจะเริ่มขับออกนอกเมือง

หลังจากที่รถวนรับคนจากโรงแรมนู้น โรงแรมนี้ได้สักเกือบ 20 นาที คราวนี้รถมินิบัสก็แน่นไปด้วยลูกทัวร์เกือบทุกที่นั่ง มีคู่ที่มาจากอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ เมื่อรับลูกทัวร์จากทุกโรงแรมเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ไกด์ฮวานก็เริ่มเกริ่นว่าวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง การเดินทางเป็นยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่ พร้อมทั้งเล่าตำนานสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในวันนี้ เป็นอินโทรให้พวกเรานึกภาพตาม

null
ตึกรามบ้านช่องนอกเมืองฮานอย ระหว่างขับรถแล่นผ่าน

02—

สำหรับ ‘ฮาลองเบย์’ หรืออ่าวฮาลองนั้น ไกด์ฮวานเล่าให้ฟังว่า ชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามนั้นเขียนว่า ‘Vinh Ha Long’ ซึ่งหมายถึง ‘อ่าวมังกรร่อนลง’ เนื่องจากตามนิทานปรัมปราของชาวเวียดนามได้กล่าวไว้ว่า ในสมัยโบราณ ระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมา กลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วทั้งอ่าว เป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินของพวกเขาได้สำเร็จและก่อตั้งประเทศซึ่งต่อมาก็คือเวียดนามในปัจจุบัน

จากความสวยงามและสมบูรณ์แบบของอ่าวฮาลองนี้เอง ทำให้ที่นี่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์กรยูเนสโกในปี 1994 ซึ่งเปรียบเสมือนประกาศนียบัตรที่ใครเห็นหรือทราบถึงต่างเชื่อถือ จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศเวียดนาม ต่างต้องจองทัวร์ล่องเรือมาชมอ่าวฮาลอง เพื่อสัมผัสและเห็นกับตาถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติของอ่าวฮาลอง

ส่วนที่ตั้งของอ่าวฮาลองนั้น ตั้งอยู่ในจังหวัดกว่างนิง (Quang Ninh) อยู่ทางเหนือของกรุงฮานอย ห่างออกไปทางตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน จากฮานอย นั่งรถไปใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 4 ชั่วโมง จากนั้นต้องไปต่อเรือที่ท่าเรือเฟอร์รี่ เพื่อขึ้นเรือไปเที่ยวฮาลองเบย์

เนื่องจากต้องนั่งรถเกือบๆ 4 ชั่วโมงเต็ม ไกด์ฮวานบอกว่าพวกเราจะมีการแวะจอดรถที่ร้านขายของที่ระลึกระหว่างทาง ให้ทุกคนได้แวะเข้าห้องน้ำ หรือซื้อขนมขบเคี้ยวกินเล่นตามอัธยาศัย ประมาณ 10 โมงกว่า พอรถบัสของพวกเรามาพักจอดที่ร้านดังกล่าว แต่ละคนเลยไม่รอช้าที่จะก้าวลงจากรถ ยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย และซื้อชา กาแฟมาดื่มให้หายง่วง ก่อนที่จะขึ้นรถต่อไปอีก 2 ชั่วโมง เพื่อไปที่ท่าเรือ

null
เหล่าเรือโดยสารลำเล็กตรงท่าเรือ ก่อนขึ้นไปยังเรือใหญ่

null
เรือทัวร์เฟอร์รี่ล่องไปอ่าวฮาลอง

03—

หลังจากที่หลับมาตลอดทาง เราก็ถูกแฟนปลุกให้ตื่นตอนเกือบๆ เที่ยง บอกว่าพวกเราจะถึงท่าเรือในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว หลังจากที่แต่ละคนลงจากรถพร้อมกับสัมภาระ พวกเราก็เดินตามไกด์ฮวานไปยืนรวมพลกันตรงท่าเรือ โดยมีเรือเล็กจอดรอรับพวกเราอยู่ เพื่อขับพาไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ที่จอดห่างออกไปไม่ไกลนัก ตอนที่ลูกทัวร์แต่ละคนรอขึ้นเรือนั้น สัมผัสได้เลยว่าแต่ละคนมีความตื่นเต้น รวมถึงตัวเราเอง

ที่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่จะได้มานอนค้างคืนในเรือ สิ่งแรกที่คิดอยู่ตอนนั้นคือ ห้องที่พวกเราจะนอนพักมีหน้าตายังไง และมื้ออาหารบนเรือนี้จะมีอะไรบ้าง เพราะตอนนั้นเริ่มหิวและรู้สึกเพลียๆ หลังจากถูกแกว่งไปแกว่งมาอยู่บนรถมาตลอดทั้งเช้า

พอขึ้นมาบนเรือใหญ่ปุ๊ป พวกเราก็ถูกต้อนรับด้วยลูกเรือที่พาทุกคนไปยังชั้นสองของเรือที่เป็นห้องกินข้าว ข้างในทำด้วยไม้สีน้ำตาลทั้งหมด มีบริเวณกว้างขวาง มีกระจกรายล้อม ให้บรรยากาศที่ดูโปร่งสบาย มีบาร์เหล้า และโต๊ะอาหารประมาณ 7–8 โต๊ะ ก่อนที่พวกเราจะทานอาหารกลางวันกัน ไกด์ฮวานก็ได้แจกกุญแจห้องให้กับพวกเรา พร้อมบอกให้ทุกคนไปเก็บของ ล้างหน้าล้างตาในห้องพักให้เรียบร้อย ซึ่งห้องพักแต่ละห้องจะอยู่ชั้นล่างสุดของเรือ มีทั้งแบบเตียงคู่และเตียงเดี่ยว มีห้องน้ำให้ในตัว และกระจกริมผนังให้ชมวิว

การตกแต่งทุกอย่างดูสวยงามกว่าที่เราคิดไว้มาก เรียกได้ว่าดูดีไม่แพ้โรงแรมระดับ 3–4 ดาวแบบในเมืองเลย หลังจากเก็บของอะไรเรียบร้อย เราก็ขึ้นไปทานข้าวบนห้องอาหารกับลูกทัวร์คนอื่นๆ ระหว่างนั้นไกด์ฮวานก็บอกพวกเราถึงตารางกิจกรรมที่จะทำกันหลังกินข้าว นั่นก็คือจะพาไปเยี่ยมชมถ้ำด่งเทียนกุง (Dong Thien Cung) เสร็จแล้วช่วงสายๆ หน่อยก็จะมีการพายเรือคายัค แต่ถ้าใครไม่อยากไปภายเรือก็สามารถชิลล์อยู่บนเรือใหญ่ได้

null

04—

พอทุกคนกินข้าวเสร็จ ต่างก็ไม่รอช้าที่จะขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของเรือ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของอ่าวฮาลองให้เต็มๆ ตา โชคดีที่วันนั้นอากาศเป็นใจ ถึงแม้ว่าอากาศจะค่อนข้างเย็นมีลมโกรกอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีแดดออกตลอดทั้งวัน ท้องฟ้าที่สดใส ตัดกับสีเขียวมรกตของท้องทะเลอันกว้างขวางและหินผาของเกาะต่างๆ ที่ลดหลั่น แต่งแต้มวางสลับกันไป ช่างเป็นภาพที่สวยงามและดูสงบเหลือเกิน อย่างกับหลุดออกมาจากภาพวาดจีนโบราณยังไงยังงั้น เป็นวิวที่เราสามารถทอดมองได้เป็นวันๆ โดยไม่มีเบื่อจริงๆ

ระหว่างที่ชมทิวทัศน์ของอ่าวฮาลองอยู่นั้น ก็จะเห็นว่ามีเรือเฟอร์รี่ของทัวร์อื่นๆ ลอยควบคู่มากับเรือของเราอยู่เป็นระยะๆ เรือท่องเที่ยวในอ่าวฮาลอง ส่วนใหญ่จะเป็นเรือขนาดกลางแบบมีห้องพัก และมีการสร้างหัวมังกรไว้ที่หัวเรือ แต่ก็มีบางลำอย่างเช่นเรือของเราที่ได้สร้างเป็นลักษณะของเรือใบย้อนยุค เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายแห่งการเดินเรือในอดีต

null
ภายในถ้ำด่งเทียนกุง

null
ทิวทัศน์ของอ่าวฮาลอง จากจุดชมวิวที่ถ้ำ

05—

สักประมาณบ่าย 3 โมงกว่า เรือของเราก็มาเทียบบนชายฝั่งของถ้ำ ‘ด่งเทียนกุง’ ในขณะที่มีกรุ๊ปทัวร์อื่นๆ กำลังทยอยเดินขึ้นไปบนถ้ำกัน ไกด์ฮวานบอกว่าที่นี่จะมีจุดชมวิวทางด้านบนให้พวกเราเดินขึ้นไปถ่ายรูปได้ด้วย แต่ขอพาพวกเราชาวคณะเดินชมข้างในถ้ำกันก่อน

ถ้ำด่งเทียนกุงเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ด้านในมีการจัดแสงสี เพิ่มความสวยงามและความน่าสนใจให้กับหินงอกหินย้อยต่างๆ พร้อมทั้งมีทางสำหรับการเดินชมไว้ให้ด้วย ไกด์ฮวานอธิบายให้ฟังว่าตามตำนานเล่าขาน ว่ากันว่ามีมังกรแม่ลูกอาศัยอยู่ภายในถ้ำนี้ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยมากมาย และมีเสาค้ำฟ้าซึ่งเกิดจากหินงอกและหินย้อยมาบรรจบติดกันจนกลายเป็นเสา ดูสวยงามและลึกลับในคราวเดียวกัน

พอเดินออกมาจากถ้ำก็จะมีทางให้เดินขึ้น เดินลง ไปยังจุดชมวิวด้านบน ซึ่งถ้าเดินไปถึงบนสุดแล้ว ก็จะสามารถมองเห็นอ่าวฮาลองได้อย่างสุดลูกหูลูกตา

หลังจากไปเยี่ยมชมถ้ำก็ไม่มีอะไรมาก สักประมาณ 5 โมงกว่าลูกทัวร์ส่วนใหญ่ก็จะไปพายเรือคายัคแถวๆ หมู่บ้านชาวประมงกัน แต่พอดีเรากับแฟนไม่ได้เตรียมชุดที่พร้อมเปียกน้ำได้ บวกกับอยากนอนชิลล์ชมวิวอ่าวฮาลองบนดาดฟ้าเรือมากกว่า เลยขอข้ามกิจกรรมดังกล่าว

พอตกเย็น หลังจากลูกทัวร์กลับมาจากการพายเรือคายัค ทางทัวร์ก็ทำการจัดโต๊ะเสิร์ฟไวน์แดงและอาหารขบเคี้ยวบนดาดฟ้าของเรือ ให้พวกเราทุกคนได้ชมวิวอ่าวฮาลองตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน พร้อมจิบไวน์ดื่มด่ำวิวที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย คือจะหาประสบการณ์อะไรที่สุดแสนจะชิลล์ยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

ยิ่งพอหลังอาหารค่ำ มีกิจกรรมให้พวกเราตกปลา และร้องคาราโอเกะเล่นด้วยแล้ว ยิ่งแฮปปี้กันเข้าไปใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ไมโครโฟนดันมาเจ๊งเสียก่อน เลยไม่มีใครมีโอกาสได้โชว์พลังเสียงร้อง บางคนเลยนั่งตกปลาเล่น ในขณะที่ลูกทัวร์ส่วนใหญ่ทยอยถอยทับกลับไปนอนพักที่ห้อง

null
วิวจากดาดฟ้าเรือเฟอร์รี่ ตอนที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน

null
ทอดมองไปยังพื้นที่อ่าวฮาลองอันกว้างไกล จากชายหาดของเกาะซอยซิม

06—

เช้าของวันที่สอง ซึ่งเป็นวันกลับ พวกเราทุกคนเริ่มทานอาหารเช้ากันตอนประมาณ 7 โมง ไกด์ฮวานบอกพวกเราว่าตอนใกล้ๆ 8 โมง เรือจะไปจอดเทียบฝั่งบนเกาะซอยซิม (Soi Sim Island) ให้พวกเราได้มีโอกาสเดินเล่นริมชายหาด และถ่ายรูปบนจุดชมวิวของตัวเกาะเป็นครั้งสุดท้าย เสร็จแล้วหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นพวกเราต้องกลับมาขึ้นเรือ มาทานอาหารกลางวัน และเตรียมตัวเก็บของ เพราะเรือจะกลับไปเทียบท่าในเมืองฮาลองตอนประมาณเที่ยง และพวกเราก็จะขึ้นรถบัสกลับไปถึงเมืองฮานอยตอนประมาณ 5 โมงเย็น

สำหรับเกาะซอยซิมนั้น ถือว่าไม่ค่อยมีอะไรมากสำหรับเรา หลังจากที่เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ค่อนข้างสูงมากพอสมควร เราก็เดินลงมานั่งชมวิวเล่นตรงชายหาดจนครบเวลาแล้วก็ขึ้นเรือ ที่น่าสนุกสำหรับเรามากกว่าคือการได้ลองม้วนปอเปี๊ยะกับไกด์ฮวานและลูกทัวร์คนอื่นๆ ซึ่งปอเปี๊ยะที่พวกเราช่วยกันม้วนนั้นได้ถูกนำไปทอดโดยพ่อครัว แล้วนำมาเสิร์ฟเป็นอาหารจานหนึ่งให้พวกเราทานเป็นมื้อกลางวัน

เรียกได้ว่าทัวร์ครั้งนี้มีกิจกรรมให้ทำจนถึงเวลาสุดท้ายจริงๆ ส่วนก่อนที่เรือใกล้จะถึงท่า ลูกทัวร์แต่ละคนรวมถึงเรากับแฟนเอง ต่างก็ออกไปยืนชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของเรือเป็นครั้งสุดท้าย พยายามเก็บรายละเอียดและความรู้สึกที่มีต่ออ่าวฮาลองเอาไว้ในความทรงจำมากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่อีกเมื่อไหร่

null

07—

สำหรับทริปไปเที่ยวฮาลองเบย์ครั้งนี้ บอกได้เลยว่าเรามีแต่ความประทับใจ ทั้งในตัวไกด์ฮวานที่ดูแลลูกทัวร์ทุกคนเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบ และความสวยงามของธรรมชาติอันสมบูรณ์แบบของอ่าวฮาลองที่น่ามหัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง

ถ้าใครได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองฮานอยหลายๆวันหน่อย คุณไม่ควรพลาดมาชาร์จแบตให้กับตัวเอง ด้วยการมาเยี่ยมชมฮาลองเบย์ด้วยประการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมันคือที่ที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ ให้คุณได้มาพักผ่อนหย่อนใจกับคนพิเศษ หรือครอบครัว จากเมืองหลวงอันแสนวุ่นวายภายนอก จนคุณไม่อยากจะกลับไปในโลกแห่งความเป็นจริงเลยล่ะ

และที่สำคัญเมื่อคุณได้มาเห็นฮาลองเบย์กับตา คุณก็จะค้นพบว่า สวรรค์บนดินนั้นไม่ได้อยู่ไหนไกลเลย

—————

Information
• ทัวร์ฮาลองเบย์สามารถซื้อได้จากเค้าน์เตอร์โรงแรมทุกแห่งในฮานอย มีทั้งแบบ one-day trip ไปเช้าเย็นกลับ overnight onboard นอนพักบนเรือหนึ่งคืน และ island package นอนพักบนเกาะ
• กิจกรรมส่วนใหญ่ในฮาลองเบย์ คือ ล่องเรือสำเภา หรือเรือแบบเก่าไปในพื้นที่อ่างตงกิน จากนั้นแวะถ้ำที่มีอยู่มากมายในอ่าว ชมวิวมุมสูง รับประทานอาหารวัตถุดิบจากทะเลบนเรือ
• สำหรับสายผจญภัย แนะนำการพายเรือคายัคไปในเวิ้งอ่าว แวะชมหมู่บ้านชาวประมงลอยน้ำ หรือจะพายมุดถ้ำไปพบกับลากูนสุดอลังการได้
• ปัจจุบันมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ตรงสู่เมือง Hai Phong ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่ใกล้กับฮาลองเบย์มากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักในโรงแรมระดับ 3–5 ดาวก่อนได้ จากนั้นก็เที่ยวฮาลองเบย์ให้หนำใจ จากนั้นค่อยไปสัมผัสความเก่าแก่และมนต์เสน่ห์ของกรุงฮานอย

Writer & Photographer : Thip S. Selley

RECOMMENDED CONTENT

6.มีนาคม.2020

นิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่นประกาศเปิดตัวนิตยสาร LifeWear (ไลฟ์แวร์) เล่มที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “Livable Cities” หรือ เมืองน่าอยู่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในเมือง พร้อมเน้นย้ำถึงปรัชญา LifeWear ของยูนิโคล่ นิตยสาร LifeWear เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 2562