“American Dream
คือความฝันถึงแผ่นดินที่ซึ่งจะให้ชีวิตที่ดีกว่า ให้ความร่ำรวยได้มากกว่า
และให้โอกาสแก่ทุกคนที่มีความสามารถ”
จากหนังสือ The Epic of America
ในชีวิตของหลายๆ คนต้องมีสถานที่สักแห่งที่ ซึ่งเต็มไปด้วย ‘ความฝัน’ และ ‘ความหวัง’ ของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่อยากออกไปจาก comfort zone ของตนเอง แต่อย่างที่เรารู้ว่าความฝันมันจะเป็นสถานที่อันสวยงาม ตราบใดที่เราไม่ได้ตื่นขึ้นมาเจอโลกแห่งความเป็นจริง เพราะฉะนั้นหลายๆ คนจึงเก็บความหวังเหล่านี้ไว้เพียงในฝันและกลับไปอยู่ใน comfort zone อันอบอุ่นของเรา
แต่สำหรับบางคนแล้ว comfort zone ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่อันอบอุ่น แต่มันมีมากจนอึดอัด เหมือน แจ็ค ภูวิศ ธนาธรรมกูล ที่ออกไปตามหาความฝันที่อเมริกา โดยมีความหวังเดียวว่าเขาจะต้องตั้งตัวให้ได้ เราได้เจอกับเขาในงาน Hotel Art Fair ที่ผ่านมา และเริ่มต้นบทสนทนาอย่างฉุกละหุก ท่ามกลางเหล่างานศิลปะและเรื่องราวของความฝันที่เริ่มบรรเลง
จุด. เริ่มต้นของการเดินทาง
“เรียนจบมาประมาณ 5 ปี อยู่นี่เราทำงานตั้งแต่ทำกราฟิก เป็นช่างภาพ แล้วก็เป็นดีเจ เป็นพิธีกร เปิดร้านอาหารแต่ก็เจ๊งทุกอย่าง (หัวเราะ) อย่างอยู่เมืองไทยเราปาร์ตี้เยอะไม่ได้ไปไหนสักที ก็เลยอยากไปลำบากที่นู่นบ้าง เราคิดว่าอเมริกามันโอกาสเยอะกว่าก็เลยตัดสินใจไปเลย”
“พอไปอยู่ที่นู่น จริงๆ อยากกลับบ้านบ่อยมาก พอเข้าปีที่ 2 เนี่ยเริ่มจะกลับละ ปีที่ 3 ก็จะกลับ ปีที่ 4 ก็จะกลับให้ได้ แต่แบบมาแล้วยังไม่ได้อะไร ถ้ากลับไปก็ต้องเริ่มใหม่เพราะตอนนั้นก็ 30 แล้วไง มันก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ที่บ้านเป็นโรงงานแต่เราไม่อยากทำ พ่อแม่เขาสร้างมาให้เรา แต่เราไม่อยากได้ เราก็ต้องไปทำด้วยตนเอง กลับมาก็ต้องไปอยู่โรงงานมันก็ไม่ใช่อะไรที่เราอยากทำเลย”
จุด. สุดทางของชีวิต
“กว่าจะมาเป็นช่างสักจริงๆ ก็ปีที่ 4 ปีที่ 5 เลยมั้งครับ ก่อนหน้านั้นก็เป็นเด็กเสิร์ฟ เป็นบาร์เทนเดอร์ รับจ๊อบอื่นๆ ด้วย แต่ก็คิดว่า เฮ้ย เราจะเป็นบาร์เทนเดอร์จนอายุ 40 เหรอ มันก็ไม่ไหวนะ มันไม่มีอนาคตนะ มันต่อไม่ได้ คือจะ 50 แล้ว มาเขย่าชงเหล้าก็ไม่ได้ มันไม่มีหลักมีฐาน 60 ก็ทำอะไรได้ล่ะ เป็นช่างสักนี่ 60 เราก็ยังเป็นได้”
“ตอนนั้นเราตัดสินใจแล้วว่า ถ้าอันนี้ไม่เวิร์คนะ จะเข้าไปทำงานบริษัทละ แบบไปเป็นมนุษย์เงินเดือนแม่งเลย เพราะเกิดมาไม่เคยทำไง แบบสุดทางแล้ว เลยตัดสินใจไปสอบเป็นช่างสัก คือที่นิวยอร์กพอการสักมันถูกกฎหมาย อะไรมันก็เลยเยอะไปหมด ต้องสอบวิธีการรักษาความสะอาด วิธีการปฐมพยาบาล พวกต้องผายปอดอะไรอย่างนี้ แล้วก็แบบเราจะเก็บขยะอย่างไง วิธีไม่ให้แพร่เชื้อด้วย”
จุด. ยืนของผลงาน
“เราเองชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กแล้ว วาดรูปมาตลอด แต่ครอบครัวคนจีนน่ะนะ ถ้าบอกแม่ว่า เนี่ย อยากเป็นศิลปิน คนจีนก็จะบอกว่ามึงก็ไส้แห้งน่ะ ก็เลยต้องไปเรียนสถาปัตย์ แต่เรียนไปปีครึ่งก็ย้ายมาออกแบบผลิตภัณฑ์ ผมชอบความเพอร์เฟ็กต์ ชอบรูปทรงเรขาคณิต เพราะว่าทุกอย่างมันเริ่มมาจากจุดใช่ไหม จุดมันก็คือวงกลม นั่นก็คือรูปทรงเรขาคณิต งานของผมก็เลยจะเป็นแนว Geometry”
“เราไปเริ่มสักที่นู่น เพราะว่าเราชอบออกแบบรอยสักของตนเองแล้วมีคนมาเห็น มาจ้างให้ออกแบบให้หน่อย จนเราคิดว่า งั้นก็สักเองก็ได้ เพราะเรามีสไตล์ของเรา มันเลยเริ่มมาจากตรงนั้น ผมใช้ Instagram ในการโปรโมท คือมีร้านของตนเอง แต่ว่าคนจะสักก็อีเมลมาหาเรา นัดกันแล้วค่อยมาสัก ไม่มีใครเดินเข้ามาในร้านแล้วบอกว่าเนี่ยจะสัก ถ้าไม่นัดเราก็ไม่ให้เข้าร้าน”
จุด. หมายของความฝัน
“ทุกวันนี้ก็คือว่าใช้ชีวิตแบบ American Dream นะ เรามีลูกมีเมียซื้อบ้านซื้อรถ ไปอยู่ที่นู่นก็ไปได้แต่ต้องสู้น่ะ คือถ้าเราผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ที่นิวยอร์กนะ เราอยู่ที่นิวยอร์กได้ เราอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ นิวยอร์กมันโหดแต่มันก็ดี มันทำให้คนร้องไห้เยอะ เขาบอกว่านิวยอร์กน่ะมันจะกลืนมึงเข้าไป แล้วก็จะเคี้ยว แล้วก็ถุยเราออกมา แต่ถ้าเราลุกขึ้นมายืนแล้วเดินต่อไปได้นะ ก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายเราได้แล้ว”
ติดตามผลงานของแจ็ค ภูวิศ ธนาธรรมกูลได้ที่
Instagram : jackpoohvis
www.poohvis.com
—
RECOMMENDED CONTENT
พบกับตัวอย่างแรกภาคต่อหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์จากมาร์เวล Marvel Studios’ Deadpool & Wolverine พุธที่ 24 กรกฎาคม โดยภาคนี้กำกับการแสดงโดย Shawn Levy และแน่นอนกับการกลับมาของ Hugh Jackman ที่ไม่มีใครสามารถแทนได้จากบท Wolverine